
แอนนาเบลเผชิญหน้าตุ๊กตาผีเรื่องจริงที่ทำมาเป็นภาพยนตร์
01 ต.ค. 2557
"แอนนาเบล" เผชิญหน้าตุ๊กตาผีเรื่องจริงที่ทำมาเป็นภาพยนตร์ : บันเทิงต่างประเทศ
แอนนาเบลเป็นตุ๊กตาหน้าตาน่าเกลียดในคดีสำคัญของเอ็ดและลอร์เรน วอร์เรน ผู้ชำนาญด้านเรื่องเหนือธรรมชาติซึ่งเธอได้สร้างความสยองเอาไว้บนจอครั้งแรกในภาพยนตร์ของเจมส์ วาน เรื่อง “The Conjuring” แต่ในภาพยนตร์เรื่อง "Annabelle" จะเป็นภาพยนตร์ที่บอกเล่าเรื่องราวของตุ๊กตาแอนนาเบลทั้งหมด ซึ่งมีตัวตนจริงและถูกเก็บไว้ในพิพิธภัณฑ์เกี่ยวกับเวทมนตร์คาถาในคอนเนคติคัท มีเพียงนักบวชที่เดินทางมาให้ศีลเธอเดือนละ 2 ครั้งเท่านั้น ซึ่งนักแสดงนำของเรื่องอย่าง แอนนาเบล วอลลิส จะมาบอกเล่าถึงการถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้
@ คุณเข้ามาร่วมงานในภาพยนตร์เรื่องนี้ได้อย่างไร
ฉันส่งเทปทดสอบบทไประหว่างที่ฉันถ่ายทำหนังอีกเรื่องหนึ่งในยุโรป และโชคดีที่ได้รับการตอบรับเป็นอย่างดี ฉันก็เลยบินไปกองถ่ายโดยเซ็นสัญญาไปก่อนทั้งที่ยังไม่ได้พบใครเลย ฉันแทบไม่อยากเชื่อเลยว่านี่เป็นความจริงและหวังว่าทีมงานคงไม่เสียใจกับสิ่งที่พวกเขาตัดสินใจลงไป
@ ช่วยพูดถึงบท มีอา ฟอร์ม ที่คุณแสดงนำได้ไหม ว่ามีอะไรในที่คุณชอบและรู้สึกท้าทายจนอยากมารับบทนี้
ฉันสนใจความเข้มแข็งในตัวละครหญิงที่ฉันอ่านบท สำหรับมีอา ฉันตกหลุมรักความซับซ้อนยุ่งยากของสิ่งที่เธอต้องฝ่าฟัน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่เธอต้องผ่านการเปลี่ยนแปลงทางสังคมครั้งใหญ่เมื่อยุค 70 หรือจะการที่เธอเพิ่งได้เป็นแม่คนที่ต้องประสบปัญหาต่างๆ จนถูกมองว่าสภาพจิตเธอไม่ปกติ เธอต้องต่อสู้กับปัญหาที่เกิดขึ้นเพียงลำพัง และนั่นจะทำให้เธอกลายเป็นคนที่เข้มแข็งที่สุด ฉันคิดว่าความท้าทายทั้งหมดนั้นเป็นสิ่งที่สามารถทำให้บทนี้น่าสนใจ ฉันจำได้ว่าเคยคุยกับผู้กำกับ (จอห์น ลีโอเนตติ) ว่า "ฉันว่าฉันสามารถทำให้ตัวละครนี้น่าสนใจมากๆ ได้" แล้วเขาก็บอกว่า "ผมเชื่อคุณ" คุณต้องมีความเชื่อมั่นในสิ่งที่คุณเลือก แล้วยิ่งคุณมุ่งมั่นทุ่มเทมากเท่าไหร่ ผู้ชมก็จะยิ่งเชื่อมากเท่านั้น
@ การอ่านบทร่วมกับวอร์ด ฮอร์ทัน ตอนคุณทดสอบบทร่วมกับเขาและนักแสดงคนอื่นๆ ที่จะมารับบทเป็นจอห์น สามีของมีอา เป็นอย่างไรบ้างครับ
มันน่าสนใจมาก ที่ได้เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการนั้น และได้มีส่วนร่วมในการคัดเลือกนักแสดง ซึ่งสำคัญมากต่อเรื่องราวในส่วนของฉันและต่อหนังทั้งเรื่อง แล้วมันก็ดีจริงๆ ที่ได้พบคนอย่างวอร์ด ซึ่งยังคงบุคลิกความเป็นอมตะ และความสง่างามแบบอเมริกันอยู่ในตัวเขา ซึ่งทำให้เขาสมบูรณ์แบบ สำหรับการมารับบทจอห์น
วอร์ดอ่านบทด้วยความละเอียดอ่อนมาก และถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึก ว่าเขาตกหลุมรักมีอาได้อย่างสมจริง และพยายามเข้าใจสิ่งเลวร้ายที่เธอเผชิญอยู่ตามลำพังเสียเป็นส่วนใหญ่ และยังคงพยายามคอยช่วยเหลือเธอ แต่ท้ายที่สุดแล้ว พวกเขาก็ต้องเผชิญสถานการณ์ที่ต่างกันโดยสิ้นเชิง มันจึงเป็นเส้นแบ่งบางๆ ระหว่างการเป็นคนที่ไม่ยอมเชื่อ แต่ขณะเดียวกันก็ต้องเป็นตัวละครที่ผู้ชมชอบได้ด้วย ฉันคิดว่าเขามีคุณสมบัติเหล่านี้ทั้งหมดค่ะ
@ การทำงานกับจอห์น ลีโอเนตติในฐานะผู้กำกับเป็นอย่างไรครับ
จอห์นเยี่ยมมาก เขาเป็นคนใจดี เอื้อเฟื้อ เปิดกว้าง และสื่อสารได้ดี เขาเชื่อมั่นในตัวนักแสดงมาก เพราะกระบวนการคัดเลือกนักแสดง เขาเลือกตามความเหมาะสมกับบทบาท มันจึงกลายเป็นการทำงานที่มีความเป็นอิสระสูง ฉันพูดไม่ถูกเลย ว่าจะขอบคุณจอห์นยังไงดี ที่เขาเห็นเทปของฉัน แล้วเห็นมีอาในตัวฉันหรือเห็นบางสิ่งในตัวฉันที่เขาสามารถทำงานด้วยได้ และเมื่อฉันได้คุยกับเขา เขาบอกว่าที่เขาโทรมาหาฉัน เพราะการแสดงของฉันล้วนๆ ฉันรู้สึกภูมิใจมาก ในการทำงานเขาช่วยให้ทีมงานมีขวัญกำลังใจที่ดีและเราก็ได้รับประสบการณ์ที่น่าพอใจในงานนี้ ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขาจริงๆ
@ คุณเป็นแฟนหนังสยองขวัญหรือเปล่า มีฉากไหนที่ชวนสยองหรือเปล่าในการทำหนังเรื่องนี้
มีหนังสยองขวัญฉลาดๆ และมีหนังสยองขวัญคลาสสิก ที่น่าทึ่งมากมายด้วย ฉันคิดว่าเราได้ทำหนังแนวนี้ ให้มีความน่าสนใจและชาญฉลาด มันไม่ใช่แค่หนังที่น่ากลัวแต่ยังเป็นหนังดีด้วย ฉันคิดว่างานดีๆ ก็จะฉายแสงปรากฏให้เห็น และแน่นอนรวมถึงหนังเรื่องนี้ด้วย มันทำได้ดีมากในการเผยความน่าสนใจของหนังแนวนี้ และสร้างความน่าจดจำในแง่การที่มันช่วยให้เราได้หลีกหนีออกจากโลกแห่งความเป็นจริง รวมถึงความน่าติดตาม ความน่าอัศจรรย์ และความชวนระทึกของช่วงเวลาเหล่านี้ ฉันชอบหนังสยองขวัญเพราะสิ่งเหล่านี้ สิ่งที่อาจไม่ได้เป็นแกนหลัก และฉันคิดว่าตัวหนังก็แสดงให้เห็นสิ่งเหล่านั้น
@ การถ่ายทำหนังเรื่องนี้ในลอสแองเจลิสเป็นอย่างไรครับ
ฉันรู้สึกโชคดีมาก ฉันมาจากลอนดอนและคุ้นเคยกับการเดินฝ่าฝน ยืนอยู่ในฉากเปรอะโคลน มีเรื่องให้บ่นอยู่ตลอดเวลา ที่นี่ฉันไม่มีอะไรให้บ่นได้เลยค่ะ แสงอาทิตย์ส่องจ้า มีทุกสิ่งทุกอย่างที่เราฝัน เพื่อนๆ ฉันอิจฉากันทั้งนั้น แอลเอเป็นเมืองที่สุดยอด แล้วมันก็เป็นความสุดยอดที่ได้ทำหนังในฮอลลีวู้ด มีครั้งหนึ่งเราอยู่กันที่สุสานและมีป้ายฮอลลีวู้ดอยู่ข้างบนแล้วคุณก็รู้สึกว่า "โอ้ ว้าว" มันเป็นช่วงเวลาหนึ่งเลยล่ะที่คุณต้องหยิกตัวเองว่าไม่ได้ฝันไป นี่เป็นศูนย์กลางของสิ่งที่เราทำเลย มีผู้คนที่ทุ่มเทมากมายและทีมงานก็น่าทึ่งมาก ฉันไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้ทำงานกับทีมงานและผู้คนระดับนี้อีกหรือเปล่า ฉันก็เลยมีความสุขกับทุกเวลาที่ถ่ายทำหนังเรื่องนี้
หวั่นผวา สั่นประสาทพร้อมกันได้แล้ววันนี้ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น