'Superman vs Batman'เทรนด์ดำแดงในฮีโร่ | คมชัดลึก

 

 

          นิตยสาร Wired เพิ่งจะเอาบรรดาฮีโร่บ้านนอกในแบบ Pixar มาขึ้นปกสัมภาษณ์ จอห์น ลาสซีเตอร์ เกี่ยวกับที่มาต่างๆ แต่นั่นคือคนเก่งในแบบ Underdog ซึ่งไม่สามารถอยู่นานได้แบบ “ซูเปอร์แมน” และ “แบทแมน” ที่ถูกการตลาดจับมาปะทะกันในปี 2016 

 

          เคยสงสัยมั้ยว่า...วีรบุรุษเหล็กมือเปล่าอย่าง ‘ซูเปอร์แมน’ ทำไมยังครองความเป็นซูเปอร์ฮีโร่ ‘ขวัญใจคนทั่วโลก’ มาได้ยาวนานจนถึงทุกวันนี้ ทั้งๆ ที่เขาไม่ใช่ลูกเศรษฐี ไม่ได้มีอาวุธไฮเทค ไม่มียวดยานใหญ่เล็ก ไม่มีคฤหาสน์หลังงาม ไม่มีคู่หูคอยติดตาม  

 

          “ซูเปอร์แมนอาจจะไม่เท่ห์หรือเพียบพร้อมเหมือนกับซูเปอร์ฮีโร่ตัวอื่นๆ แต่ไม่ใช่เพราะความธรรมดาสามัญหรอกหรือ...ที่ทำให้วีรบุรุษใต้ผ้าคลุมผืนแดงผู้นี้เป็นฮีโร่ตัวจริงในใจของใครหลายๆ คน” 

 

          รวมทั้ง แกรนท์ มอริสัน นักเขียนการ์ตูนชื่อดัง เจ้าของผลงานยอดนิยม อาทิ All Star Superman และ Batman รวมทั้ง X-Men ซึ่งเขาบอกว่า ซูเปอร์แมนคือหนึ่งในวีรบุรุษแห่งโลกการ์ตูนที่ผู้คนเชื่อถือมากที่สุด

 

          อะไรกันนี่? แม้แต่นักเขียนการ์ตูนผู้จรดปากกาสร้างตัวละครฮีโร่ฮิตระเบิดมามากมายนับไม่ถ้วนอย่าง ‘มอริสัน’ ยังไม่วายยกให้ซูเปอร์แมนเป็นวีรบุรุษในดวงใจของเขาด้วย…อยากรู้เหมือนกันว่า ‘ฮีโร่ผ้าคลุมแดง’ แอบปล่อยพลังพิเศษอะไรออกมา คนทั่วโลกถึงได้หลงรักเขา...

 

          “ความทรงจำแรกเริ่มของผมเกี่ยวกับซูเปอร์แมนคละคลุ้งไปด้วยความอับอายและผิดหวัง ผมยังจำภาพของเด็กชายตัวเล็กๆ ใต้ผ้าคลุมสีแดงแปร๊ดได้เป็นอย่างดี เขายืนแข็งทื่ออยู่คาบันไดบ้านทันทีที่รู้สึกตัวว่ากำลังถูกสายตาทุกคู่จับจ้องมองมา” 

 

          บ้านของผมตั้งอยู่ในชนบท ย่านเมืองกลาสโกลว์  วันนั้นเป็นช่วงฤดูร้อนของปี 1966   ผมเดินอกผายไหล่ผึ่งออกจากบ้านอย่างภาคภูมิใจตามประสาเด็กๆ แสงแดดเริ่มสาดส่องลงมาจนกระทบผืนผ้าสีแดงที่คลุมหลังผมอยู่ 

 

          ชุดซูเปอร์ฮีโร่รัดรูปสีน้ำเงินขลิบเหลืองที่ทำขึ้นเองนี้ ตัดกับสีแดงสดของผ้าคลุมได้เป็นอย่างดี สำหรับภารกิจของผมประจำวันนี้ก็คือ สำรวจตรวจตราความเรียบร้อยตามท้องถนนแถวบ้าน...ออกมาหาเรื่องใส่ตัวนั่นเอง

 

          จักรยานหลายสิบคันเพิ่งแล่นฉิวผ่านหน้าผมไป...มันเป็นของเด็กผู้ชายกลุ่มหนึ่งที่อาศัยอยู่ในละแวกนี้  พวกเขาโตกว่าผม เฮี้ยวกว่าผม แถมยังดูเท่กว่าผมอีก  ตอนที่จักรยานแล่นผ่าน ผมสังเกตเห็นสติ๊กเกอร์วงรีสีเหลือง ตรงกลางเป็นเงาสีดำคล้ายรูปเปลือกหอยแปะอยู่ที่จักรยานเหล่านั้น...ไอ้พวกนอกกฎหมาย ไอ้พวกศาลเตี้ย..เสียงตะโกนดังก้องมาจากแก๊งจักรยานของเด็กชายกลุ่มนั้น 

 

          พวกเขาซิ่งพาหนะคู่ใจผ่านไปพร้อมทำท่าเยาะเย้ยพลางร้องลั่นว่า “แบทแมน”  

 

          ท่ามกลางสถานการณ์คับขันเช่นนี้ ซูเปอร์ฮีโร่อย่างผมก็ได้แต่รีบหันหลังกลับ แล้วค่อยๆ ซ่อนผ้าคลุมสีแดงงี่เง่าของตัวเองไปแอบไว้ข้างหลังตลอดทางกลับบ้าน นี่ล่ะ...เหยื่อของกระแสนิยมในฮีโร่ตัวใหม่

 

          20 ปีถัดมา เรื่องราวการชำระแค้นของมนุษย์ค้างคาวกับเหล่าวายร้าย ซึ่งเขียนขึ้นโดยแฟรงค์ มิลเลอร์ นักเขียนชาวอเมริกันที่โด่งดังสุดๆ ในยุค 80s ก็ถูกนำกลับมาถ่ายทอดลงบนแผ่นฟิล์มอีกครั้งโดยใช้ชื่อว่า The Dark Knight Returns 

 

          การกลับมาของ ‘อัศวินแห่งรัตติกาล’ ในครั้งนี้ทำให้ ‘วีรบุรุษเหล็กนัยน์ตาทิพย์’ กลายเป็นเพียงแค่หุ่นเชิดที่ปิดหูปิดตาทำตามคำสั่งของแบทแมนไปโดยปริยาย  มิลเลอร์ คือผู้คืนชีพมนุษย์ค้างคาวฉบับปี 1930 และ 1970 ให้กลับมาเป็นที่รู้จักอีกครั้งในฐานะตัวเอกของเรื่องเล่าแนวดราม่าให้แง่คิดสอนใจในช่วงปี 80  

 

          เมื่อเข้าสู่ยุคแห่งเทคโนโลยีที่โปรแกรมคอมพิวเตอร์สามารถปรับเปลี่ยนผ้าคลุมสีแดง-เหลืองธรรมดาๆ ของซูเปอร์แมนให้กลายมาเป็นผ้าผืนแดงประดับคลื่นดาวและแถบขาวแบบธงชาติสหรัฐฯ ได้อย่างง่ายดาย ก็คงไม่แปลกอะไรหากยอดมนุษย์ผู้เคยเป็นวีรบุรุษในยุคหนึ่งอย่าง ‘ซูเปอร์แมน’ จะถูกปลิดชีพด้วยสมการง่ายๆ ชุดเดียวกันที่ส่งผมย้อนกลับไปในปี 1966 ซึ่งชุดหนังสีดำกำลังมาแรง

 

          และสีดำที่ว่านี้ก็คือ แบทแมน  ที่จะมาปะทะกันกับสีแดงอย่างซูเปอร์แมนในปี 2016 นั่นเอง

 

.......................................

(หมายเหตุ 'Superman vs Batman'เทรนด์ดำแดงในฮีโร่ : คอลัมน์ หนังโรงเล็ก โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร)