บันเทิง

'Transformer 4ไม่กลัวน้ำร้อนและบอลโลก !'

'Transformer 4ไม่กลัวน้ำร้อนและบอลโลก !'

06 มิ.ย. 2557

'Transformer 4ไม่กลัวน้ำร้อนและบอลโลก !' : คอลัมน์ หนังโรงเล็ก โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร

 
          ใหญ่กว่า “X-Men” เดินเรื่องเร็วกว่า “นเรศวร 5 ” และเป็นผู้ใหญ่กว่า “Amazing Spider-Man 2”  
 
          ถ้อยคำข้างต้นน่าจะแทนภาพของ Transformer 4 ที่จะกระทืบโรงวันที่ 26 มิถุนายนนี้ได้เป็นอย่างดี และที่จะจะน่าสนุกเข้าไปอีกก็คือ หนังฟรนไชส์ฟอร์มใหญ่เรื่องนี้ เดินหน้าชนตูมกับบรรยากาศบอลโลก ที่หลายค่ายมักจะเก็บหนังทำเงินไว้ไปฉายช่วงอื่นๆ
 
          แต่เพราะนี่คือ Transformer 4 ที่ครั้งหนึ่ง ปัณณทัต พรหมสุภา ผู้บริหารค่าย UIP บอกกับผมว่า Transformer 4 ซึ่งเป็นการยกเครื่อง และเปิดไตรภาคใหม่สำหรับ Franchise นี้
        
          หนังเรื่องนี้ไม่ใช่ต้องมาคุยว่าทำเงินมั้ย แต่เขาคุยกันแล้วว่า จะทำกี่ร้อยล้านบาทต่างหาก อย่างไรก็ดี จากการที่หนังหลายเรื่องทำเงินนอกตลาดฮอลลีวู้ด มันจึงน่ามองว่าสะท้อนอะไร
 
          “มันมาถึงยุคที่ฮอลลีวู้ด สร้างหนังให้คนทั้งโลกดู อย่างแท้จริงแล้วครับ สัดส่วนรายได้ของหนัง Mega Blockbuster มาจากนอกอเมริกาสูงถึง 60-70% และแรงขับสำคัญมาจากจีน, เอเชีย และ รัสเซีย คาดการณ์กันว่าในปี 2020 ตลาดจีนจะโตกว่า อเมริกา เราจะเห็นหนังอเมริกันใช้ดาราจีน ดาราเอเซีย ใช้ฉากในจีนมากขึ้น หรือ มี Version สำหรับฉายในจีนโดยเฉพาะ นอกจากนั้น การตลาดของหนังฮอลลีวู้ดจะเป็น Global platform ใช้ความได้เปรียบในการเข้าถึง Consumer ทั่วโลก” ปัณณทัตบอก
     
          เขาแจกแจงว่า “จากนี้ไป เราจะเห็นหนังฮอลลีวู้ดที่มีงบสร้างเกินกว่า 200 ล้านเหรียญน้อยลง เพราะในช่วงสองสามปีหลังมีหนังในกลุ่มนี้ไม่น้อยที่ทำรายได้น่าผิดหวัง แต่สิ่งที่เปลี่ยนไปคือบทหนังที่จะต้องแข็งแรงมากขึ้นทำให้คนดูบันเทิงได้โดยไม่จำเป็นต้องอัดฉากใหญ่ลงทุนสูงๆ 
 
          เรื่องต่อไปคือ การที่เราจะเข้าสู่ยุค Digital Cinema 100% ในไตรมาสแรกของปีหน้า และหมดยุคของฟิลม์ 35mm อย่างเป็นทางการ ซึ่งมันส่งผลดีทั้งกับกระบวนการผลิตและจัดจำหน่ายหนัง เราจะมีโอกาสได้ดู Alternative content อย่าง Concert, กีฬา หรือ โชว์ต่างๆมากขึ้น
 
          เรื่องสุดท้ายคือ ปีนี้หนังอินดี้ไทยมีที่ยืนมากขึ้นในตลาด มีโอกาสเข้าฉายในเครือโรงหนังหลักๆ Social Media เข้ามาช่วยให้หนังเหล่านี้สามารถทำการตลาดโดยไม่ต้องอาศัยสื่อหลัก Digital Cinema ทำให้ต้นทุนการผลิตของหนังเหล่านี้ลดลงมาก ผมว่าเป็นแนวโน้มที่ดี และ เราอาจจะได้เห็นหนังอินดี้ไทยเป็น Surprise Hit ได้เร็วๆ นี้”
 
          ท่ามกลางเทรนด์หนังหลายแบบ ดูเหมือนว่าหนังเกี่ยวกับคนดำจะยังไม่อ่อนแรงไปไหน
 
          “ส่วนตัวผมมองว่าส่วนหนึ่งมาจาก ชัยชนะของโอบามาในสมัยที่สอง ทำให้สตูดิโอให้ความสำคัญกับคนผิวสีมากขึ้น ผู้สนับสนุนโอบามาที่เป็นผู้บริหารสตูดิโอก็มาก ดูได้จากการที่โอบามาไปเยี่ยมสตูดิโอต่างๆ ทำให้บทหนัง หรือโปรเจกท์ต่างๆ เกี่ยวกับคนผิวสีที่เคยถูกดองไว้ ถูกเอามาสร้างเป็นหนังในช่วงนี้ 
อีกอย่างหนึ่งน่าจะมาจากเรื่องราวการต่อสู้หรือชีวิตของคนผิวสีที่สามารถเอามาเป็นวัตถุดิบในการสร้างบทหนังดีๆ ได้ทั้งที่มาจากชีวิตจริงๆ หรือ เอาเรื่องราวเหตุการณ์มาดัดแปลง มาทำเป็นหนังที่ดีและสามารถหวังผลในแง่รายได้จากคนดูกลุ่มผิวสีได้”
 
          คำพูดประโยคหลังนี้ทำให้ผมคิดต่อไปว่า มันจะมีมั้ยในอนาคต หุ่นยนต์ที่ผิวดำและถูกดูแคลนโดยมนุษย์ !
 
.......................................
(หมายเหตุ 'Transformer 4ไม่กลัวน้ำร้อนและบอลโลก !' : คอลัมน์ หนังโรงเล็ก โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร)