บันเทิง

เอกเขนกดูหนัง:'Jessabelle'

เอกเขนกดูหนัง:'Jessabelle'

28 พ.ย. 2557

'Jessabelle' : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม

 
          แม้สถานะของ Jessabelle จะเป็นแค่หนังผีเล็กๆ ที่เข้าฉายแบบจำกัดโรงในสหรัฐอเมริกาและเผยแพร่ในรูปแบบวิดีโอ ออน ดีมานด์ คือการจ่ายเงินเพื่อดูหรือดาวน์โหลดผ่านเว็บไซต์ นั่นหมายถึงว่าค่ายหนังเองก็คงไม่สนใจไยดี หรือคาดหวังว่าจะได้กำไรทำเงินถล่มทลายสร้างรายได้เป็นกอบเป็นกำจากหนังผีเล็กๆ เรื่องนี้สักเท่าใดนัก ในขณะที่หน้าหนังของ Jessabelle เองก็ไม่ได้มีจุดขายหวือหวาไม่มีดาราระดับแม่เหล็กมาเรียกแขกไม่มีช่อมะกอกการันตีจากเทศกาลหนังใดใดซ้ำร้ายพล็อตประเภทผีเฮี้ยนตามอาฆาตมาดร้ายคนในบ้านผู้ย้ายเข้ามาใหม่ก็ถือเป็นความซ้ำซากของหนังในตระกูลเฮอเรอร์(Horror) ที่ทำตามๆ กันมาไม่รู้กี่เรื่องต่อกี่เรื่องแล้วแต่สิ่งที่ทำให้หนังผีเล็กๆ เรื่องนี้ ประสบความสำเร็จเหนือความคาดหมายด้วยรายได้กว่า 23 ล้านดอลลาร์ จากทุนสร้างแค่ 3.5 ล้าน คือบทและงานกำกับที่สามารถสะกดผู้ชมให้ติดตามเรื่องราวที่ปรากฏบนจออย่างต่อเนื่องตลอด 90 นาที ทั้งๆ ที่หนังขับเคลื่อนด้วยตัวละครหลักๆ แค่ไม่กี่คนภายในบ้านหลังหนึ่งเท่านั้น
 
          Jessabelle ออกแบบตัวละครในแนวทางหนังทริลเลอร์ (Thriller) ให้ตกอยู่ในภาวะจนตรอก ไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ปล่อยให้เผชิญชะตากรรมเพียงลำพังจนคนดูต้องลุ้นเอาใจช่วย เจสซี่เป็นตัวละครที่ว่านั้นเธอประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์จนสูญเสียสามีและลูกในท้อง ทั้งยังบาดเจ็บสาหัสขาหักต้องนั่งรถเข็นเดินเหินไปไหนมาไหนไม่ได้เป็นเวลาหลายเดือน พ่อผู้ห่างเหินเมินหมางกันไปนาน มารับเจสซี่ไปดูแลที่บ้านหลังเล็กริมทะเลสาบ ซึ่งที่นี่เองได้ทำให้เธอค้นพบความลับบางอย่างอันน่าพรั่นสะพรึง
 
          ความสนุกของ Jessabelle หลังจากนี้คือการไขปริศนาเหตุลึกลับที่มักเกิดขึ้นกับเธอบ่อยๆ และผีร้ายที่สิงสถิตในบ้านพ่อที่เธออยู่อาศัยแม้พล็อตจะไม่ได้มีความแปลกใหม่ แต่รายละเอียดของบทหนังถือว่าน่าสนใจ หนังปูเหตุการณ์ โดยทิ้งปมปริศนาเอาไว้ตั้งแต่ต้นเรื่องอย่างละเล็กละน้อย แล้วปล่อยให้คนดูตามเก็บรายละเอียดเหล่านั้นระหว่างทาง ก่อนจะหักมุมสร้างเซอร์ไพรซ์ได้อย่างเหนือชั้นในตอนท้าย พร้อมๆกับที่คนดูร้องอ๋อจากการปะติดปะต่อเรื่องราวเหล่านั้นได้เช่นกัน แต่ที่ทำให้หนังน่าสนใจไปกว่านั้นคือการกำกับ ที่สามารถคุมโทนและทิศทางของหนังไม่ให้กระจัดกระจาย จนเอาไม่อยู่เลยเถิดออกทะเลไป (แต่ก็มีบ้าง โดยเฉพาะฉากการปรากฏตัวของเพรสตัน เพื่อนสมัยเรียนมัธยมของเจสซี่)
 
          ความน่าสนใจของ Jessabelle อยู่ที่วิธีดำเนินเหตุการณ์ผ่านตัวละครหลักแค่ 2-3 คนตลอดทั้งเรื่อง ภายใต้บรรยากาศอึมครึมของแมกไม้ชายน้ำ ริมทะเลสาบในเซนต์ฟรานซิส เมืองเล็กๆ ในรัฐหลุยส์เซียนา ตัวละครเอกตกอยู่ในภาวะไม่สามารถช่วยเหลือตัวเองได้ ตัวละครสมทบคนสำคัญก็ดูไม่น่าไว้วางใจ เหตุการณ์ปริศนาซึ่งเกิดกับเธอในบ้านก็มีที่มาจากวิดีโอเทป ที่แม่ของเจสซี่บันทึกเอาไว้ก่อนตายแถมยังพยากรณ์เหตุการณ์ล่วงหน้าผ่านไพ่ทาโรต์เอาไว้ และตำนานภูติผีปีศาสของเฮติ ที่ปรากฏข้อความก่อนหนังจะเริ่ม
 
          เชื่อว่าการที่หนังพาตัวเองมาได้ในระดับนี้ ส่วนหนึ่งมาจากผู้กำกับ เควิน กรัวเติร์ด อดีตมือตัดต่อ Saw หนังทริลเลอร์เรื่องดัง ที่เขามีส่วนร่วมมาตั้งแต่ 5 ภาคแรก ก่อนจะมานั่งเก้าอี้กำกับเต็มตัวในภาคที่ 6 และ Saw3D: The Final Chapter ดังนั้นไม่ต้องแปลกใจที่การหักมุมใน Jessabelle ทำได้อย่างเหนือชั้น เพราะผู้กำกับได้รับอิทธิพลมาจากงานเก่าๆ ของตัวเองอย่างไม่ต้องสงสัย รวมถึงการตัดต่อที่วางจังหวะจะโคนได้อย่างถูกที่ถูกทางตามเส้นกราฟอารมณ์ของหนังเพราะเควินทำหน้าที่ตัดต่อหนังเองอีกหนึ่งตำแหน่ง (ที่น่าแปลกใจคือศักยภาพของตัวหนังสูงขนาดนี้แต่ทำไมสตูดิโอไลอ้อนเกตส์กลับเลือกที่จะฉายหนังทางออนไลน์มากกว่าจะเปิดฉายในที่ทางที่เหมาะสมของมันคือโรงภาพยนตร์) ส่วนคนเขียนบทนั้นสั่งสมเครดิตมาไม่เบาเลยทีเดียวเพราะเบนกาแรนท์ เป็นเจ้าของบทหนังทำเงินชุด Night at the Museum มาก่อนนั่นเอง
 
          เมื่อตัวละครหลักใน Jessabelle มีอยู่แค่ไม่กี่คน บท "เจสซี่" กุญแจสำคัญของเรื่องซึ่งตกเป็นของซาราห์ สนู้ก เธอก็ทำหน้าที่นี้ได้อย่างเยี่ยมยอด นักแสดงสาววัย 27 ปีจากออสเตรเลียคนนี้ ไม่ค่อยเป็นที่รู้จักนักในวงการหนัง เพราะส่วนใหญ่เธอแสดงแต่ทีวีซีรีส์ และมีผลงานหนังอยู่แค่ 3-4 เรื่อง เริ่มจากบทสมทบเล็กๆ ในหนังอาร์ตอย่าง Sleeping Beauty ก่อนจะคว้าบทนำในหนังรักตลกที่ออกฉายในบ้านตัวเองเรื่อง Not Suitable for Children ซึ่งทำให้เธอคว้ารางวัลนักแสดงนำหญิงจากหลายสถาบันในประเทศออสเตรเลียเลยทีเดียว (ด้วยหน้าตาที่ละม้ายคล้ายโจดี้ ฟอสเตอร์ นักแสดง/ผู้กำกับหญิงเก่งของฮอลลีวู้ดไม่แน่ว่าเราอาจจะได้เห็นผลงานของเธอมากขึ้นในฮอลลีวู้ดเร็วๆ นี้ขณะที่งานแสดงในทีวีซีรีส์ของออสเตรเลียก็ยังมีให้เห็นอยู่ตลอด)
 
          หนึ่งในปัจจัยแห่งความสำเร็จของหนังฮอลลีวู้ดทุกวันนี้คือการที่หนังเรื่องหนึ่งสามารถผสมผสานหลากหลายแนวทาง (Genre) ไว้ด้วยกันอย่างกลมกลืนไม่ยึดโยงตัวเองอยู่กับแนวใดแนวหนึ่งโดยเฉพาะเหมือนในอดีต หนังผีหลายเรื่องในปีนี้ก็มีลักษณะดังว่า อาทิ The Babadook ที่พาคนดูไปได้ไกลกว่าที่คาดหมาย แน่นอนว่ามันนำมาซึ่งความพึงพอใจและรายได้ที่ตามมา เช่นเดียวกับ Jessabelle ที่ไม่ผูกตัวเองอยู่หนังเฮอเรอร์ แต่ยังใช้การดำเนินเรื่องราวแบบปะติดปะต่อเหตุการณ์ทีละน้อยในลักษณะของหนังสืบสวนสอบสวน เข้ามาปะปนด้วย ทำให้หนังเล็กๆ เรื่องนี้มีดีกว่าแค่หนังผีหลอกหลอนโดยใช้เสียงหวีดร้องแสบแก้วหู งานเมกอัพน่าขยะแขยง หรือโทนภาพมืดทึม จนมองแทบไม่เห็นอะไรเหมือนหนังผีทั่วๆ ไป ที่สร้างมาก็เจ๊งไปในที่สุด
 
.......................................
(หมายเหตุ 'Jessabelle' : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม)