บันเทิง

ผจก.รับ'หมาก'เครียดจัดปมหึ่งก้าวร้าว'แม่มิ้นต์'

ผจก.รับ'หมาก'เครียดจัดปมหึ่งก้าวร้าว'แม่มิ้นต์'

12 มิ.ย. 2557

ผู้จัดการ "หมาก" ยันเป็นเรื่องเข้าใจผิด ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกับ "แม่มิ้นต์" รับผิดใจขั้นรุนแรงกับผู้จัดการของ "มิ้นต์" เรื่องผลประโยชน์ เปรยเด็กในสังกัดเครียด

                กำลังเป็นทอล์ก ออฟ เดอะ ทาวน์ อย่างมาก หลังจากมีการเผยแพร่ภาพข้อความซึ่งอ้างว่าเป็นบทสนทนาระหว่าง นายปริญ สุภารัตน์ หรือ "หมาก" พระเอกชื่อดังช่อง 3 กับ น.ส.ชาลิดา วิจิตรวงศ์ทอง หรือ "มิ้นต์" นางเอกร่วมช่อง ออกมาในโลกออนไลน์ โดยการสนทนาของฝ่ายชายใช้คำค่อนข้างหยาบคาย และไม่ให้เกียรติ นางรัชนก วิจิตรวงศ์ทอง มารดาของ น.ส.ชาลิดา

                ทั้งนี้ ประเด็นดังกล่าวชาวเน็ตต่างวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก อีกทั้งตั้งข้อสงสัยว่า นายปริญ และน.ส.ชาลิดา มีเรื่องราวทะเลาะอะไรกัน และคาดเดาไปต่างๆ นานาว่าสาเหตุที่พระเอกหนุ่มปรี๊ดแตกอาจจะเกี่ยวข้องกับภาพในอินสตาแกรมของนางรัชนก มารดาของนางเอกสาว "มิ้นต์" ชาลิดา ที่โพสต์ภาพคนปีนต้นงิ้ว เมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2557 พร้อมกับข้อความว่า "คนทุกคนไม่สามารถปีนต้นงิ้วได้ทุกคน แต่คนบางจำพวกผิดสามีผิดภรรยาผู้อื่น ต้นงิ้วคงรอทิ่มแทงในไม่ช้า เวรกรรมมีจริง ธรรมะวันละนิด ธรรมะที่เฟคไม่เป็นแอ๊บโกหกไม่เป็น ไม่ช้าไม่นานนะคะ ลดละเลิกเป็นดี สาธุ #ไม่มีอะไรนะคะ เตือนสติคนสมัยใหม่ อย่าลืมว่าเวรกรรมติดจรวด"

                ขณะที่ นางรัชนก วิจิตรวงศ์ทอง เปิดใจให้สัมภาษณ์ถึงข้อความที่ถูกต่อว่ามาทางไลน์กับหนังสือพิมพ์ฉบับหนึ่ง โดยยอมรับว่า เมื่อเห็นข้อความไม่ได้รู้สึกเสียใจ เพราะต้องเข้มแข็ง แต่ครั้งแรกที่เห็นข้อความดังกล่าวรู้สึกโกรธ เนื่องจากเด็กคนนี้ก้าวร้าวเกินไป  อีกทั้งได้พูดถึงผู้จัดการส่วนตัวของพระเอกหนุ่มด้วย

                ล่าสุด วันที่ 11 มิถุนายน 2557 น.ส.ภรณ์มณี เมษสิทธิ์สิริ หรือ แพร ผู้จัดการส่วนตัวของพระเอกหนุ่ม "หมาก" ปริญ ที่มีชื่อเข้าไปพัวพันกับเรื่องบาดหมางครั้งนี้ โดยมารดาของมิ้นต์ระบุว่าผู้จัดการของหมากเป็นผู้อยู่เบื้องหลังเรื่องราวทั้งหมด โดยให้สัมภาษณ์หน้าบันเทิง นสพ.คม ชัด ลึก ว่า มีความเข้าใจผิดกับมารดาของนางเอกสาว แต่ไม่เคยมีปัญหาที่ทำให้ทะเลาะกันโดยตรง ส่วนตัวรับรู้เพียงว่า แม่ของนางเอกสาวรับฟังเรื่องราวของตนมาจากหลายฝ่าย ทำให้เข้าใจผิด และก่อนหน้านี้พยายามนัดเพื่อจะพูดคุยทำความเข้าใจกัน แต่แม่ของมิ้นต์ไม่เคยรับนัดเลย กระทั่งเกิดเรื่องราวบานปลาย อีกทั้งก่อนหน้านี้เคยมีเรื่องผิดใจกับผู้จัดการของมิ้นต์ค่อนข้างรุนแรงในเรื่องผลประโยชน์ที่ตกลงกันไม่ลงตัว ทำให้ไม่สามารถทำงานร่วมกันมาเกือบปีแล้ว 

                "เราไม่ได้มีโอกาสคุยกับแม่เลย หลังจากที่มิ้นต์ทำงานกับผู้จัดการคนดังกล่าว จึงตอบไม่ได้ว่าแม่ได้รับสารอะไรไปบ้าง และผิดใจกับเราในเรื่องอะไร ถามว่ามีผิดใจกันเรื่องแย่งงานหรือไม่ ยืนยันว่าไม่มี และไม่เคยพูดกับใครว่าไม่ขอร่วมงานกับมิ้นต์ ต้องย้อนกลับไปถามทางฟากของมิ้นต์มากกว่าว่าได้ยินมาจากใคร ยืนยันว่า ไม่เคยพูดว่าเกลียดมิ้นต์เลย เราเข้าใจว่าคนเป็นแม่ ถ้าได้ยินอะไรมาต้องปกป้องลูกสาวเป็นเรื่องปกติ แต่คุณแม่ไม่ได้มาถาม หลังจากมีข่าวออกไปยังไม่มีโอกาสได้คุยกับทางมิ้นต์และคุณแม่เลย เรามองว่า การสื่อสารกับคนหมู่มากย่อมผิดเพี้ยนไป แต่ฟันธงไม่ได้ว่าแม่ได้ยินมาจากไหนบ้าง" ผู้จัดการของหมาก กล่าว

                ผู้จัดการของหมาก กล่าวอีกว่า ส่วนเรื่องที่ถูกกล่าวหาว่าเป็นผู้จัดการที่ชอบจับคู่ให้นักแสดง และเคยจัดฉากให้มิ้นต์เป็นข่าวกับหมาก ยืนยันว่า ตั้งแต่ทำงานมาไม่เคยทำแบบนั้น ทั้งนี้การเป็นคู่จิ้นกัน หรือจะมีกระแสได้ไม่ใช่แค่ไปกินข้าวกันก็เป็นได้ แต่ต้องมาจากการที่คนชื่นชอบจากผลงานละครมากกว่า ยืนยันว่า ไม่ได้เน้นในเรื่องของผลประโยชน์จากอีเวนท์ และไม่ได้มองว่า การสร้างข่าวแบบนี้จะมีผลประโยชน์อะไร ส่วนเรื่องที่ถูกมองว่าใช้มิ้นต์เพื่อกันหมากออกจากวิว (น.ส.วรรณรท สนธิไชย) นั้น ถ้าคนจะสนิทกันใครก็ห้ามไม่ได้ ถามว่า ชนวนเหตุที่ทำให้หมากโมโหสุดขีดถึงกับต้องพิมพ์ข้อความในไลน์ที่รุนแรงออกมานั้น ผู้จัดการของพระเอกดังเปิดเผยว่า เรื่องนี้อยากให้หมากเป็นคนชี้แจงเอง

                "เรื่องที่บอกว่าเราเป่าหู ทำให้หมากโมโห คิดว่าหมากโตพอที่จะแยกแยะอะไรต่างๆ ได้ โดยปกติเราจะไม่เล่าปัญหาอะไรให้เด็กในสังกัดฟัง ไม่อยากเพิ่มความหนักใจให้เด็กๆ อะไรที่เก็บไว้ได้ก็เก็บไว้เอง แต่หมากคงจะพอรู้ปัญหาที่เกิดขึ้น เพราะกระแสในโซเชียลเยอะเหมือนกัน ส่วนที่ถามว่าหมากเคยอารมณ์ร้อน หรือก้าวร้าวแบบนี้ไหม ไม่เคยเห็นแบบนี้ ปกติหมากไม่เคยพูดแบบนี้ หมากไม่ค่อยคุยเรื่องส่วนตัวให้ฟัง ในฐานะของคนที่เห็นข้อความในไลน์แชท ยอมรับว่าตกใจ และได้ตักเตือนหมากไปแล้ว เท่าที่รู้เขาเองก็เสียใจที่ทำให้คนที่ชื่นชมหมากรู้สึกผิดหวัง แต่ก็รู้สึกว่า คงมีเหตุผลในมุมของเขา ทุกอย่างมีที่มาและที่ไป ซึ่งผู้ใหญ่ทางช่อง 3 เองตักเตือนมาว่าหมากใจร้อน วู่วามเกินไป ผู้ใหญ่ก็แนะนำ และช่วยกันหาทางออกเรื่องนี้ให้ดีที่สุด" น.ส.ภรณ์มณี กล่าว 

                ทั้งนี้ เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ว่าโกงเงินหมากเป็นเงิน 1 แสนบาท และเป็นคนปล่อยภาพหลุดระหว่าง หมาก กับวิว คนสนิทหมากในอดีต รวมถึงสร้างกระแสข่าวต่างๆ ออกมา ผู้จัดการของพระเอกดังอธิบายว่า ไม่เคยโกงเงิน และไม่ได้เป็นคนปล่อยภาพหลุด ส่วนตัวยังรู้สึกว่า ทำไมกระแสต่างๆ ถึงมาพร้อมกันช่วงนี้ แล้วเรารู้ว่ามีคนไม่ชอบ ส่วนเรื่องที่ว่ากระแสคู่จิ้นระหว่างหมากกับคิม (น.ส.คิมเบอร์ลี่ แอน เทียมศิริ) แย่งงาน ทำให้มิ้นต์ชวดโฆษณาคู่กับหมากนั้น ยืนยันว่า มีหน้าที่แค่นำเสนอ ไม่สามารถบังคับใครให้เลือกใครได้ อีกทั้งก็ไม่ได้ดูแลคิมเบอร์รี่ ส่วนตัวเป็นคนตรงๆ ถ้าไม่ผิดก็ไม่ยอม อาจจะไปขัดแข้งขัดขาใครทางธุรกิจ ตอนนี้อยากให้ทุกคนใช้เหตุและผล เอาข้อเท็จจริงมาคุยกันว่าใครทำอะไรต้องมีเหตุผลด้วยกันทั้งนั้น

                ถามต่อว่า กลัวเรื่องนี้บานปลาย ทำให้หมากโดนแบนงานหรือไม่ ผู้จัดการคนเดิมบอกว่า ยอมรับว่ากลัว และกังวลใจเหมือนกัน เพราะข้อความนั้นเป็นข้อความที่หมากคุยในกลุ่มเพื่อน ไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โต แต่ขอน้อมรับ และต้องขอโทษแทนหมากที่วู่วาม ทำให้คนผิดหวัง ยอมรับว่า หมากเครียด และกังวลใจที่เรื่องบานปลาย หมากอยากรีบออกมาเคลียร์ แต่ติดด้วยคิวงานที่ถูกวางไว้หมดแล้ว ซึ่งในเร็วๆ นี้คงออกมาชี้แจงด้วยตัวเอง ที่ผ่านมาไม่เคยออกมาพูดอะไร แต่ที่ตัดสินใจพูดในวันนี้ เพราะเป็นห่วงน้องๆ ผู้หญิงในสังกัดที่ถูกโยงเข้ามาเกี่ยว ส่วนเรื่องที่ถูกโจมตีอย่างหนักว่า หมากเสียชื่อเสียงเพราะมีผู้จัดการไม่ดี ควรเปลี่ยนคนใหม่นั้น ยืนยันว่า ทำงานกับหมากมา 6 ปี ไม่เคยมีปัญหาทะเลาะกัน ถ้ามีอะไรไม่ดีคงไม่ได้ดูแลกันถึงทุกวันนี้ เรื่องนี้ไม่มีผลกระทบ ยังคงทำงานกันอย่างปกติ

                ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่า เดิมทีวันพฤหัสบดีที่ 12 มิถุนายนนี้ "นก"ฉัตรชัย และ "นก" สินจัย เปล่งพานิช ผู้จัดละครเรื่อง "ภพรัก" ได้ยกกองถ่ายละครในช่วงเช้าที่หมากมีคิวต้องเข้าฉาก เพื่อให้พระเอกคนดังแถลงข่าวที่ช่อง 3 ตึกมาลีนนท์ ซึ่งได้ตกลงพูดคุยกันเป็นที่เรียบร้อยแล้วว่า พระเอกคนดังจะพูดเกี่ยวกับเรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด กระทั่งผู้ใหญ่ทางช่อง 3 ได้ระงับการแถลงข่าวในครั้งนี้เอาไว้ก่อน

                ด้าน "บอย" ปกรณ์ ฉัตรบริรักษ์ พระเอกหนุ่มชื่อดัง ซึ่งมีรายชื่อในไลน์กรุ๊ปที่เป็นประเด็นอยู่ในตอนนี้ ได้เปิดเผยว่า ในฐานะที่ตนกับ "มาร์กี้" ราศรี บาเล็นซิเอก้า เป็นพี่ใหญ่ที่สุดในกรุ๊ปไลน์นั้น เรื่องทั้งหมดตนยังไม่ทราบถึงสาเหตุที่แท้จริง แต่อยากให้ทั้ง "หมาก" ปริญ และ "มิ้นต์" ชาลิดา ได้เคลียร์กันให้จบก่อน

                "สาเหตุจริงๆ ผมไม่ได้รู้อย่างชัดเจน ถ้าพูดไปแล้วกลัวประเด็นจะผิดเพี้ยนไป แต่ถึงอย่างไรทุกคนยังเป็นเพื่อนกัน โดยส่วนตัวของผม หลังจากที่มีประเด็นนี้ออกมาก็ยังไม่ได้คุยกับทั้งคู่เลย ทางด้านหมาก ผมแค่ส่งข้อความไปในไลน์ส่วนตัวของเขา บอกให้เขาใจเย็นๆ ส่วนมิ้นต์ผมยังไม่ได้ติดต่อไป ถามว่าตอนนี้ไลน์กรุ๊ปกลุ่มนั้นยังอยู่หรือเปล่า ตอนนี้มีเหลืออยู่ 3 คน คือผม มาร์กี้ และมิ้นต์  ส่วนคนอื่นๆ ที่ทยอยออกไปนั้น ผมคิดว่าคงไม่มีใครโกรธเคืองอะไรกัน ทุกคนคงคิดเหมือนกัน ว่าอยากให้หมากกับมิ้นต์เคลียร์กันให้จบก่อน แล้วกลับมารวมกลุ่มกันใหม่ก็ได้ อย่างณเดชน์ (ณเดชน์ คูกิมิยะ) กับญาญ่า (อุรัสยา เสปอร์บันด์) และคิมเบอร์ลี่ ทั้งหมดไม่มีปัญหาอะไรกัน ณ ตอนนี้ยังยืนยันคำเดิม ว่าอยากให้หมากกับมิ้นต์ไปเคลียร์กันให้จบก่อน เราในฐานะที่เป็นพี่ เราพยายามเป็นกาวใจแล้ว เราทำหน้าที่ของเราตรงนี้ให้ดีที่สุดก็พอ ส่วนที่เหลือนอกจากนั้น เป็นเรื่องส่วนตัวของเขาทั้งคู่ ถามว่าอยากให้เรื่องนี้จบอย่างไร ผมอยากให้มันจบแบบสวยงามที่สุด เพราะเราเป็นเพื่อนกัน" บอยกล่าว 

                ผู้สื่อข่าวถามต่อว่า กับกรณีที่ไลน์หลุดออกมาสงสัยหรือไม่เป็นฝีมือของใคร และเรื่องการไว้ใจเกี่ยวกับเพื่อนจะลดน้อยลงหรือไม่ พระเอกชื่อดังเผยว่า เรื่องที่หลุดออกมาตนทราบดีว่าอะไรเป็นอะไร แต่ไม่ขอพูดถึงแล้วกัน เกี่ยวกับเรื่องความไว้ใจ เชื่อว่าถ้าทุกอย่างเคลียร์กันได้และเรื่องราวจบลงด้วยดี จะยังเป็นเพื่อนกันต่อไปเหมือนเดิม