บันเทิง

มองผ่านเลนส์คม:เบื้องหลัง'ซูสีไทเฮาฯ'

มองผ่านเลนส์คม:เบื้องหลัง'ซูสีไทเฮาฯ'

21 เม.ย. 2557

เบื้องหลัง "ซูสีไทเฮาฯ" : คอลัมน์ มองผ่านเลนส์คม โดย... นันทพร ไวศยะสุวรรณ์

 
 
          ขอบอกว่า ไม่เพียงหน้างานของละครเวที "ซูสีไทเฮา เดอะมิวสิคัล" ที่น่าติดตามเท่านั้น ทว่า เมื่อมองลึกลงไปในหลายๆ ส่วน ปรากฏว่าล้วนน่าสนใจไม่แพ้กัน...
 
          ดิฉันได้ไปชมเบื้องหลังการซ้อม และการสวมใส่เครื่องแต่งกายในการแสดงจริง รวมทั้งสอบถามรายละเอียดเกี่ยวกับ "เครื่องทรง" ต่างๆ กับ "น้องบอล" คอสตูมสไตลิสต์คนเก่ง ว่ามีความสำคัญและข้อสังเกตอะไรบ้าง 
 
          ซึ่งทำให้ดิฉันทึ่งในกระบวนการคิด และเข้าใจในกุศโลบายที่เป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใครของคนในสมัยชิง หรือ "แมนจู" ตั้งแต่รากหญ้าไปจนถึงราชวงศ์ระดับต่างๆ 
 
          การปกครองในสมัยชิง สถาปนาขึ้นโดยชนกลุ่มน้อยแมนจู เครื่องแต่งกายนอกจากเป็นสิ่งที่สืบทอดมาจากบรรพบุรุษแล้ว ยังพัฒนาให้สะดวกต่อการดำเนินชีวิตและการออกรบอีกด้วย  
 
          ขณะเดียวกันยังนับว่า มีความสลับซับซ้อน และจุกจิกมากที่สุดเช่นกัน
 
          พระนางซูสีไทเฮา ทำไมถึงมีปลอกเล็บสีทองเรียวยาว นั่นแสดงถึงอำนาจ และความเด็ดขาดของผู้หญิงที่ปกครองแผ่นดินจีนอันกว้างใหญ่ไพศาล 
 
          เสื้อกั๊กยาว ที่สวมทับชุดคลุมด้านนอกของพระราชินี ยามออกว่าราชการหรือในพระราชพิธีต่างๆ จะทรงชุดสีเขียวเข้ม สีน้ำเงินเข้ม หรือสีดำขลิบด้วยผ้าแพรหรือผ้าไหมยกทอง ปักลวดลายมังกร และประดับด้วยพิมพาภรณ์ต่างๆ ปกคอด้านหลังมีสายผ้าสีเหลืองทองผูกไว้ ประดับด้วยมุก ฯลฯ 
 
          และไม่มีใคร นอกจากพระจักรพรรดิจีนเท่านั้น ที่สามารถสวมเสื้อคลุมลายมังกร 12 ตัวได้!  
 
          เครื่องพระยศนั้น ยังเกี่ยวข้องกับพุทธศาสนา ทั้งหมวกครอบ หรือสร้อยประคำที่มีลูกปัดเรียงร้อยอยู่ 108 เม็ด
 
          ยังมีเกร็ดน่ารู้อีกมากมาย ที่เล่า ณ ที่นี้คงไม่หมด แต่สิ่งที่ดิฉันประทับใจก็คือ "รองเท้า"
 
          ใช่แล้วค่ะ "รองเท้าไม้" หรือ เกี๊ยะแบบแมนจู ที่มีส้นอยู่ตรงกลางคล้ายกระถางดอกไม้ หรือกีบม้า เหตุที่ผู้หญิงแมนจูสวมเกี๊ยะ เพราะพวกเธอไม่อยากถูกมัดเท้าเหมือนชาวฮั่น คือนอกจากจะเจ็บ และเดินลำบากแล้ว เวลาเดินยังต้องเกร็งสะโพกด้วย (ว่ากันว่ามีผลเวลาร่วมรัก เพราะทำให้สามีพึงพอใจ) 
 
          การสวมรองเท้าแบบนี้ ฉีกกรอบของสตรีชาวฮั่น ที่ปฏิบัติกันมาช้านาน!
 
          เข้าใจว่า สิ่งที่ผู้จัดละครเวทีเรื่องนี้อยากนำเสนอ นอกจากแก่นของเรื่อง และความบันเทิง บวกกับบทเพลงอันไพเราะแล้ว ยังให้ความหมายของขนบธรรมเนียม แบบแผนราชประเพณี และเครื่องแต่งกายที่มีมาช้านาน ให้เสมือนจริงมากที่สุด 
 
          จึงไม่ใช่แค่เพียงชีวิตในอีกแง่มุมหนึ่งของสตรีที่โลกไม่ลืมเท่านั้น เรายังเห็นถึง "สัญลักษณ์" ที่สอดแทรกไว้ในทุกอณูของเรื่องนี้ด้วย 
 
          ใกล้เข้ามาแล้วนะคะ ที่จะได้ร่วมสัมผัสความรู้สึกในยุคสมัยนั้นด้วยกัน   
 
          "ซูสีไทเฮา เดอะ มิวสิคัล" แสดงทั้งหมด 10 รอบ 25-27 เมษายน และ 2-4 พฤษภาคม ที่เอ็มเธียเตอร์ (ถนนเพชรบุรีตัดใหม่) วันศุกร์มีรอบ 19.30 น. เสาร์และอาทิตย์มีรอบ 14.00 น. และ 19.30 น. ซื้อบัตรได้ที่ไทยทิคเก็ตเมเจอร์ค่ะ           
 
.......................................
(หมายเหตุ เบื้องหลัง "ซูสีไทเฮาฯ" : คอลัมน์ มองผ่านเลนส์คม โดย... นันทพร ไวศยะสุวรรณ์)