'มาร์ค'กับบทท้าทายในหนังสายเลือดไทย'13 Sins' | คมชัดลึก

 

                      นี่คือภาพยนตร์รีเมก ที่มีต้นฉบับมาจากเมืองไทย ผลงานเรื่องใหม่ของนักแสดงหนุ่มคุณภาพ มาร์ค เว็บเบอร์ กับผลงานการแสดงขั้นมาสเตอร์พีซ ใน "13 Sins" ภาพยนตร์สุดมัน ผลงานการกำกับของ แดเนียล สตัมม์ ผู้กำกับเจ้าของผลงานสุดสยองอย่าง The Last Exorcism ที่จะมาผนึกกำลังความสะพรึงแบบคูณสองด้วยการร่วมงานกับผู้อำนวยการสร้างจาก Insidious! โดยนักแสดงหนุ่มได้ให้สัมภาษณ์ถึงบทบาทในภาพยนตร์เรื่องนี้ว่า 

 

 

@ คุณรับบทเป็น เอเลียต เซลส์แมนหนุ่มผู้อับโชคที่ต้องร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเกมที่เดิมพันด้วยชีวิต อะไรที่ทำให้คุณตัดสินใจเข้ามาร่วมงาน

 

                      ในฐานะของนักแสดง ภาพยนตร์เรื่องนี้ เต็มไปด้วยความท้าทายและดึงดูด ผมไม่เคยรับบทในภาพยนตร์เรื่องไหน ที่มีความเข้มข้นขนาดนี้ เมื่อได้อ่านบทของภาพยนตร์ ผมก็คิดทันที ว่ามันจะต้องเป็นเรื่องราวสุดมัน ที่ผมจะมีโอกาสได้ทำเรื่องบ้าๆ อย่างเต็มที่แน่นอน นอกจากนี้ ตัวละครยังมีความซับซ้อนและมีพัฒนาการ สิ่งที่เราต้องทำ ก็คือการบิลท์อารมณ์ของตัวเอง ให้เป็นหนึ่งเดียวกับตัวละคร เราต้องทำมันให้ถึงจุดจุดนั้นให้ได้ ซึ่งถือเป็นความท้าทายอย่างใหญ่หลวง ซึ่งโชคดีอย่างมาก ที่ผู้กำกับได้ให้อิสระแก่ผมอย่างเต็มที่ ในการทำสิ่งที่ผมอยากจะทำ ในเรื่องนี้ ผมได้ร่วมงานกับผู้กำกับ แดเนียล สตัมม์ ซึ่งเป็นคนที่ไม่เหมือนใครเอามากๆ เขาคอยช่วยเหลือผมอย่างเต็มที่

 

 

@ พูดถึงผู้กำกับแดเนียล ซึ่งมีส่วนร่วมทั้งการเขียนบท และกำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ การทำงานกับเขาเป็นอย่างไรบ้าง

 

                      ผมชอบทำงานกับเขาครับ ผมคิดว่าการทำงานร่วมกับผู้กำกับ ที่รู้จักสิ่งที่เขากำลังทำอยู่เป็นอย่างดีนั้น ถือเป็นอะไรที่ยอดเยี่ยมมาก เดเนียลจะทำให้เราได้ขุดลึกเข้าไปในตัวละคร และทำให้เรารู้สึกเชื่อมโยงทั้งกับตัวละครตัวนั้นและตัวละครอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง ผมคิดว่าเขาเป็นผู้กำกับที่เก่งมาก มีทั้งความหลงใหลและมุ่งมั่น ในสิ่งที่ทำอย่างแท้จริง ซึ่งถือเป็นโชคดีของผมที่ได้ร่วมงานกับเขาครับ

 

 

@ ฉากแอ็กชั่นแต่ละฉากในภาพยนตร์เรื่องนี้ ทวีความเข้นข้นขึ้นตามภารกิจที่เอเลียตได้รับ คุณได้แสดงในฉากเหล่านี้เองไหม

 

                      แน่นอนครับ ผมแสดงเองทุกอย่าง ยกเว้นกระโดดออกจากหน้าต่าง (หัวเราะ) ผมต้องวิ่งเยอะมากในภาพยนตร์เรื่องนี้ นอกจากนี้ยังมีบางฉากที่ผมต้องลากชายร่างยักษ์ที่หนักกว่า 200 ปอนด์ไปด้วยรอบๆ มันเป็นอะไรที่ลำบากเอาเรื่องแต่ก็สนุกมากๆ เช่นกัน

 

 

@ "13 sins" คือภาพยนตร์ที่ดัดแปลงมาจาก "13:เกมสยอง" คุณเคยดูมันมาก่อนหรือเปล่าก่อนที่จะถ่ายทำภาพยนตร์เรี่องนี้

 

                      ผมเลือกที่จะไม่ดูมัน ก่อนที่จะถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ เพราะผมอยากจะสร้างคาแรกเตอร์ของตัวละคร ในแบบของผมเองมากกว่า ผู้กำกับบอกผม ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากภาพยนตร์ไทย ซึ่งหมายความว่ามันมีจุดที่แตกต่างกันอยู่ ในระหว่างการถ่ายทำ เราต่างคิดกันว่าเราไม่ได้กำลังทำภาพยนตร์รีเมก แต่เรากำลังสร้างภาพยนตร์เรื่องใหม่ในแบบของเราเองครับ

 

 

@ได้ข่าวมาว่าคุณเริ่มกำกับภาพยนตร์ของตัวเองแล้ว อยากทราบว่าชอบงานแสดงหรืองานกำกับมากกว่ากัน

 

                      ตอนนี้ผมกำลังสนุกกับการกำกับภาพยนตร์มากเลย ผมชอบการวางแผน การรวบรวมเอาผู้คนที่มีฝีมือมาทำงานร่วมกัน แต่อย่างไรก็ตามผมรักงานแสดงมากๆ และหวังว่าจะได้ทำงานร่วมกับผู้กำกับที่มีฝีมือให้ได้มากที่สุด

 

 

@ ภาพยนตร์เรื่อง "13 sins" มีทั้งแง่มุมที่เป็นแอ็กชั่นและสยองขวัญ คุณชอบภาพยนตร์แนวไหนมากกว่ากัน

 

                      ในฐานะนักแสดงนะครับ มันเป็นอะไรที่สนุกดีเหมือนกันที่ได้แสดงฉากแล่เนื้อมนุษย์คนอื่น (หัวเราะ) มันเป็นสิ่งที่ผมไม่มีโอกาสได้ทำแน่ๆ ในชีวิตจริง ดังนั้นการได้ทำงานแสดงที่มีการใช้เทคนิคพิเศษ เต็มไปด้วยเสียงกรีดร้อง เลือด นั้นเป็นอะไรที่ผมใฝ่ฝันมาตลอด นอกจากนี้ อีกเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ผมอยากจะแสดงในภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นเป็นเพราะมันเปิดโอกาสให้ผมได้เห็นแง่มุมที่แตกต่างในชีวิต แตกต่างจากชีวตจริงที่ผมเป็น เช่นเดียวกับการที่เรารู้สึกตื่นเต้นเมื่อได้ชมฉากที่เจมส์ บอนด์กระโดดออกมาจากเครื่องบินนั่นแหละครับ

 

 

@หลังจาก "13 sins" คุณมีผลงานอะไรอีกบ้างให้แฟนๆ ได้รอติดตาม

 

                      แน่นอนครับ ผมได้แสดงในภาพยนตร์เรื่อง "Goodbye World" นอกจากนี้ก็ยังมี "Laggies" ซึ่งแสดงร่วมกับเคียรา ไนท์ลีย์ และ แซม ร็อคเวล รวมทั้งยังมีภาพยนตร์สยองขวัญอย่าง "Jessabelle" ที่จะเข้าฉายในช่วงหน้าร้อนนี้ด้วยครับ