
'ปลาใหญ่กินปลาเล็ก'
23 เม.ย. 2557
'ปลาใหญ่กินปลาเล็ก' : คอลัมน์ มองผ่านเลนส์คม โดย... บรรณวัชร
นั่งเขียนต้นฉบับวันจันทร์ ซึ่งเป็นวันที่คณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) จะพิจารณาวาระคูปองสนับสนุนการรับชมทีวีดิจิทัล โดยเฉพาะประเด็น "มูลค่าคูปอง" จึงบอกไว้ล่วงหน้า
ก่อนหน้านี้ กสท.มีโจทย์ 3 ข้อที่ต้องต้องพิจารณาแนวทางการใช้คูปองเพื่อซื้ออุปกรณ์รับชม
1.บางครัวเรือนต้องการใช้คูปองเป็นลดซื้อจอทีวีระบบดิจิทัล แทนจอทีวีเก่า
2.บางครัวเรือนมีสมาร์ททีวี และต้องการติดตั้งกล่องดิจิทัลภาคพื้น DVB-T2 และสายอากาศ รับชมได้ 36 ช่อง
3.บางครัวเรือนต้องการใช้กล่องรับสัญญาณคู่กับจานดาวเทียมเดิมที่มีอยู่ แต่ขออัพเกรดกล่อง DVB-S2 เพื่อดูแบบคมชัดสูง (HD) และเรียงช่องทีวีดิจทัลหมายเลข 1-36 พร้อมดูช่องช่องทีวีในระบบดาวเทียมและเพย์ทีวีได้
จึงมีแนวคิดแจกคูปองให้ชาวบ้านไปเป็นส่วนลดในการซื้อจอทีวีดิจิทัลรุ่นใหม่ที่มีจูนเนอร์ในตัว หรือซื้อกล่องระบบดิจิตอล (DVB-T2) พร้อมหนวดกุ้งก้างปลาดิจิทัล หรือซื้อกล่องรับสัญญาณดาวเทียม (DVB-S2) ที่เรียงช่องตั้งแต่เลข 1-36 เป็นต้น
แต่ก็มีเสียงค้านจากผู้ประกอบการช่องทีวีดิจิทัลว่า ควรจะแลกซื้อเฉพาะกล่องที่รับสัญญาณช่องทีวีดิจิทัลภาคพื้นดินอย่างเดียวที่มี 48 ช่อง เท่านั้น มิเช่นนั้นจะกลายเป็นการส่งเสริมให้กล่องทีวีดาวเทียมขยายตัวมากยิ่งขึ้น
ที่สำคัญ กล่องรับสัญญาณช่องทีวีดาวเทียมยังมีช่องโทรทัศน์ที่ถือเป็นคู่แข่งทางอ้อมอีกกว่า 200 ช่องที่จะได้ประโยชน์ไปโดยไม่ได้ลงทุนใดๆ
คำว่า "ไม่มีการลงทุนใดๆ" นั้นหมายความว่า ช่องรายการโทรทัศน์ดาวเทียมหลายร้อยช่อง ไม่ได้เข้าประมูลสัมปทานทีวีดิจิทัล
ฝ่าย กสท.ก็อ้างว่า วิธีให้แลกซื้อกล่องดาวเทียม มันเป็นการขยายพื้นที่การรับชมทีวีดิจิทัลได้อย่างรวดเร็วเพราะโครงข่ายทีวีดิจิทัล ยังดำเนินการล่าช้า และอาศัยเวลาไม่ต่ำกว่า 5 ปี จึงจะครบทุกจังหวัด
ส่วนข้ออ้างของ กสทช. ที่ว่ากล่องรับสัญญาณดาวเทียมที่ให้ใช้คูปองแลกซื้อได้ จะต้องเรียงช่องทีวีดิจิทัล ตั้งแต่หมายเลข 1-36 นั้น ไม่ใช่การแก้ปัญหาความสับสนการเรียงช่อง Must Carry บนจานดาวเทียมและเคเบิลทีวีเพราะกล่องรับสัญญาณเหล่านี้สามารถจัดเรียงช่องใหม่เองได้
ดังที่เคยเขียนไว้ในสัปดาห์ก่อนๆ ว่า กสท. เปิดช่องให้ผู้ถือใบอนุญาตโครงข่ายนำช่องหมายเลข 1-10 ไปบริหารจัดการเองได้ ส่งผลให้มีการนำ "หมายเลขช่อง" ไปเรียงเก็บเงินหรือ "ขาย" ให้กับช่องต่างๆ ไม่สามารถกระทำได้ เพราะผิดกฎหมาย
ว่ากัน ประกาศของ กสท. ทำให้เกิดการซื้อขายหมายเลขช่อง 1-10 กันในราคาสูงมากอย่างเป็นล่ำเป็นสัน หมายเลขช่องละประมาณ 2 ล้านบาทต่อเดือน ทำให้ "คนขายจานดาวเทียม" มีรายได้พิเศษ
มิหนำซ้ำ "ขาใหญ่" จานดาวเทียม ยังเล่นเกม "ปลาใหญ่กินปลาเล็ก" ไม่ยอมนำช่องทีวีดาวเทียมหลายช่องลงกล่องรับกล่องสัญญาณ โดยอ้าง กสท.จัดระเบียบใหม่ทีวีดาวเทียม
หากใครยอมจ่ายเงินรายเดือน ประมาณเดือนละ 1-2 แสนบาท ช่องรายการนั้นก็จะอยู่ในกล่องรับสัญญาณต่อไป
ช่องทีวีดาวเทียมรายเล็กๆ ที่ไม่มีอำนาจต่อรอง ต้องดิ้นรนหาเงินมาจ่าย และบางรายก็เลิกทำไปเลย เพราะจ่าย 2 เด้งคือ จ่ายรายเดือนเป็นค่าเช่าสัญญาณกับไทยคม และจ่ายรายเดือนให้เจ้าของกล่องอีก
ฤามองโลกในแง่ดี กสท.จะยืมมือ "ปลาใหญ่" กำจัดขยะทีวีดาวเทียม แต่โลกของความเป็นจริง พวกช่องทีวีขยะนั่นแหละ ที่มีเงินจ่ายให้เจ้าของกล่อง
.......................................
(หมายเหตุ 'ปลาใหญ่กินปลาเล็ก' : คอลัมน์ มองผ่านเลนส์คม โดย... บรรณวัชร)