บทสัมภาษณ์สุดท้ายของ'พอล'แสดงนำใน'Brick Mansions'
20 เม.ย. 2557
บทสัมภาษณ์สุดท้ายของ "พอล"แสดงนำใน "Brick Mansions" : สกู๊ปต่างประเทศ
Brick Mansions เป็นเรื่องราวของ เดเมี่ยน (วอล์คเกอร์) เจ้าหน้าที่ตำรวจที่ต้องปลอมตัวเข้าไปในชุมชนอาชญากรที่ชื่อ “บริค แมนชั่นส์" เพื่อตามหาหัวรบนิวเคลียร์ที่ถูกพวกแก๊งค้ายาขโมยไป เดเมี่ยน ต้องขอความช่วยเหลือจากลีโน่ (เบลล์) เจ้าถิ่นที่รู้จักเส้นทางภายในบริคแมนชั่นส์ดีกว่าใครทุกคน เพื่อที่จะช่วยเขาฝ่าเข้าดงอาชญากรและนำหัวรบกลับคืนมาอย่างปลอดภัย นี่ถือเป็นผลงานการแสดงนำเรื่องสุดท้ายของ พอล วอล์คเกอร์ ที่ถ่ายทำเสร็จสมบูรณ์ ก่อนที่เขาจะประสบอุบัติเหตุจนเสียชีวิต โดยเขาก็เคยให้สัมภาษณ์กับทางรายการเอนเตอร์เทนเม้นท์ ทูไนท์ ในกองถ่ายเอาไว้ ซึ่งก็ถือเป็นหนึ่งในไม่กี่รายการที่ได้พูดคุยกับพอล ก่อนที่เขาจะจากไปอย่างไม่มีวันกลับ
@ อะไรเป็นสิ่งที่ทำให้คุณเข้ามารับบทนำในหนังเรื่องนี้
ผมเคยดู District 13 ตั้งแต่ตอนที่หนังเข้าฉายใหม่ๆ ในอเมริกา ซึ่งในยุคนั้นผมคิดว่าไม่มีหนังแอ็กชั่นเรื่องไหนที่สร้างสรรค์ลักษณะเฉพาะของฉากแอ็กชั่นได้แหวกแนวขนาดนั้น โดยเฉพาะสตั๊นต์บนดาดฟ้าตึก ที่ผมจินตนาการว่าตัวเองคงมีโอกาสทำแบบนั้นบ้างสักวัน จนได้มารู้ว่า ลุค เบซง รวมถึง เดวิด เบลล์ นักแสดงนำจากหนังต้นฉบับนำกลับมาสร้างใหม่ ผมจึงไม่รีรอตอบตกลงเพื่อมาแสดงในหนังเรื่องนี้
@ ทุกคนมั่นใจว่าคุณสามารถแสดงฉากสตั๊นต์ขับรถได้อยู่แล้ว แต่การต้องแสดงสตั๊นต์แบบฟรีรันนิ่งถือเป็นความท้าทายใหม่ คุณมีการเตรียมตัวยังไงบ้าง
โชคดีที่นักแสดงร่วมจอผมคือ เดวิด เบลล์ ผู้คิดค้นฟรีรันนิ่ง หรือที่คนฝรั่งเศสเรียกว่า “พาคัวร์” เขาเป็นทั้งนักแสดงร่วมจอและโค้ชส่วนตัวให้กับผม เขาบอกผมว่าทริกง่ายๆ ในการปีนป่ายหรือกระโดดจากที่สูงก็คือ อย่าไปคิดอะไรทั้งนั้น ปล่อยให้ร่างกายของตัวเองพาคุณหลบอุปสรรคต่างๆ ที่ขวางทาง เดวิด เป็นคนที่มีความคล่องแคล่วเหลือเชื่อ มันน่าทึ่งเพราะเขาอายุมากกว่าผมด้วยซ้ำ แต่ยังรวดเร็วเหมือนกับตอนที่คุณเคยเห็นเขาแสดงใน District 13 เลย
@ สังเกตเห็นว่าคุณสักคำว่า เมโดวส์ ซึ่งเป็นชื่อลูกสาวของคุณไว้บนข้อมือ คุณมีส่วนร่วมกับชีวิตเธอมากแค่ไหน
เธอคือคนที่ผมรักที่สุดในโลก เวลาที่ผมเลือกแสดงหนัง ไม่ว่าจะเป็นบทที่ผมชอบหรือไม่ก็ตาม คนที่ผมเชื่อใจและรับฟังก่อนตอบตกลงก็คือเธอ ถึงแม้ตอนนี้เธอจะย้ายมาอยู่กับผมแบบ 24 ชั่วโมง แต่ปัจจุบันเธออายุ 15 แล้ว และก็คงอยู่ที่บ้านอีกไม่กี่ปีก่อนเข้ามหาวิทยาลัย ผมจึงอยากให้เวลากับเธอให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ จริงๆ แล้วตอนนี้เธอก็มาอยู่ในกองบริคแมนชั่นส์กับผมด้วย ผมรู้สึกดีใจมากที่ได้เห็นเธอเวลาเหนื่อยๆ
@ คุณยังมีโปรเจกท์หนังอีกมากมายในอนาคต ไม่ว่าจะเป็น Fast & Furious หรือ Agent 47 คุณเคยคิดบ้างไหมว่าเส้นทางในชีวิตของตัวเองจะเป็นยังไง
แผนการของผมก็คือ ผมจะทำงานจนกระทั่งอายุ 40 ก่อนที่จะหยุดพักเพื่อสำรวจชีวิตตัวเองดูสักพัก บางทีชะตาชีวิตก็อาจพาผมไปอีกทิศทางเลยก็ได้ เมโดวส์ ให้กำลังใจผมในการทดลองทำหลายสิ่งหลายอย่าง พยายามให้ผมเดินทางไปรอบโลกเพื่อที่เธอจะได้ตามผมไปเที่ยว (หัวเราะ) มันไม่ใช่เรื่องแย่เลย เพราะครอบครัวคือสิ่งที่สำคัญที่สุดของผม ผมเกิดในครอบครัวชาวมอร์มอน ที่มีแนวคิดในเรื่องครอบครัวคือรากฐานที่แข็งแกร่ง ดังนั้นอนาคตของผมแม้ว่าจะเป็นยังไง คนที่ผมรักจะต้องอยู่ด้วยกันเสมอ
@ คุณคิดว่าตัวเองจะแสดง Fast and Furious ถึงภาค 25 ไหม
(หัวเราะ) ผมไม่รู้นะ มันก็อาจเป็นไปได้ มันมีมุกที่ทุกคนในกองถ่ายคอยพูดตลอดว่า ถ้าสตูดิโอยังไฟเขียวให้เราสร้างต่อไปเรื่อยๆ ถึง Fast and Furious ภาค 66 เราก็คงต้องนั่งรถเข็นไล่ล่ากันแน่นอน (หัวเราะ)
ภาพยนตร์เรื่องนี้ มีกำหนดฉายในอเมริกาวันที่ 25 เมษายนในโรงภาพยนตร์เท่านั้น รายได้ส่วนหนึ่งจะมอบให้มูลนิธิ Reach Out WorldWide ซึ่ง พอล วอล์คเกอร์ เป็นผู้ก่อตั้ง