บันเทิง

'ฆ้องมอญวัดพระพิเรนทร์'

'ฆ้องมอญวัดพระพิเรนทร์'

22 พ.ค. 2557

'ฆ้องมอญวัดพระพิเรนทร์' : คอลัมนื โลกใบนี้ดนตรีไทย โดย... ขุนอิน

 
 
          ในโลกของยุคการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งอย่างบนโลกเรานั้นก็จะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ในโลกของดนตรีไทยเรานั้นถ้ามองกันโดยผิวเผิน แล้วก็คิดว่า ดนตรีไทยของเรานั้นจะอนุรักษ์แต่สิ่งเดิมๆ ไม่มีการเปลี่ยนแปลง แต่จริงๆ แล้วนั้นดนตรีไทยเรานั้นมีพัฒนาการไปเยอะมากยิ่งโดยเฉพาะของรูปแบบในการแสดงหรือการบรรเลงนั้นจะมีการนำไปเล่นรวมกับดนตรีสากลที่ ในยุคนี้นิยมเรียกว่าดนตรีร่วมสมัยหรือ   Contemporary  Music  แน่นอนที่สุดรูปแบบของเพลงแนวนี้จึงต้องเปลี่ยนแปลงตามไปด้วย แต่ในอีกมุมมองดนตรีแนวแบบดั้งเดิมอย่างวงปี่พาทย์ก็ดูเหมือนจะไม่ค่อยพัฒนาการบรรเลงหรือการแสดงอะไรไปจากเดิมเท่าไหร่ แต่ดนตรีของวงปี่พาทย์นั้นก็จะค่อยๆ พัฒนาในเรื่องของตัวเครื่องดนตรี โดยเฉพาะปี่พาทย์มอญนั้นได้เปลี่ยนแปลงรูปร่างของเครื่องดนตรีในหลายๆ ชนิด แต่การเปลี่ยนแปลงนั้นก็จะค่อยๆ เป็นไปอย่างไม่เร่งรีบรวดเร็วเหมือนกับพวกรถยนต์หรือโทรศัพท์มือถือ
 
          ย้อนไปตั้งแต่เมื่อครูดนตรีชาวมอญท่านหนึ่งที่มีชื่อไทยว่าครูสุ่ม ดนตรีเจริญ ได้นำฆ้องมอญวงแรกเข้ามาในเมืองตั้งแต่ในสมัยรัชกาลที่ 6 ซึ่งฆ้องมอญวงนี้ในปัจจุบันก็ยังอยู่ที่พิพิธภัฑ์สถานแห่งชาติและตั้งแต่บัดนั้นเป็นต้นมาฆ้องมอญที่สร้างขึ้นโดยฝีมือชั่งคนไทยก็ได้เปลี่ยนแปลงอะไรไปหลายต่อหลายอย่างเช่นขนาดของ รวมถึงลวดลายและรูปทรงที่เปลี่ยนแปลงซึ่งตรงนี้ก็ต้องเป็นไปตามความถนัดของช่างที่เป็นผู้ทำ
 
          กล่าวถึงช่างที่ทำฆ้องมอญนั้นในยุคก่อนพ.ศ.2510 แล้วนั้นก็จะมีร้านหรือช่างที่ทำฆ้องมอญที่มีชื่อเสียงอยู่ 2 แห่งอยู่ในกรุงเทพฯ ก็คือ ร้านถนอมวานิช อยู่แถวบ้านเนิน ฝั่งธนบุรี กับอีกแห่งหนึ่งก็คือที่ วัดพระพิเรนทร์ ย่านวรจักร ในเจ้าแรกนั้นคนในวงการปี่พาทย์จะเรียกกันว่า "ฆ้องถนอม" กันจนติดปากจนถึงทุกวันนี้ในส่วนของเจ้าที่อยู่ในวัดพระพิเรนทร์ คนในวงการปี่พาทย์จะเรียกกันว่า "ฆ้องวัดพิเรนทร์" ส่วนความสวยความงามนั้นก็จะต่างกันไปคนละแบบแต่ความนิยมนั้นในตอนเรกจะอยู่ที่ร้านถนอมวานิชกันมากกว่า
 
          ในยุคนั้นช่างทำฆ้องมอญทางที่วัดพระพิเรนทร์ จะมีช่างทำเป็นชาวจีน ที่ชื่อว่า "เปี่ยงเซี้ยะ" และต่อมาใน พ.ศ.2511 ฆ้องวัดพิเรนทร์ ได้เปลี่ยนแปลงรูปร่างรูปทรงใหม่หมด จะเรียกว่าเปลี่ยนโฉมก็ไม่ผิดนักและจะมีชื่อเรียกฆ้องมอญวัดพระพิเรนทร์รุ่นนี้ว่า "เกศลอย" เพราะว่ายอดเกศที่อยู่เหนือหน้าพระนั้นไม่อยู่ติดหรือแนบอยู่กับวงฆ้องเหมือนแบบเดิมและพอเมื่อฆ้องรุ่นเกศลอยของวัดพระพิเรนทร์นั้นได้รับความนิยมในพ.ศ.2511 เป็นต้นมา จึงทำให้ฆ้องมอญของวัดพระพิเรนทร์และของร้านถนอมวานิชรุ่นก่อนหน้านี้มีชื่อเรียกด้วยความเป็นตรงกันข้ามว่าฆ้องมอญ "เกศนอน" ก็คือยอดเหนือหน้าพระจะแนบอยู่ติดกับวงฆ้องนั่นเอง
 
          ความจริงแล้วฆ้องมอญรุ่น "เกศลอย" ผู้ออกแบบนั้นก็คือ คุณจุมพล โตสง่า ซึ่งก็มีศักดิ์นั้นเป็นคุณลุงของผมนั่นเอง ซึ่งตอนนั้นคุณพ่อผมกำลังสร้างเครื่องปี่พาทย์มอญและให้คุณลุงซึ่งเป็นนักดนตรีไทยและเรียนจบจากโรงเรียนเพาะช่าง ได้เป็นผู้ออกแบบฆ้องมอญ ท่านได้แนวคิดจากฆ้องมอญเก่าของบ้านปี่พาทย์ตระกูลดุริยะประณีตซึ่งก็เป็นเครือญาติกัน มาเป็นต้นแบบและก็ออกแบบใหม่นำไปให้นายเปี่ยงเซี้ยะ ช่างวัดพระพิเรนทร์สร้างขึ้นมา 2 วง ใหญ่และเล็กคู่กันในราคา 5,000 บาท และจากนั้นเป็นต้นมาชื่อเสียงของช่างเปี่ยงเซี้ยะก็โด่งดังในหมู่ของแวดวงปี่พาทย์ยอดขายแซงหน้าร้านถนอมวานิชอย่างมากมาย จึงเท่ากับว่าฆ้องมอญเกศลอยของวัดพระพิเรนทร์วงแรกนั้นอยู่ที่บ้านของผมเองครับและในฉบับนี้ผมยังได้นำรูปฆ้องมอญเกศลอยวงแรกของวัดพระพิเรนทร์มาให้ท่านผู้อ่านได้ชมกันด้วยครับ
 
          3 ปีต่อมาในปีพ.ศ. 2514 คุณพ่อผมนั้นได้ไปสั่งทำฆ้องมอญที่วัดพระพิเรนทร์เพิ่มมาอีก 1 วงแต่คราวนี้ราคาพุ่งไปจากคู่ละ 5,000 บาทกลายเป็นวงเดียวเป็น 6.000 บาท และที่สำคัญก็คือนายเปี่ยงเซี้ยะ ได้เสียชีวิตไปก่อนแล้ว แต่ก็มีช่างคนใหม่ที่เปรียบเป็นคนสนิทศิษย์เอกและเป็นชาวจีนเหมือนกันที่ชื่อว่า นายเว้ง ไม่มีใครทราบนามสกุลเหมือนกันกับ นายเปี่ยงเซี้ยะ ลูกพี่ของเขาเอง ซึ่งก็ทำให้ ฆ้องวัดพิเรนทร์ นั้นมีรูปทรงและรายละเอียดต่างกันไปจากเดิมอยู่บ้าง จึงทำให้ฆ้องวัดพระพิเรนทร์ ของนายเว้งเปรียบเป็นรุ่น 2 และมียอดสั่งทำน้อยลงไปจากเดิมในที่สุดอีกไม่นานฆ้องมอญวัดพระพิเรนทร์ ก็กลายเป็นตำนานไปแต่ก็สามารถสร้างคุณค่าให้กับรุ่นแรกของนายเปี่ยงเซี้ยะ ได้จนถึงปัจจุบันนี้เป็นอย่างมาก
 
         ปัจจุบันนี้ก็มีช่างทำฆ้องมอญเกิดขึ้นมาใหม่มากมายและก็มีให้เลือกหลายราคาต่างกันไป ซึ่งถ้าจะเอาแบบดีๆราคาประมาน 4 หมื่นกว่าบาทก็ต้องที่ร้านสมชัยการดนตรี อยู่แถวย่านพรานนกนี่เอง ถ้าจะเอาราคาลองลงไปนิดนึงและก็สวยงามไม่แพ้กันก็คือ ฆ้องปิ่นแก้ว จ.พระนครศรีอยุธยา และก็มีเจ้าอื่นๆ ที่ราคาหลักพันปลายๆ แต่ทุกจะเป็นฆ้องมอญเกศลอยเหมือนกันกับวัดพระพิเรนทร์ด้วยกันทุกๆ เจ้า ทุกๆ วง ครับ
 
.......................................
(หมายเหตุ 'ฆ้องมอญวัดพระพิเรนทร์' : คอลัมนื โลกใบนี้ดนตรีไทย โดย... ขุนอิน )