
'จอห์น แฮมม์'กับบทสุดท้าทายใน'Million Dollar Arm'
22 มิ.ย. 2557
บันเทิงต่างประเทศ : 'จอห์น แฮมม์' กับบทสุดท้าทาย ใน 'Million Dollar Arm'
ภาพยนตร์เรื่อง “Million Dollar Arm” เป็นภาพยนตร์ ที่สร้างจากเรื่องจริง ผลงานการกำกับของ เครก กิลเลสปี้ หนังบอกเล่าเรื่องราวของเอเจนท์นักกีฬา อย่าง เจบี เบิร์นสตีน ที่พบว่าธุรกิจได้เปลี่ยนแปลงไป และหน้าที่การงานของเขาก็ดูไม่ค่อยสวยสักเท่าไหร่ เขาจึงต้องดิ้นรนเฮือกสุดท้ายเพื่อเอาตัวรอด โดยผู้มารับยบทนำในครั้งนี้คือ จอห์น แฮมม์ ซึ่งเขาได้ให้สัมภาษณ์ถึงการรับบทบาทในครั้งนี้ว่า
@ ทำไมคุณถึงสนใจโปรเจ็กต์นี้
ผมสนใจการที่มันเป็นเรื่องจริง และเป็นเรื่องราวที่หลุดรอดสายตาผมไป ทั้งๆ ที่ผมเป็นแฟนกีฬาแท้ๆ ตอนที่ผมได้อ่านบทหนังเรื่องนี้ ผมก็ไปหาข้อมูลเรื่องจริงทางอินเทอร์เน็ต แล้วพอผมได้อ่านเรื่องราวนี้มากขึ้น ผมก็หลงใหลมัน นี่เป็นการนำเสนอหนังกีฬา ในมุมที่คุณไม่ค่อยได้เห็นบ่อยนัก เพราะมันไม่ได้เกี่ยวกับกีฬาตามแบบฉบับ มันไม่ได้เกี่ยวกับการแข่งขันครั้งใหญ่ แต่มันเป็นเรื่องราวเกี่ยวกับผู้คน ว่าพวกเขามีความสัมพันธ์กันอย่างไร โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเรื่องราวดำเนินไป และเราตระหนักว่าตัวละครตัวนี้เรียนรู้อะไรมากมายเกี่ยวกับตัวเขาเอง แล้วก็มีองค์ประกอบหลายๆ อย่างที่น่าตื่นเต้นจริงๆ มือเขียนบท ทอม แม็คคาร์ธีเป็นเพื่อนผม เขาเป็นผู้กำกับและมือเขียนบทที่วิเศษสุด แล้วผมก็รู้จักผลงานหลายเรื่องของมาร์คและกอร์ดอน ผู้อำนวยการสร้างหนังเรื่องนี้ และพวกเขาก็ได้สร้างหนังเรื่องโปรดของผมหลายเรื่อง ทั้งหมดนี้มารวมตัวกัน และยิ่งผมได้รู้จักหนังเรื่องนี้มากขึ้นเท่าไหร่ มันก็ยิ่งมีเสน่ห์มากขึ้นเท่านั้น
@ พูดถึงตัวละครของคุณและพัฒนาการของตัวละครตัวนี้ในเรื่องหน่อย
เจบี เบิร์นสตีน ตัวจริงแตกต่างจากผม แต่เขาเป็นนักคิด เป็นคนที่ประสบความสำเร็จมากๆ ที่สร้างตัวขึ้นมาเอง เขาเริ่มต้นจากวงการเทรดดิ้ง การ์ด เขาทำงานให้กับบริษัทอัปเปอร์ เด็ค และประสบความสำเร็จมากๆ ในโลกใบนั้น เขาได้เข้าไปเป็นเอเจนท์ของนักกีฬาที่คิดนอกกรอบเสมอ ซึ่งเป็นเรื่องน่าสนใจมากๆ สำหรับผมที่จะมารับบทนี้ ในฐานะเอเจนท์นักกีฬาในลอสแองเจลิส เจบีคิดไปอินเดียเพื่อหาสุดยอดผู้เล่นจากคนจำนวน 1.8 พันล้านคนแล้วเปลี่ยนให้คนโนเนมเป็นดาราเบสบอลระดับโลก แต่สิ่งที่เขาได้เรียนรู้ในท้ายที่สุดคือ เมื่อเขาได้สานสายสัมพันธ์กับเด็กสองคนนี้และกลายเป็นเสมือนพ่อให้กับเด็กๆ พวกนี้มากกว่าที่เขาตั้งใจไว้ในตอนแรก แล้วเขาก็ได้เรียนรู้ว่าสิ่งที่สำคัญในชีวิตคืออะไร และนั่นก็คืออีกสิ่งหนึ่งที่โดนใจผม
@ สไตล์การกำกับของเครก กิลเลสปี้เป็นยังไงบ้าง
เครกเป็นเหมือนกระต่ายอีเนอร์ไจเซอร์ เลย คือเขาเป็นผู้นำของเราในอินเดีย ในตอนที่คนเริ่มเหนื่อยล้า คุณก็จะเห็นเครกวิ่งวุ่น เนื้อตัวเปียกโชกไปด้วยเหงื่อ ผมจำได้ว่าวันหนึ่งอากาศร้อนมากๆ ผมคิดว่าวันนั้นอุณหภูมิสูงประมาณ 120 ได้ และผมอยากทำเพียงแค่กระโดดลงสระน้ำ และผมก็กำลังเดินไปสระน้ำ ระหว่างนั้น ผมเห็นเครกวิ่งอยู่บนลานวิ่ง ผมก็เลยเคาะกระจกถามว่า คุณล้อเล่นรึเปล่า คุณน่าจะเหนื่อยพอๆ กับผมสิ แต่เขาก็วิ่งต่อไปเรื่อยๆ ผมรู้ว่าการกำกับหนังซักเรื่องเป็นยังไง และคุณก็ต้องเป็นคนๆ นั้นสำหรับทุกคน คุณจะต้องเป็นตัวอย่างให้ทุกคน ซึ่งเขาก็ทำได้อย่างวิเศษสุด
@ ช่วยเล่าถึงความท้าทายที่ยิ่งใหญ่ที่สุดที่คุณเจอในการแสดงในหนังเรื่องนี้หน่อย
เรามีงานต้องทำมากมาย แต่เวลากลับมีไม่ค่อยมาก และเราก็เผชิญหน้ากับเวลาที่งวดเข้ามาในตอนที่ฝนเริ่มตกในอินเดีย พอฝนเริ่มตก มันก็จะไม่หยุดเป็นเดือน มันก็เลยเป็นความท้าทายชิ้นใหญ่ แล้วแน่นอนว่ามันมีเรื่องของกำแพงภาษา ทีมงานที่อินเดียวิเศษสุด พวกเขาน่ารักมากและมีน้ำใจกับเราในทุกที่ที่เราไป เรามีกลุ่มคนที่วิเศษสุดที่ร่วมมือกันเพื่อทำงานนี้ให้สำเร็จ และอย่างที่ผมบอก แม้กระทั่งหนังบอลลีวูดยังไม่ถ่ายทำในอินเดียในเดือนพฤษภาคมเลย เพราะมันร้อนเกินไป เราก็เลยนับว่าเป็นตัวประหลาดในแง่นั้น แล้วก็ยังมีส่วนที่เหลือของหนังอีก ส่วนที่อยู่ในอินเดียของหนังเรื่องนี้ไม่ได้ยาวนัก และอีกครั้งหนึ่งที่ผมต้องยกย่องความเป็นผู้นำของเครก และการมองโลกในแง่บวกของเขาและความสามเารถที่จะพูดว่า “ให้เราได้ในสิ่งที่เราสามารถทำได้’ ในแอตแลนตา เรามีฝนมากมาย โชคดีที่ฝนจะตกต่อเมื่อเราอยู่ข้างใน หรือไม่งั้น ก็จะตกตอนที่เรากำลังเคลื่อนย้ายหรืออะไรทำนองนั้น เราก็เลยหลบฝนในแอตแลนตา และเราก็หลบคลื่นความร้อนในอินเดีย มันเป็นสองอย่างหลักๆ น่ะครับ
@ เล่าถึงความสุขที่คุณได้สัมผัสหน่อยสิ
มันเป็นโอกาสที่ยิ่งใหญ่ที่เราจะมีโอกาสได้เห็นโลกและได้เห็นสถานที่อย่างอินเดีย เราหวังว่าจะได้สร้างหนังที่หลายคนได้ดูและจะประทับใจกับมัน บทนั้นค่อนข้างยอดเยี่ยมทีเดียว ผมเห็นบางอย่างในอินเดียที่ผมไม่คิดว่าผมจะได้เห็น โชคดีที่เราใช้ชีวิตในโลกที่ทุกคนมีกล้องติดตัววันละ 24 ชั่วโมง ผมก็เลยสามารถบันทึกภาพได้มกมาย แล้วผมก็จะส่งข้อความกลับหาทางบ้าน เช่นว่า มีเรื่องนี้เกิดขึ้นวันนี้ มีวัวเดินตามถนนใกล้กับโรลส์รอยซ์ หรืออะไรทำนองนั้น มันเป็นเรื่องน่าสนใจและน่าตื่นเต้น และมันก็ทำให้คุณระลึกได้ว่า ถึงแม้ว่ามันจะน่าตื่นเต้นและมีความแตกต่างเหมือนกับการเดินทางส่วนใหญ่ การกลับบ้านก็เป็นเรื่องที่ดี ตอนเรากลับบ้าน มันเป็นประสบการณ์ที่ยอดเยี่ยมที่จะเจอกับความเงียบ มีระดับความชื้น และอุณหภูมิเป็นเลขสองหลักแทนที่จะเป็นสามหลัก และการได้กลับมากินบาร์บีคิวก็เยี่ยมเหมือนกัน
@ การทำงานในภาพยนตร์เรื่องนี้ทำให้คุณเข้าใจโลกใบนี้มากขึ้นอย่างไร
ผมโชคดีที่ในสิบปีที่ผ่านมา ผมได้เดินทางบ่อยกว่าในสามทศวรรษแรกของชีวิตผมเสียอีก แต่ผมไม่เคยไปอินเดียเลย มันเป็นสถานที่ที่พิเศษสุด มันเป็นสถานที่ที่แตกต่าง วุ่นวายและมีเอกลักษณ์เฉพาะตัว ไม่มีที่ไหนเหมือนอินเดียอีกแล้ว และคนที่นั่นก็เป็นมิตรอย่างเหลือเชื่อ พวกเขายินดีให้การต้อนรับคุณ และเต็มไปด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม ที่นั่น ครอบครัวมีความหมายมากเหลือเกิน คุณมักจะได้รับการต้อนรับให้เข้ากลุ่ม มันสอนอะไรผมเยอะแยะครับ ผมชอบที่ผมมีโอกาสได้ทำอะไรแบบนั้น
@ คิดว่าผู้ชมจะได้รับอะไรจากหนังเรื่องนี้บ้าง
สิ่งสำคัญที่ผู้ชมควรจะได้รับคือ บ้านคือที่ที่ดวงใจอยู่ ครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุด และการนิยามความหมายของครอบครัวก็มีหลายแบบ ผมมีเพื่อนหลายคนที่ผมมองว่าเป็นครอบครัว ผมก็เลยมีสมาชิกครอบครัวมกมายเลยครับ มันเป็นการที่คุณสร้างครอบครัวที่คุณคู่ควรขึ้นมา และผมคิดว่าถ้าคุณทำให้ถูกล่ะก็ มันก็จะเป็นบทเรียนที่วิเศษสุด แต่ถ้าผิดพลาดล่ะก็ มันก็จะกลายเป็นบทเรียนที่โหดร้าย ซึ่งผมคิดว่า ในที่สุด เจบีก็เข้าใจเรื่องนั้นแล้วและทำในทางที่ถูกครับ
เข้าฉายพร้อมกัน 3 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น



