บันเทิง

30ปีที่จากไปของ'สุชาติ เทียนทอง'

30ปีที่จากไปของ'สุชาติ เทียนทอง'

23 มิ.ย. 2557

30ปีที่จากไปของสุชาติ เทียนทอง : ลูกทุ่ง

 
 
 
          วันนี้เมื่อ30ปีที่แล้ว (23 มิถุนายน พ.ศ. 2528) วงการลูกทุ่งต้องเสียนักร้อง-นักแต่งเพลงมือดี นาม สุชาติ เทียนทอง ไปอย่างไม่มีวันกลับในวัยเพียง47ปี ด้วยโรคหัวใจล้มเหลว ทีมข่าวบันเทิง”คมชัดลึก”ขอร่วมรำลึก30ปีและนำประวัติของนักแต่งผู้นี้มาให้ได้ร่วมระลึกกัน สุมน เทียนทอง วัย 63 ภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากของสุชาติ เทียนทองย้อนความหลังในวันที่หัวหน้าครอบครัวเสียชัวิตให้ฟังว่า “ พี่ สุชาติ เทียนทอง เสียชีวิตด้วยโรคหัวใจ ตอนนั้นพี่เขาอายุ 47 ปี รักษาตัวจนไม่มีเงินรักษา เข้าออกรพ.เปาโลจนพี่จำหมายเลขประจำตัวคนไข้ได้เลยคือเลข 44779 วันที่เขาตาย เขาไม่เป็นไรเลยนะ ตอนเย็นวันที่ 22มิย. พี่เขานั่งดูสด จิตรดา ต่อยมวยอยู่ ตอนนั้นแม่เขาก็ป่วยอยู่ที่ราชวิถี พี่สุชาติเขาไปบนกับพระพิฆเนศที่ห้องอัดเสียงของเฮียเซี๊ยะ จาตุรงค์ให้แม่รอด ตัวเขาจะตายก็ไม่เป็นไร ตอนนั้นนั่งกินเหล้ากับแกล้มเป็นเสือร้องไห้ แม่เขาไม่ตายอยู่ได้2ปี “
 
          สุมน เล่าถึงเพลงสุดท้ายในชีวิตการแต่งเพลงของสุชาติว่า
          “ ก่อนตายพี่เขาแต่งเพลง “ พบกันที่เชิงตะกอน” ให้โสภณ มนต์สุพรรณ ร้อง ยังตัดแผ่นไม่เสร็จเลย คืนนั้นพี่ชาติเขาลงมาเปิดประตูให้ลูกน้องเขาตอนตี3 ก็มานอนคุยกันเรื่องต่างๆ เช้ามาเขาก็ตาย หมอบอกว่าหัวใจล้มเหลว แกชอบกินยาแก้ปวด(ชนิดซอง)กับเครื่องดื่มชูกำลัง แกอาจจะกินเข้าไปมาก ปกติเราไม่เคยห่างหมอ “
 
          หลังสิ้นหัวหน้าครอบครัว สุมน ภรรยาคนสุดท้ายของสุชาติบอกว่า 
          “ตอนนั้นมีลูก4คน เขากับพี่มีลูกด้วยกัน2คนลูกติดเดิม2คน เพราะเมียก่อนหน้านี้เขาไปมีคนใหม่ ตอนนั้นหนักมาก พ่อพี่เขาเสีย เราก็ร้องเพลงตามห้องอาหาร ขายว่าวที่สนามหลวง แบกไม้อัดได้วันละ16บาท สามคนแม่ลูก ตอนนี้ลูกเรียนจบหมดแล้ว ยากลำบากมาก ทุกวันนี้ก็กลับไปอยู่บ้านที่จ.อุทัยธานี บางทีก็มาอยู่บ้านที่สนามบินน้ำ ซึ่งเป็นบ้านของเฮียจุ่น กรุงไทย เขาให้อยู่ ส่วนเรื่องลิขสิทธิ์เพลง ศาลตัดสินให้ทางพี่กับทางเสียงสยามต่างคนต่างขายได้ ใครจะใช้เพลงก็ติดต่อมาที่พี่ได้"
 
          ผู้สื่อข่าวถามถึงการทำบุญให้กับสุชาติ เทียนทองที่ครอบครัวทำมาตลอดทุกปีและปีนี้ก็เช่นกันโดยสุมนบอกถึงการทำบุญในปีนี้ว่า
          “ พี่กับลูกๆทำบุญเลี้ยงพระให้พี่เขาทุกปีเราทำเล็กๆไม่ได้บอกใคร ปีนี้ครบ30ปีพี่จะทำใหญ่ให้เขา บอกนักร้องไว้หลายๆคน เราทำกับข้าวเยอะหน่อยเลี้ยงพระเลี้ยงคน ก็ฝากเชิญนักร้องที่เคยร้องเพลงพี่ชาติให้มาร่วมกัน เราไม่รวยทำได้แค่นี้ ปีนี้เราก็ทำที่ วัดบางกะจะ ต.สำเภาล่ม อ.เมือง จ.พระนครศรีอยุธยา (ตรงข้ามวัดพนัญเชิง) ในที่ 23 มิถุนายน 2557 เรียนเชิญทุกคนที่ยังระลึกนึกถึงพี่ชาติมาร่วมบุญกัน”
 


ประวัติ
          สุชาติ เทียนทอง มีชื่อจริงว่า ประเทือง เทียนสุวรรณเกิด พ.ศ. 2481 ที่ ต.สำเภาล่ม อ.เมือง พระนครศรีอยุธยา อาชีพเดิม เคยพายเรือขายของ ทำงานรับจ้าง ชกมวย เมื่ออายุ 18 ปี ได้เข้าเป็นสมาชิกวงจุฬารัตน์ ของครูมงคล อมาตยกุล บันทึกเสียงครั้งแรก จากเพลงที่แต่งเองในเพลง “บ้านนาของเรา” และมีเพลงที่เป็นที่รู้จักหลายเพลงอาทิ ครวญหาแม่, ปักษ์ใต้วิปโยค, ปลาบู่ทอง, วันสุดท้าย และ วิวาห์อาดูร ก่อนจะลาออกจากวงจุฬารัตน์ และมาตั้งวงดนตรีของตนเอง ต่อมาต้องผ่าตัดต่อมทอนซิล ทำให้เสียงของสุชาติที่เคยหวานไม่สามารถร้องเพลงแบบเดิมได้ จึงเปลี่ยนแนวมาร้องเพลงแนวสนุก อาทิ เหล้าจ๋า, เพราะคุณคนเดียว, ฮักกันบ่ได้ , แว่นวิเศษ ได้รับความนิยมอย่างมาก และยังได้นำเอาเพลงสากล มาแปลงเนื้อเป็นเพลงไทยลูกทุ่ง อย่างเพลง มารักกัน ดิงดองกันบ่ ยิ่งเมายิ่งมัน
 
          ในปี 2527 สุชาติต้องยุบวงดนตรี และทุ่มเทกับการแต่งเพลง เพื่อเก็บเงินไว้ทำศพแม่ เพลงสุดท้ายที่สุชาติได้แต่งไว้มีชื่อว่า "พบกันที่เชิงตะกอน" รวมแล้ว สุชาติ เทียนทองมีผลงานเพลงที่ประพันธ์ไว้ 484 เพลง โดยใช้นามปากกา ว่า “ป.เทียนสุวรรณ” เคยปั้นนักร้องดังอย่าง รักชาติ ศิริชัย ที่ประสบความสำเร็จในเพลง " ฉันทนาใจดำ " และ "รักข้ามคลอง"
 
          ผลงานเพลงที่สุชาติแต่งเองและขับร้องเอง อาทิ เหล้าจ๋า เพราะคุณคนเดียว ฮักกันบ่ได้ แว่นวิเศษ วันสุดท้าย
          วิวาห์อาดูร ครวญหาแม่ ปักษ์ใต้วิปโยค ปลาบู่ทอง สุภาษิตในวงเหล้า รำวงกลางทุ่ง พ่อค้าหาบเร่ กองทัพขอทาน เห็นแล้วเฉยไว้ วิธีหารัก เอาแน่ เกลียดคนชื่อต้อย อยากได้ ไม่รักพี่แล้วจะไปรักสุนัขที่ไหน เข็มขัดกันชู้ มารักกัน สุชาติยอดยูโด ดิงดองกันบ่
 
          ส่วนผลงานเพลงที่แต่งให้นักร้องคนอื่น เช่น หนิงหน่อง โทน (สังข์ทอง สีใส) คนสวยใจดำ ชุมทางเขาชุมทอง อีแม๊ะ (ระพิน ภูไท) รักคนชื่อน้อย (เพชร โพธาราม) หนูไม่ยอม (หฤทัย หิรัญญา) ฉันทนาที่รัก รักข้ามคลอง (รักชาติ ศิริชัย)เป็นต้น
 
          สุชาติ เทียนทอง เสียชีวิตเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน พ.ศ. 2528 สวดศพที่วัดเชิงหวาย และฌาปนกิจวันที่ 2 ก.ค. 2528