
เดวิท เจียงนักแสดงรุ่นเก๋า
05 ต.ค. 2557
บันเทิงต่างประเทศ : เดวิท เจียง นักแสดงรุ่นเก๋า ตำนานหนังจีนกำลังภายใน : เรื่อง เสาวลักษณ์ ปึงทมวัฒนากูล /ภาพ อนันต์ จันทรสูตร์
เรียกว่าเป็นนักแสดงระดับตำนานของภาพยนตร์จีนกำลังภายใน ล่าสุด เดวิท เจียง ในวัย 75 ปี ได้เดินทางมาเมืองไทยเพื่อมาพบปะแฟนชาวไทยและโปรโมทภาพยนตร์ที่เขาเคยแสดงนำ 4 เรื่องคือ (the heroic ones - 13 พยัคฆ์ร้ายค่ายพระกาฬ (เสาร์ที่ 4 ต.ค.), the generation gap - แอ็กเนส ชาน ยอดรัก (เสาร์ที่ 11 ต.ค.), the new one-armed swordsman - เดชไอ้ด้วน ตอนใหม่ (เสาร์ที่ 18 ต.ค.) และ vengeance - แค้นไอ้หนุ่ม (เสาร์ที่ 25 ต.ค.) โดยทางช่อง ccm (celestial classic movies) จะนำกลับมาฉายใหม่ ทุกคืนวันเสาร์ เวลา 20.00 น.ทาง tot iptv 262 และ cth 78 งานนี้ "คมชัดลึก" ได้สัมภาษณ์นักแสดงหนุ่มใหญ่แบบเอ็กซ์คลูซีฟสุดๆ ที่โรงแรมโซฟิเทล แบงค็อก สุขุมวิท ได้ความดังนี้
@ ช่วงที่ผ่านมาแฟนชาวไทย ไม่ค่อยเห็นผลงานของคุณเลย ช่วงที่หายไป ไปทำอะไรมาบ้าง
ช่วงที่ผ่านมาผมไม่ได้หายไปไหน ก็ยังแสดงหนังและละครเหมือนเดิม ล่าสุดผมเพิ่งเซ็นสัญญากับฮ่องกงทีวี แต่มีปัญหา ซึ่งผมไม่ขอเอ่ยถึง ทำให้ละคร 3 เรื่อง ที่ถ่ายทำไปแล้ว ไม่สามารถออกอากาศได้ แต่ล่าสุดกำลังแสดงละครเรื่อง "ฟงหวิ๋น 2" ให้ช่องทีวีบี ซึ่งเรื่องนี้ได้แสดงร่วมกับ โจวเหวิ๋นฟะ คาดว่าแฟนๆ ชาวไทยน่าจะได้เห็นผลงานของผมเร็วๆ นี้
@ สุขภาพร่างกายตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง มีวิธีดูแลสุขภาพอย่างไร
คุณเห็นผมตอนนี้เป็นอย่างไรล่ะ (ยิ้ม) สุขภาพของผมตอนนี้ก็โอเค ไม่เคยเจ็บป่วย ส่วนวิธีดูแลสุขภาพ ไม่มีอะไรเป็นพิเศษ ถึงแม้ว่าผมจะมีอายุมากแล้ว แต่ผมก็ยังคงเป็นคนร่าเริงแจ่มใสตลอดเวลา ไม่คิดมาก ผมคิดว่าสุขภาพจิตเป็นสิ่งสำคัญ ถ้าสุขภาพจิตดีสุขภาพกายของเราก็จะดีไปด้วย
@ รู้สึกอย่างไร ที่ได้กลับมาเมืองไทยอีกครั้ง หลังจากที่ก่อนหน้านี้ คุณเคยมาถ่ายภาพยนตร์ไทยเรื่อง “พยัคฆ์ยี่เก” และ “เพชรตัดหยก” ที่เมืองไทยเมื่อหลายปีก่อน
ผมไม่ได้มาเมืองไทยมานานมากแล้วจริงๆ แต่ที่ผ่านมา ผมก็พาภรรยามาเที่ยวเมืองไทยหลายครั้งเหมือนกัน เพราะชอบทั้งอาหาร บรรยากาศ และสถานที่ท่องเที่ยว วันนี้ผมเดินทางมาเมืองไทยก็ตรงมาที่โรงแรมเลย ยังไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน แต่การมาเมืองไทยครั้งนี้ ทำให้ผมรู้สึกว่าเมืองไทยเปลี่ยนไปมาก โดยเฉพาะอากาศรู้สึกได้เลยว่าร้อนมาก แต่ผมก็คิดว่าทั่วทั้งโลก น่าจะเปลี่ยนแปลงไปมากเหมือนๆ กัน และการมาเมืองไทยครั้งนี้ ผมก็ไม่ได้ไปเที่ยวที่ไหน เพราะวันมะรืนนี้ผมต้องกลับแล้ว แค่ได้ไปไหว้พระพรหม
@ หลายคนมองว่า คุณเป็นนักแสดงที่เป็นตำนานของหนังจีนกำลังภายใน อยากทราบว่า หนังจอมยุทธในปัจจุบันกับสมัยก่อนมีความแตกต่างกันอย่างไร
ผมรู้สึกดีใจมากที่ ccm สามารถนำหนังเก่าๆ ของผมมาฉายอีกครั้ง เพราะหนังเก่าๆ ยุคนี้ หาดูได้ยากขึ้น และหนังสมัยนี้ ก็มีวิธีการผลิตที่แตกต่างกับสมัยก่อนมาก แตกต่างกันมากแน่นอน เพราะนักแสดงสมัยก่อน ถ้าต้องแสดงฉากบู๊ ก็จะต้องแสดงเอง ดังนั้นนักแสดงจะต้องเป็นกังฟูบ้างไม่มากก็น้อย แต่ถ้าเป็นสมัยนี้ วิวัฒนาการของการถ่ายทำ มันทันสมัยมากขึ้น เพราะฉะนั้นนักแสดงอาจไม่จำเป็นต้องเป็นกังฟู เพราะสามารถใช้สตั๊นแมนได้ และเวลาตัดต่อผู้กำกับ ก็สามารถใช้เอฟเฟกท์เข้าช่วยในฉากบู๊ ทำให้ดูเหมือนนักแสดงมีความเก่งกาจมากขึ้น อย่างตัวผมเองก็เป็นกังฟู เวลาถ่ายทำ 1 เทปผมสามารถทำท่ากังฟูได้ถึง 53 ท่า ซึ่งผมมั่นใจว่านักแสดงรุ่นใหม่ไม่สามารถทำได้แน่นอน
@ เคยแสดงภาพยนตร์มากกว่า 100 เรื่อง อยากทราบว่าคุณสนิทสนมกับนักแสดงที่แสดงร่วมกันมากแค่ไหน
การแสดงภาพยนตร์ในสมัยก่อนใช้เวลาในการถ่ายทำค่อนข้างสั้น แต่ว่าพวกเราทุกคนล้วนสนิทสนมกันแม้ก่อนหน้านี้เราจะไม่เคยแสดงภาพยนตร์ด้วยกันมาก่อนแต่พอเจอหน้ากันเราก็รู้เหมือนรู้จักกันมานานไม่ว่าจะเป็นใครก็ตาม ดูอย่างคุณที่เป็นนักข่าวผมก็สามารถพูดคุยเหมือนเรารู้จักกันมานานแล้ว
@ คุณคิดว่าอะไรคือสิ่งที่ทำให้คุณยังอยู่ในวงการได้นานขนาดนี้
เพราะว่าผมทำอย่างอื่นไม่เป็นเลยนอกจากการถ่ายละคร (ยิ้ม) ผมชอบวงการนี้มาก ไม่ว่าจะเป็นงานแสดงภาพยนตร์หรือละคร ผมทำงานทุกวันด้วยสนุกสนานและมีความสุข และทำด้วยความรัก นั่นคือสิ่งสำคัญที่ทำให้ผมอยู่ในวงการมาจนทุกวันนี้
@ เข้าวงการมานาน มีช่วงที่ไม่สบายใจหรือรู้สึกว่าความนิยมเริ่มลดลงบ้างหรือเปล่า
มันเป็นสิ่งที่แน่นอนอยู่แล้วที่ยิ่งอยู่วงการมานาน ความนิยมก็ลดลงเป็นเรื่องธรรมดา มันเป็นสัจธรรมเมื่อขึ้นไปจนถึงจุดสูงสุดก็ต้องค่อยๆ ล่วงลงมา ผมอยู่วงการด้วยความเข้าใจ แค่เราคิดเปิดใจให้กว้าง ผมเชื่อว่ามันจะไม่ส่งผลกระทบอะไรกับความรู้สึกของตัวเอง
@ ปัจจุบันนี้ภาพยนตร์ของจีนและฮ่องกงต่างได้รับความนิยมลดจากแต่ก่อน คุณคิดว่าอะไรคือปัจจัยที่ทำให้ความนิยมลดลง
นิยมลดลงจริงเหรอ ในความคิดของผมภาพยนตร์จีนและฮ่องไม่ได้ตกต่ำมาก หากเทียบกันจริงๆ แล้วมาตรฐานภาพยนตร์ของจีน-ฮ่องกงย่อมสูงกว่าเกาหลีอย่างแน่นอน ตามความคิดของผมคนจีนนิยมดูละครโทรทัศน์ของเกาหลีมากกว่าดูหนังของเกาหลี การที่ละครเกาหลีได้รับความนิยมผมคิดว่าเป็นสิ่งที่ดีเพราะมันเป็นการท้าทายอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้คนจีนต้องพัฒนาตัวเองให้มากขึ้น
@ อยากฝากอะไรถึงแฟนๆ คนไทยบ้าง
ขอบคุณแฟนๆ ที่ยังคงให้ผมอยู่ในใจของพวกคุณอยู่ถึงทุกวันนี้ แม้ว่าจะผ่านยุคทองของหนังจีนในเมืองไทยมานานแล้วก็ตาม ผมก็อยากให้แฟนๆ สนับสนุนวงการหนัง-ละครจีนกันต่อไปเรื่อยๆ เพราะว่าถ้าไม่มีแฟนๆ คอยสนับสนุน วงการนี้ก็ไม่สามารถอยู่ต่อไปได้