บันเทิง

โลกใบนี้ดนตรีไทย:'จะเข้ฟลามิงโก้'

โลกใบนี้ดนตรีไทย:'จะเข้ฟลามิงโก้'

17 ก.ค. 2557

'จะเข้ฟลามิงโก้' : คอลัมน์ โลกใบนี้ดนตรีไทย โดย... ขุนอิน

 
 
          เครื่องดนตรีไทยจะแบ่งออกเป็น 4 ประเภทด้วยกันก็คือ ดีด สี ตี เป่า กล่าวโดยว่าการแบ่งประเภทของเครื่องดนตรีไทยนั้น จะแบ่งโดยวิธีที่ทำให้เกิดเสียง เช่น ระนาดเอก จะทำให้เกิดเสียงหรือให้เป็นเพลงได้ด้วยจากการตี ก็จะจัดอยู่ในประเภทตี ดังนั้นแล้วเครื่องดนตรีไทยเราที่มีมากมายหลายชนิดก็จะถูกแบ่งอยู่ตามประเภทต่างๆ ทั้ง 4 ประเภทนี้นั่นเอง และเครื่องดนตรีไทยของเรานั้นถ้าจะว่ากันจริงๆ แล้วนั้นก็จะมีความไพเราะและงดงามที่แฝงความเป็นศิลปะอยู่ในตัวเอง ซึ่งสามารถนำไปใช้นอกเหนือจากที่เราใช้บรรเลงกันตามปกติ ในอดีตเครื่องดนตรีไทยบางชนิดนั้นก็สามารถสร้างความโด่งดังในรูปแบบภาพยนตร์มาแล้ว อย่างเช่น ระนาดเอกกับภาพยนตร์เรื่องโหมโรงหรือขิมกับละครเรื่องคู่กรรม นอกจากนี้แล้วยังมีรายการทีวี บางรายการนั้นมีนักดนตรีไทยที่มีความสามารถต่างๆ ได้นำเครื่องดนตรีไทยมาโชว์ความแปลกใหม่ในการเล่นให้ผู้ชมได้ชมกันทางทีวี ดังนั้นแล้ว เครื่องดนตรีไทยมีความเป็นศิลปะชั้นสูงแอบแฝงอยู่ในตัว เพียงแต่ว่าคนที่เล่นดนตรีไทยจะมองให้เป็นและมาปรับแต่งกันอย่างไรเท่านั้นเองครับ
 
          และเมื่อไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมานี้เองผมได้ชมรายการ เกม 1000 หน้า เอื้ออาทร ซึ่งเป็นรายการที่นำเสนอความสามารถของศิลปินแขนงต่างๆ สลับกันมาโชว์ที่หลากหลายเพื่อพิชิตของรางวัลและมีบ่อยๆ ครั้งที่รายการนี้เปิดไดัโอกาสให้ศิลปินนักดนตรีไทยเดิม ได้นำเสนอการโชว์ในรูปแบบของเครื่องดนตรีไทย รายการได้นำเสนอการโชว์เดี่ยวดนตรีไทยที่ดูแล้วต้องบอกว่าสะดุดตาและสะดุดหูเป็นอย่างยิ่ง ซึ่งในโชว์นั้นได้ใช้ชื่อว่า "จะเข้ฟลามิงโก้"  คือด้วยชื่อของโชว์ก็สามารถทราบได้แล้วว่าคือการนำจะเข้เครื่องดนตรีไทยของไทยเรามาดัดแปลงเล่นเพลงในสไตล์ฟลามิงโก้ ซึ่งก็คือเป็นทำนองเพลงที่ใช้ประกอบในการเต้นระบำฟลามิงโก้ ที่เป็นระบำอันเก่าแก่ชนิดหนึ่งของประเทศสเปนนั่นเอง ง่ายๆ ว่าก็คือการนำจะเข้ไทยไปดีดแทนกีตาร์ฟลามิงโก้หรือจะเรียกให้ขัดเจนก็คือ จะเข้สไตล์ฟลามิงโก้ นั่นเองแหละครับ ซึ่งผู้ที่โชว์การดีดจะเข้ฟลามิงโก้นั้นเป็นสุภาพสตรีสาวสวยวัยประมาณ 20 ปีกว่าๆ ชื่อว่า ครูพิมพิไล กัญญา ฝีมือไม่ต้องบรรยายเพราะรูปแบบในการโชว์นั้นสามารถพิชิตรางวัลของรายการเกม 1000 หน้าไปได้ มันก็จะบ่งบอกความเก่งกันอยู่ในตัวแล้วครับ
 
          ครูพิมพิไล กัญญา ท่านนี้หัดเล่นจะเข้มาตั้งแต่อายุ 9 ขวบ ที่โรงเรียนเทศบาลวัดโคกกระท้อนกับ อาจารย์ชัยศักดิ์ คงแก้ว แล้วก็มาศึกษาต่อที่ วิทยาลัยนาฏศิลปนครศรีธรรมราช และมาจบการศึกษาในระดับปริญญาตรีที่สถาบัณบัณฑิตพัฒนศิลป วิชาเอกดนตรีไทย (จะเข้) ปัจจุบันนี้เป็นครูสอนดนตรีไทยอยู่ที่โรงเรียนตันติวัตร อ.ทุ่งสง จ.นครศรีธรรมราช แต่การเป็นนักดีดจะเข้ทั่วไปหรือครูสอนดนตรีไทยก็ใช่ว่าจะดีดจะเข้ให้เป็นแนวฟลามิงโก้ ได้กันง่ายๆ ทันทีนะครับ เพราะว่าเรื่องแบบนี้จะต้องมีการฝึกฝนที่ต่างกันไปจากเดิมและที่สำคัญต้องรู้จักปรับเปลี่ยนและประยุกต์เครื่องดนตรีจะเข้ ก็คือต้องเปลี่ยนรูปแบบขอบตัวเครื่องดนตรี ซึ่งโดยแต่เดิมจะเข้ ทั่วไปจะมี 3 สาย 9 นม แต่จะเข้ที่ครูพิมพิไล ใช้ดีดนั้นจะมี 4 สาย 13 นม ก็คือที่เขาเรียกว่า จะเข้โครมาติก มีระดับเสียงเท่ากับของดนตรีสากล ซึ่งตรงนี้ครูพิมพิไล นั้นได้ประโยชน์จากการเป็นลูกศิษย์ของ อาจารย์วสุ ทวีลาภ แห่งโรงเรียนดนตรีทวีลาภ  ต้นตำรับเครื่องดนตรีไทยโครมาติก เจ้าแรกเจ้าเดียวของเมืองไทย และทีสำคัญครูพิมพิไล ต้องปรับการเล่นของตัวเองโดยใช้นิ้วมือดีดจะเข้ฟลามิงโก้ หรือจะเข้โครมาติก ซึ่งจะไม่ใช้ไม้ดีดเหมือนจะเข้ทั่วๆ ไปแบบเดิม ก็คือจะใช้นิ้วดีดเป็นลักษณะเดียวกันกับกีตาร์ฟลามิงโก้ต้นตำรับสเปนนั่นเองแหละครับ ดังนั้นแล้วจึงเป็นเรื่องยากกว่าการดีดจะเข้ทั่วๆ ไปนั่นล่ะครับและจะยากอย่างไรสนุกขนาดไหนท่านผู้อ่านสามารถเข้าไปชมจะเข้ฟลามิงโก้ของครูพิมพิไล กัญญา ได้โดยเข้าไปที่ยูทูบ แล้วพิมพ์ว่า จะเข้ฟลามิงโก้ ทุกท่านก็จะสามารถได้ชมและให้กำลังใจกันได้ครับ
 
          เอาล่ะครับก่อนจะจากกันไปผมก็ต้องขอขอบคุณรายการเกม1000 หน้า ที่เปิดโอกาสให้กับนักดนตรีไทยเดิมรุ่นน้องๆ ของผมหลายต่อหลายคนนั้นได้มีโอกาสได้ขึ้นเวทีโชว์ความสามารถของพวกเขาออกสื่อรายการโทรทัศน์ ซึ่งจะว่ากันจริงๆ แล้วนั้นมันเป็นเรื่องยากสำหรับนักดนตรีไทยเดิมยุคนี้จริงๆ ครับ และที่ผ่านมานั้นก็ไม่ใช่แค่จะเข้ฟลามิงโก้ ของครูพิมพิไล กัญญา ยังมีวงขิม สุวรรณหงส์ กลองไทยอารามดรัมเมอร์ ฯลฯ และอีกหลายๆ ท่าน หลายๆ คณะที่ได้ผ่านการโชว์ในรายการนี้มาอย่างมากมายครับ ขอบคุณครับ
 
.......................................
(หมายเหตุ 'จะเข้ฟลามิงโก้' : คอลัมน์ โลกใบนี้ดนตรีไทย โดย... ขุนอิน)