
'เอไทม์'ขนศิลปินอมตะเอาใจคอเพลง'กล่อมกรุง'
22 เม.ย. 2557
'เอไทม์'ขนศิลปินอมตะเอาใจคอเพลง'กล่อมกรุง' : ดนตรี
เรียกว่าถ้าไม่พิเศษจริง ไม่จัด สำหรับ "เอไทม์ โชว์บิส" เพราะล่าสุดจับศิลปินรุ่นเก๋าเจ้าของตำนานเพลงลูกทุ่งอมตะ 11 คน ได้แก่ สุเทพ วงศ์กำแหง, สวลี ผกาพันธุ์, ศรีไศล สุชาตวุฒิ, ธานินทร์ อินทรเทพ, รวงทอง ทองลั่นธม, จิตติมา เจือใจ, รุ่งฤดี แพ่งผ่องใส, เศรษฐา ศิระฉายา, ดาวใจ ไพจิตร, วินัย พันธุรักษ์ และ จินตนา สุขสถิตย์ ขึ้นโชว์บนเวทีคอนเสิร์ต “กล่อมกรุง” คอนเสิร์ตทรงคุณค่า ที่ลูกทุกคนต้องพาพ่อแม่มาดู ในวันเสาร์ที่ 3 และ วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคมนี้ ณ รอยัล พารากอน ฮอลล์ สยามพารากอน แน่นอนว่าครูเพลงทั้ง 11 คนนี้จะขึ้นขับกล่อมเสียงเพลงให้แฟนๆ รุ่นเก๋าโดยพร้อมเพรียงกัน
สุเทพ วงศ์กำแหง นักร้องเจ้าของฉายา "เสียงขยี้แพรในฟองเบียร์" และศิลปินแห่งชาติ พ.ศ.2533 เจ้าของบทเพลงดังมากมาย อาทิ เพลง "เพียงคำเดียว" ที่เสียงร้องในเพลงอย่าง “เพียงคำเดียวที่ปรารถนา...อยากฟังให้ชื่นอุรา...ใจพะว้าภวังค์...” ยังดังกึกก้องอยู่ในหูใครหลายๆ คน
“เจ็บแค้นเคืองโกรธโทษฉันใย...ฉันทำอะไรให้เธอเคืองขุ่น...ปรักปรำฉันเป็นจำเลยของคุณ...นี่หรือพ่อนักบุญ...แท้จริงคุณคือคนป่า...” เนื้อเพลงท่อนจำของเพลง “จำเลยรัก” เพลงดังอมตะจากน้ำเสียงของศิลปินแห่งชาติ ปี 2532 สวลี ผกาพันธุ์ ศิลปินคู่ขวัญของสุเทพ วงศ์กำแหง เพลงนี้ที่ไม่ว่าใครๆ ก็ร้องตามได้
“ยังจำได้ไหมถึงใครคนหนึ่ง.. ซึ่งคุณเคยบอกว่ารัก..รัก.. รักยิ่งนัก...” บทเพลง “จำได้ไหม” ที่มีเสียงเป็นเอกลักษณ์ของ รวงทอง ทองลั่นธม ศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปการแสดง ปี 2529 เจ้าของรางวัลนักร้องแผ่นเสียงทองพระราชทานและรางวัลใบโพธิ์ทองพระราชทาน ในฐานะนักร้องผู้เผยแพร่ภาษาไทย ได้ชัดเจนถูกต้อง
“คิดจะปลูกต้นรักสักกอ..เกรงว่าหน่อรักนั้นจะกลาย..ความรักเรายังไม่วาย..ระกำช้ำชอกอุรา...” เพลง “คิดจะปลูกต้นรักสักกอ” บทเพลงที่ได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน จากศิลปินแห่งชาติ สาขาศิลปะการแสดง (ดนตรีสากล-ขับร้อง) ปี 2547 จินตนา สุขสถิตย์ ก่อนที่จะโด่งดังในเพลง “สักขีแม่ปิง”
”ถ้าฉันมี.. สิบหน้า.. อย่างทศกัณฑ์... สิบหน้านั้น.. ฉันจะหัน มายิ้มให้เธอสิบลิ้น สิบปาก จะฝากคำพร่ำเพ้อว่ารักเธอ.. รักเธอ เป็นเสียงเดียว...” เพลงยอดนิยมอมตะอย่างเพลง “เป็นไปไม่ได้” ของ เศรษฐา ศิระฉายา ศิลปินแห่งชาติประจำปี 2554 นักร้องนำวง ดิ อิมพอสซิเบิ้ล
"หากฉันรู้สักนิดว่าเธอรักฉัน..บอกกันวันนั้นให้รู้สักหน่อย.. ว่าดวงใจที่ฉันเฝ้าคอย.. ยังไม่เลื่อนลอย เป็นของใคร..." น้ำเสียงนุ่มลึกที่เป็นเอกลักษณ์ในเพลง “หากรู้สักนิด” ของ ธานินทร์ อินทรเทพ นักร้องรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน ปี 2506 และรางวัลเสาอากาศทอง ปี 2518
“ดวงใจฉันมีปีกบิน..เหลิงลอยเมฆินทร์ได้ดั่งฝัน..จะอยู่ไหน ไม่เคย..หวั่นฉันบินไปพลัน อยู่ใกล้เธอ...” บทเพลงที่ ทวีพงศ์ มณีนิล แต่งขึ้น สร้างชื่อเสียงและได้รับรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน ปี 2522 , “เอาความขมขื่นไปทิ้งแม่โขง.. ให้มันไหลลง.. ไหลลง.. ไหลลง.. ไหลลงทะเล... เบื่อความรักจากคนร้องเล่ห์.. เล่ห์ลวงลึกกว่าทะเล.. สุดคาดคะเนสุดนับคณา...” บทเพลงจากศิลปินรางวัลพระราชทานแผ่นเสียงทองคำ ปี 2522 รุ่งฤดี เพ่งผ่องใส
“..ทำไมถึงทำกับฉันได้.. พร่าดวงใจผู้หญิงที่สุดรัก.. รักเธอสุดแสน.. เป็นการตอบแทน แค้นที่เธอรับมาหรือไร...” เพลงแทนใจผู้หญิงที่ใจถูกทำร้ายได้ตั้งแต่ยุคก่อนจนถึงยุคปัจจุบัน จากนักร้องรางวัลแผ่นเสียงทองคำพระราชทาน ปี 2523 ดาวใจ ไพจิตร
“ไหนว่าจะจำ.. พี่เชื่อถ้อยคำและจำติดใจ.. ไม่ลืม.. ให้จำคืนหนึ่งคืนนั้น.. สวรรค์อันเคยดูดดื่ม.. แล้วใครที่ลืมถ้อยคำ...” ผลงานเพลง “ไหนว่าจะจำ” ของ วินัย พันธุรักษ์, “รักข้ามขอบฟ้า.. รักคือ.. สื่อภาษาสวรรค์.. อาจมีใจคนละดวง.. ต่างเก็บอยู่คนละทรวง.. ไม่ห่วงถ้ามีสัมพันธ์...” ศิลปินเจ้าของเสียงร้องเอกลักษณ์ที่ทุกคนประทับใจ ศรีไศล สุชาตวุฒิ
เพลงเหล่านี้กำลังจะกลับมา สร้างประวัติศาสตร์อีกครั้ง และรายได้ส่วนหนึ่งมอบให้ มูลนิธิสวัสดิการนักแสดงอาวุโส