บันเทิง

เอกเขนกดูหนัง:'iceman 3d'

เอกเขนกดูหนัง:'iceman 3d'

20 มิ.ย. 2557

'iceman 3d' : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม

 
 
 
          ด้วยความที่หนังต้นฉบับซึ่งออกฉายเมื่อ 25 ปีที่แล้ว ประสบความสำเร็จอย่างสูง บริษัทหนังยักษ์ใหญ่ในปักกิ่งและฮ่องกงเลยจับมือกันร่วมทุนสร้าง the iceman cometh ขึ้นมาใหม่อีกครั้ง โดยเปลี่ยนชื่อเป็น iceman 3d
 
          เวอร์ชั่นเดิมของ iceman ออกฉายครั้งแรกในฮ่องกงเมื่อวันที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2532 นำแสดงโดยหยวนเปียว และ จางม่านอี้ ด้วยความที่ตัวหนังผสมผสานทั้งความเป็นหนังแอ็กชั่น อิงประวัติศาสตร์ แฟนตาซี และโรแมนติกคอมเมดี้ เลยทำให้ iceman cometh ประสบความสำเร็จอย่างสูงทำรายได้ไปถึง 14 ล้านเหรียญฮ่องกง ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิง 3 รางวัลตุ๊กตาทองฮ่องกงหรือ hong kong film awards แจ้งเกิดให้กับนักแสดงสาวจางม่านอี้บนโลกภาพยนตร์อย่างงดงาม
 
          พอมาถึงเวอร์ชั่นปี 2557 เรื่องราวในหนังถูกปรับเปลี่ยนเล็กน้อย แต่ที่มาของเหตุการณ์ทั้งหมด ยังคงเกิดขึ้นในช่วงราชวงศ์หมิง โดยเล่าถึงหัวหน้าหน่วยองครักษ์นายหนึ่งถูกจับกุมระหว่างทางนำกงล้อทองคำจากอินเดียกลับมาถวายฮ่องเต้ ด้วยข้อหาแปรพักตร์เป็นไส้ศึกให้กับญี่ปุ่น แต่เพื่อต้องการพิสูจน์ความบริสุทธิ์ให้กับตัวเอง องครักษ์ ‘อิง’ จึงต่อสู้ขัดขืนการจับกุมโดยพี่น้ององครักษ์ด้วยกัน ระหว่างนั้นเองเกิดพายุหิมะถล่มทับเอาร่างของพวกเขาทั้งสามไว้ใต้ธารน้ำแข็ง จนเวลาล่วงเลยมา 400 ปี ร่างของพวกเขาถูกขุดขึ้นมา และในระหว่างเดินทางขนส่งก็เกิดอุบัติเหตุ ทางรถยนต์ ส่งผลให้น้ำแข็งที่ปกคลุมร่างของ 'อิง'  ละลาย และตัวเขากลับฟื้นคืนชีวิตมาอยู่ในฮ่องกง ปี 2013 ที่เต็มไปด้วยตึกอาคารทันสมัย โดยได้อาศัยความช่วยเหลือจาก 'เมย์' สาวทำงานไนต์คลับ ในการให้ที่อยู่อาศัย และออกไขปริศนาตราบาปของตัวเองทั้งๆ ที่ไม่ได้เป็นผู้กระทำ ถึงขั้นถูกบันทึกไว้ในประวัติศาสตร์ฐานะขุนนางผู้ทรยศต่อราชวงศ์  ขณะที่องครักษ์ผู้น้องอีกสองคน 'เส้า' และ 'หนีฮู' ก็ฟื้นคืนชีพเช่นกัน และได้พำนักอาศัยอยู่กับกลุ่มคนชาวอินเดียในจีน พร้อมภารกิจออกตามล่าหัวหน้าองครักษ์ผู้พี่ต่อไป โดยมีข้าราชการตำรวจใหญ่นายหนึ่งคอยติดตามพวกเขาอยู่ลับๆ 
 
          การคืนจอของนักรบมนุษย์น้ำแข็งในยุค 2000’s ก็เป็นไปตามยุคสมัยคือเน้นความโดดเด่นของงานคอมพิวเตอร์ ที่มีบทบาทอย่างสูงปรากฏในแทบทุกฉาก ทุกเฟรม ขณะเดียวกันก็ยังไม่ลืมเอกลักษณ์ดั้งเดิมของหนัง นั่นก็คือฉากแอ็กชั่นที่ออกแบบลีลาการต่อสู้ได้อย่างสวยงาม ดุดัน ตามมาตรฐานของ ดอนนี่ เยน ดารานักบู๊รุ่นหลังๆ ของเกาะฮ่องกงที่เก่งกาจเรื่องศิลปะการต่อสู้ ผู้ที่จะมาแทนเฉินหลงและเจ็ท ลี ก็น่าจะเป็นนักแสดงคนนี้อย่างแน่นอน ด้วยความที่หนังพยายามจะคงอารมณ์และความรู้สึกไว้ เหมือนต้นฉบับที่ประสบความสำเร็จอย่างสูง  ผู้สร้างiceman 3d จึงแทรกมุกตลกประปรายไว้แทบตลอดทั้งเรื่อง
 
          แม้เป็นการรีเมกหนังดังเมื่อครั้งอดีต แต่ก็ใช่ว่า iceman 3d จะเมกชัวร์ด้วยความสำเร็จตามมา เพราะเอาเข้าจริง มันอาจเป็นความหายนะลูกใหญ่ของวงการหนังฮ่องกง เพราะตลอดการถ่ายทำเต็มไปด้วยปัญหา ไม่ว่าจะเป็นความล่าช้า หรืองบประมาณที่บานปลายไปเท่าตัวจากที่ตั้งไว้ 100 ล้านเหรียญฮ่องกง เป็น 200 ล้านเหรียญ รวมทั้งไม่ได้รับอนุญาตจากทางการให้ขึ้นไปถ่ายทำบนสะพานชิงหม่า  สะพานแขวนสองชั้นที่ยาวเป็นอันดับ 2 ของโลก สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญแห่งหนึ่งบนเกาะฮ่องกง ซึ่งใช้เป็นฉากต่อสู้สำคัญช่วงท้ายเรื่อง จนผู้สร้างต้องควักเงินลงทุนเพิ่มอีก 50 ล้านเหรียญเพื่อสร้างสะพานขึ้นมาใหม่ให้ใกล้เคียงของจริง อีกทั้งหนังยังข้ามไปถ่ายทำในกรุงปักกิ่งบางส่วน
 
          จากทุนสร้างกว่า 200 ล้านเหรียญฮ่องกง และตั้งแต่เปิดตัวฉายไปเมื่อวันที่ 25 เมษายนที่ผ่านมา iceman 3d ทำรายได้ไปเพียง 4.9 ล้านเหรียญเท่านั้น แฟนๆ ของดอนนี่ เยน หลายคนบ่นว่า รู้สึกผิดหวังกับฉากแอ็คชั่น เพราะการใช้เทคนิคซีจีเข้ามาผสมผสานมากเกินไป จึงทำให้ได้เห็นลีลาท่วงท่าลีลาการต่อสู้ของ ดอนนี่ เยน น้อยไปหน่อย และความที่หนังพยายามจะเก็บหมด ทั้งความเป็นหนังแอ็กชั่นแฟนตาซี รัก และตลก ที่ระดมใส่เข้ามามากมาย จนทำให้หลายๆ ฉากดูเหมือนมุกตลก หรือฉากโรแมนติกจะเข้ามาอยู่ผิดที่ผิดทาง การลำดับภาพที่เยิ่นเย้อในความพยายามย้อนอดีต เพื่อกลับไปรื้อปมเก่าๆ ให้ตัวละครที่หลุดมาในปัจจุบันได้หาทางคลี่คลาย หรือเก็บงำให้คนดูได้ลุ้นว่าตัวละครเบื้องหลังที่โผล่เข้ามามีส่วนเกี่ยวข้องอย่างไร ก็ปาเข้าไปช่วงท้ายเรื่อง และนั่นทำให้หนังต้องมีภาคต่อ เพื่อไขปริศนากงล้อทองคำที่จะนำเหล่าองครักษ์กลับไปค้นหาความจริงในอดีต หรือเดินหน้าล้างแค้นตามหาผู้อยู่เบื้องหลังความผิดเมื่อ 400 ปีก่อน แต่เมื่อสถานการณ์ของหนังเป็นแบบนี้ ก็ยากที่หนังภาคต่อจะอยู่ในความสนใจ หรือไม่ก็ค่ายหนังเองจะไม่สนใจทำ iceman ภาคต่อหรือตัดสินใจนำออกฉาย (หากถ่ายทำแล้วเสร็จกันไปก่อนหน้านี้)
 
          แม้จะรวมประเทศกันไปนานแล้ว และจีนยังคงเป็นตลาดหนังที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย แต่ก็ใช่ว่าวงการหนังฮ่องกงจะไปได้ดีด้วยเสมอ
 
.......................................
(หมายเหตุ 'iceman 3d' : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม)