
'จอห์นนี เด็ปป์'กับหนังเรื่องใหม่'Transcendence'
27 เม.ย. 2557
บันเทิงต่างประเทศ : คุยกับ 'จอห์นนี เด็ปป์' ในหนังเรื่องใหม่ 'Transcendence'
เตรียมพบกับสุดยอดภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์เรื่องเยี่ยม ที่ได้รับการจับตามองมากที่สุดแห่งปี 2014 ‘Transcendence’ ผลงานการอำนวยการสร้างโดยอัจฉริยะแห่งวงการ คริสโตเฟอร์ โนแลน ซึ่งเป็นการกำกับครั้งแรกของผู้กำกับภาพดีกรีออสการ์ วอลลี่ ฟิสเตอร์ แถมเรื่องนี้ยังได้ จอห์นนี เด็ปป์ มาพลิกคาแรกเตอร์เพื่อรับบทนักวิทยาศาสตร์ระดับหัวกะทิ วิล แคสเตอร์ หัวหน้าทีมผู้คิดค้นเทคโนโลยีสมองประดิษฐ์ ทว่าพวกเขากลับถูกต่อต้านอย่างรุนแรง จนในที่สุดวิลก็ถูกลอบสังหาร โดยกลุ่มผู้ก่อการร้ายที่เกลียดชังเทคโนโลยี แม้ร่างกายของเขาจะตายไปแล้ว แต่สมองของวิลไม่ยอมตายไปด้วย อีฟว์ลีนผู้เป็นทั้งเพื่อนร่วมงานและภรรยาของวิล ได้เชื่อมต่อสมองของเขาเข้ากับระบบปฏิบัติการ จนเกิดเป็นคอมพิวเตอร์สามารถคิดเองได้เครื่องแรกของโลก จอห์นนี เด็ปป์ ได้ให้สัมภาษณ์ถึงบทบาทที่ได้รับ
@ ได้ร่วมงานกับผู้กำกับมือใหม่ ซึ่งต้องมากำกับภาพยนตร์เรื่องแรกที่มีเรื่องราวซับซ้อน คุณเชื่อใจในฝีมือเขาแคไหน
จอห์นนี เด็ปป์ : ผมไม่เคยมีข้อสงสัยความสามารถในการทำงานของเขาเลยแม้แต่นิดเดียว วอลลี่ เป็นผู้กำกับไฟแรง ที่สามารถค้นหามุมมองที่แปลกใหม่ในการสร้างภาพยนตร์ได้ ทั้งยังมีแนวคิดและวิสัยทัศน์ที่บรรเจิด ด้วยประสบการณ์การทำงานร่วม คริสโตเฟอร์ โนแลน มาแล้วหลายเรื่อง ทำให้เขามีวิธีคิดที่แยบยล แต่ถ้าใครคาดหวังว่าจะเจออะไรในแบบที่โนแลนนำเสนอก็ผิดถนัด เพราะคุณจะเจอกับคลื่นลูกใหม่ที่รุนแรง และต่างออกไปครับ
@ อะไรคือสิ่งที่ท้าทายที่สุดในการทำงานภาพยนตร์เรื่องนี้
จอห์นนี เด็ปป์ : น่าจะเป็นเรื่องของคาแรกเตอร์ของตัวละคร ที่ผมได้รับบทนี่แหละครับ ปกติแล้วผมมักจะได้รับบทที่ค่อนข้างสนุกสนาน หรือไม่ก็ตัวละครแปลกๆ หลุดโลก แต่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ผมรับบทเป็นนักวิทยาศาสตร์อัจฉริยะที่ต้องมีบุคลิกที่น่าเชื่อถือ และสุขุม รวมทั้งแนวของภาพยนตร์ก็คือแนวไซไฟ มันค่อนข้างเป็นสิ่งที่ใหม่สำหรับตัวผม
@ คุณคิดว่าโลกนี้จะดีขึ้นได้จริงมั้ย ถ้ามีเทคโนโลยีแบบในภาพยนตร์เรื่องนี้
จอห์นนี เด็ปป์ : สำหรับผม ผมเห็นด้วยว่าเทคโนโลยีนั้น มีประโยชน์ต่อมนุษย์แน่ๆ ในแง่หนึ่งและคิดว่ามันต้องเป็นผลดีกับโลกแน่นอนครับ อย่างไรก็ตามมันก็ขึ้นอยู่กับวิธีการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีของมนุษย์อีกด้วยว่าจะเลือกรังสรรค์ในสิ่งที่สังคมต้องการ หรือใช้มันเพื่อตอบสนองสิ่งที่ตัวเองต้องการเพียงฝ่ายเดียว
@ คิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะสร้างปรากฏการณ์อะไรใหม่ๆ ให้สังคมได้หรือเปล่า
จอห์นนี เด็ปป์ :ผมมั่นใจว่าน่าจะกระตุ้นให้ผู้คนหันมาตระหนักถึงความรวดเร็วแบบก้าวกระโดดในการพัฒนาของเทคโนโลยีแน่นอน หลังจากที่ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉาย ทุกคนน่าจะรู้กันดีอยู่แล้วว่า ในปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ ต่างก็กำลังพัฒนานวัตกรรมต่างๆ ให้ทันจินตนาการของมนุษย์อยู่แล้ว ซึ่งภาพยนตร์เรื่องนี้จะช่วยนำเสนอภาพเหล่านั้นออกมาให้ทุกคนเห็นได้
@ ถ้าคุณสามารถเปลี่ยนโลกได้ คุณจะมีวิธีการทำอย่างไร
จอห์นนี เด็ปป์ : การเปลี่ยนโลกในแบบของผม คือทำให้คนดูทุกคนลืมคำว่า ”เบื่อ” และพบเจอสิ่งแปลกประหลาดที่ดีกว่า ในฐานะที่ผมเป็นนักแสดง ผมมีความรับผิดชอบที่ผมต้องคำนึงอยู่เสมอคือการแสดงทุกครั้งต้องทำสิ่งที่แปลกใหม่ เพื่อจุดประกายเปิดมุมมองให้คนดู ไม่ทำให้คนดูรู้สึกเบื่อที่ต้องติดอยู่กับรูปแบบเดิมๆ
@ เวลาที่คุณได้รับบทแปลกๆ คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง
จอห์นนี เด็ปป์ : ผมดีใจนะที่ได้บทที่แปลกกว่าชาวบ้านเขาเสมอ มันทำให้ผมได้ค้นหาคำตอบกับคำถามของตัวเองอยู่ตลอดเวลา ไม่หยุดนิ่งในรูปแบบการนำเสนอแบบเดิม ยิ่งไปกว่านั้นทุกครั้งที่ผมได้อยู่ในบรรยากาศของกองถ่ายหนังมันก็เหมือนเป็นที่ลี้ภัยของผม ที่ช่วยทำให้หนีจากปัญหาจากโลกความเป็นจริง และตั้งใจสร้างงานที่ยอดเยี่ยมร่วมกับทีมงานทุกคนในเวลานั้น
ภาพยนตร์เรื่องนี้เข้าฉายแล้ววันนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น