
เชฟแจงปัญหาเงิน9แสนเคลียร์ปมธุรกิจโย-บี
23 ต.ค. 2557
"อดีตเชฟ"ธุรกิจอาหารโย-บีฯเคลียร์ปมธุรกิจแจงหนี้9แสนได้รับการชำระแล้วเผยก่อนหน้านี้"บี"ไม่ทราบปัญหาแจงที่ต้องโทรบอกเกรงว่าจะไม่ได้รับเงินคืนด้านนางเอกสาวย้
จากปัญหาคาราคาซังของ "โย-ยศวดี หัสดีวิจิตร" กับ "บี-น้ำทิพย์ จงรัชตวิบูลย์" ล่าสุดอดีตเชฟที่เคยทำอาหารส่งให้แก่ผลิตภัณฑ์ "โย-บี ไดเอทฟู้ด" ได้ให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์กับ "หนังสือพิมพ์ คม ชัด ลึก" ชี้แจงในส่วนของใบแจ้งหนี้ที่เรียกเก็บเงินย้อนหลัง ที่นางแบบสาวกล่าวว่า ไม่เข้าใจว่ามีขึ้นมาได้อย่างไร อดีตเชฟอธิบายว่า ตามปกติการทำอาหารให้โย-บี จะมีเครดิต 15 วัน คือ 2 สัปดาห์
"ปกติการทำอาหารเราจะมีเครดิต 15 วัน คือ 2 สัปดาห์ ยอด 9 แสน เป็นค่าอาหาร 3 สัปดาห์ คือมันเลยดิว 15 วันที่จะต้องจ่ายมา ช่วงแรกเราคุยกันไม่มีการเซ็นสัญญา เป็นการตกลงกันด้วยวาจาเฉยๆ เพราะเห็นว่ายอดค้างจ่ายเยอะจึงได้ทวงไปทางคุณโย ความจริงเริ่มบอกตั้งแต่มียอด 7 แสนบาท แต่พอมาถึง 9 แสน เลยต้องบอกเป็นลายลักษณ์อักษร เพราะเห็นว่ายอดเริ่มเยอะ ที่ผ่านมาเราจะมีบิลเรียกเก็บเงินทุกสัปดาห์ ได้รับเงินตามดิวมาตลอด ส่วนเงิน 9 แสน ตอนที่ตกลงกัน คุณโยชำระเงินก้อนมา 2 แสน และมีการตกลงว่าจะผ่อนรายสัปดาห์ สัปดาห์ละ 2 หมื่นบาท จนกว่าจะครบ 7 แสน แต่พอมาถึงสุดท้ายธุรกิจของเขาจะปิดตัว ยอดเหลืออยู่ 4 แสน เขาเลยจ่ายมาเป็นก้อน ได้รับครบถ้วนในวันที่ 27 กันยายน สรุปว่าระหว่างเรากับคุณโยไม่มีหนี้สินติดค้างกันอีกแล้ว" เชฟกล่าว
ในส่วนของการพาดพิงเรื่องระหว่างการทำงานอาจจะมีปัญหาร่วมกันบ้าง อดีตเชฟของโย-บี กล่าวยอมรับว่าในระหว่างการทำอาหารต้องมีปัญหาอยู่แล้ว เพราะการทำอาหารให้คนเป็นร้อยคน คนละ 3 มื้อ จำนวน 5-6 ร้อยกล่องต่อวัน มันต้องมีปัญหาบ้าง อย่างเช่นอาหารเสีย ซึ่งอาจจะเป็นเพราะทางเราด้วย หรือการเก็บรักษาของลูกค้าด้วย แต่หากมีปัญหาเกิดขึ้นจะต้องแก้ไขกันไป และจะมีการทำอาหารไปชดเชยลูกค้า
ถามต่อว่าตอนที่มีปัญหาเรื่องเงินทำไมถึงตัดสินใจโทรหา "บี-น้ำทิพย์" เชฟคนเดิมกล่าวว่า ตั้งแต่ที่ทำธุรกิจมาเวลามีปัญหาส่วนใหญ่จะคุยกับ "โย" มาโดยตลอด แต่พอถึงจุดหนึ่งในเมื่อคุยกับโยแล้วยังไม่มีอะไรคืบหน้า ยังไม่ได้เงินที่ค้างอยู่ เลยคิดว่าน่าจะบอกหุ้นส่วนอีกคนหนึ่ง ซึ่งมีส่วนเกี่ยวข้องกับบริษัท
"ในตอนนี้เราคิดว่าหากมีปัญหาเกิดขึ้นมาจริงๆ ถ้าจะฟ้องร้อง เราไม่ได้ฟ้องร้องตัวบุคคล แต่ต้องฟ้องที่ตัวบริษัท ซึ่งมีทั้งคุณโยกับคุณบี ฉะนั้นเขาควรจะรับรู้เรื่องราวทั้ง 2 คน ก่อนที่เราจะดำเนินการอะไร เลยตัดสินใจโทรไปบอกคุณบี ซึ่งปกติไม่เคยได้คุยกับคุณบีเลย ถามว่าที่ตัดสินใจโทรไปหาคุณบี เพราะไม่ได้รับการตอบรับจากโยหรือเปล่า คือได้รับการตอบรับนะ แต่เรายังไม่ได้เงิน และกลัวว่าต้องมีการเตรียมพร้อมรับปัญหา เลยโทรไปแจ้งคุณบีก่อนว่าเกิดปัญหาอย่างนี้ขึ้น จะเคลียร์ยังไง เพราะเราไม่สามารถทำอาหารต่อได้
เนื่องจากเงินหมุนเวียนไม่ทัน และลูกค้าที่จ่ายเงินมาแล้วจะไม่ได้รับอาหาร ค่าใช้จ่ายในส่วนของต้นทุน จะมีค่าเช่า ค่าแรงงานที่เป็นต้นทุนปกติ แต่ต้นทุนที่ผันแปรคือ ค่าวัตถุดิบที่แตกต่างกันไปแต่ละสัปดาห์ ถ้าลูกค้ามากเราต้องจ่ายค่าของมาก ถ้าลูกค้าน้อยเราจะซื้อของน้อย เวลาที่รับรองจ่ายเงินออกไปก่อน จำนวนเงินจะประมาณ 2 แสนต่อสัปดาห์ แล้วแต่ลูกค้ามากน้อย ซึ่งเงินที่ต้องใช้หมุนเวียนในการซื้อของมันต้องมีมากพอ ซึ่งเงิน 9 แสน เป็นช่วงที่ธุรกิจอยู่ในช่วงขายดีมาก น่าจะประมาณเดือน เมษายน-พฤษภาคม แต่ช่วงหลังมาก็ดร็อปลงจนถึงธุรกิจปิดตัว" เชฟกล่าว
ถามว่าที่นางแบบสาวยังไม่จ่ายเงิน ได้ให้เหตุผลว่าอย่างไร เชฟคนเดิมกล่าวว่า โยบอกว่ารู้สึกว่าธุรกิจขาดทุน แต่ในทางกลับกัน เชฟคิดว่าไม่น่าจะขาดทุน
"เรามองด้วยเหตุผลและรู้ว่าธุรกิจมันเป็นยังไง มันไม่ใช่เงินที่ต้องรอลูกค้ามาจ่าย แต่คุณโยบอกว่ารู้สึกว่าเริ่มขาดทุน เราไม่รู้ว่าเขาอาจจะต้องไปลงทุนอะไรหรือเปล่า แต่ในส่วนของเราที่เป็นต้นทุนค่าอาหารกับราคาเต็มๆ ที่เขาได้ มันมีช่องว่างระหว่างกันอยู่พอสมควร ฉะนั้นเราเลยคิดว่าเขาไม่น่าจะขาดทุน ซึ่งไม่รู้ว่าเขาต้องเอาเงินไปลงทุนเพื่อขยายกิจการหรือเปล่า เพราะเหตุนี้เลยต้องแจ้งปัญหาไปทางคุณบี เพราะเขามีชื่อหุ้นส่วนในบริษัทด้วย" เชฟกล่าวทิ้งท้าย
ด้าน "บี" น้ำทิพย์ ให้สัมภาษณ์ว่าไม่อยากพูดถึงเรื่องนี้อีกแล้ว ตอนนี้กำลังอยู่ในช่วงดำเนินการปิดธุรกิจ เพราะตอนนี้ธุรกิจตัวนี้ ยังไม่ได้ปิดอย่างเป็นทางการ วอนขอให้คนที่ดูแลตรวจสอบบัญชี ให้ทำเอกสารให้เรียบร้อย
"เรื่องที่บีไม่ขอดูเอกสาร ตัวบีเองขอบอกเลยว่าไม่เคยปฏิเสธ ในการดูเอกสารและบัญชี เอาจริงๆ นะ เป็นใครก็ต้องอยากดู ในส่วนกับเชฟ เราจากกันด้วยดี เพราะตลอดเวลาที่ผ่านมาเรามีความทรงจำดีๆ ในการทำงานร่วมกัน บีถือโอกาสตรงนี้โปรโมทผลิตภัณฑ์ healthytasty ให้เชฟเลยแล้วกัน ส่วนเรื่องอื่นๆ บีไม่ขอพูดอีกแล้ว" บีกล่าวสรุป