44ปีตำนานชีวิต'สดใส'ออกอัลบั้ม'อนิจจาชาวนาไทย' | คมชัดลึก

 

 

       

          บ่ายศุกร์ที่ 28 มีนาคมที่ผ่านมา ที่หอประชุมเล็กศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ได้มีงานดีๆ ที่ควรบันทึกจดจำไว้ในวงการ นั่นคือ คอนเสิร์ต “44 ปีตำนานชีวิตสดใส” โดยนักร้องนักแต่งคุณภาพอีกคนหนึ่งของวงการ คือ สดใส รุ่งโพธิ์ทอง 

 

          สดใส โรจนวิชัย หรือสดใส รุ่งโพธิ์ทอง ในวัย 64 ปี ที่ยังคงสดใสสมชื่อ กล่าวถึงรายละเอียดในคอนเสิร์ตที่ผ่านมาว่า

      “ทางศูนย์วัฒนธรรม เขามอบหมายให้มูลนิธิฯ จัดงาน 3 วัน ในแนวคิดที่ว่า ”ร้องรำทำเพลง” วันศุกร์ที่ 28 ทางมูลนิธิสมัชชาศิลปิน เลยประชุมกันให้จัดเป็นคอนเสิร์ตของผม ส่วนวันที่ 29 เป็นคอนเสิร์ตของมูลนิธิและวันที่ 30 เป็นของศิลปินแห่งชาติ ชินกร ไกรลาส ผมก็มาคิดว่ามันครบ 44 ปีที่ร้องและประพันธ์เพลง เนื้อหาในคอนเสิร์ต จึงเป็นตำนานชีวิตตั้งแต่ผมเรียนรามคำแหง หาค่าหน่วยกิต จากการแต่งเพลงแรก คือ “ข้าด้อยเพียงดิน”เมื่อปี 2514 หลังจากนั้น ผมมาประสบความสำเร็จจาก”รักจางที่บางปะกง” เมื่อปี 2517 บนเวทีจะมีภาพวีทีอาร์ (ภาพฉายบนจอ) ของเพลงร่วมสมัย “จดหมายจากแนวหน้า” ยอดรัก สลักใจ ที่อยู่ในรุ่นเดียวกัน และเพลง ”จดหมายเป็นหมัน” ขวัญชัย เพชรร้อยเอ็ด “ข้าวไม่มีขาย” ศรเพชร ศรสุพรรณ 

    

          หลังจากนั้นถึงช่วง เพลงลูกทุ่งตกต่ำ ผมหันไปอยู่ทางเหนือ ไปอยู่กับบุญศรี รัตนัง ไปร่วมวงกัน เดินสาย 5 จังหวัดเหนือ จึงเป็นที่มาของเพลง ”หนุ่มลำปางตามเมีย” แล้วก็มายุคที่ผมร้องเพลงประกอบภาพยนตร์ เรื่อง “พ่อตาปืนโต” มีเพลง ”บอกรักฝากใจ” ในหนังคนร้องจะเป็นประจวบ ฤกษ์ยามดี มาลิปซิง และเพลง “หาดหลายใจ” จากเรื่อง”ทหารเรือมาแล้ว” แต่เรื่องนี้ไม่มีนักร้องลูกทุ่งไปแสดงนะครับ ถัดมาก็ได้มาร้องเพลงประกอบละคร ”มนต์รักแม่น้ำมูล” ฉบับอำพล ลำพูน เป็นพระเอก มียอดรัก เสรี รุ่งสว่าง และผมแสดงด้วย ในเรื่องนี้ผมได้แต่งเพลง ”สาวลำน้ำมูล” ไล่มาถึงเพลงประกอบละคร” อาจารย์โกย” เพลงจากหนังแผ่นเรื่อง ”สองผู้ยุ่งเหยิง” ที่เอกราช สุวรรณ กับปีเตอร์ สาลีวงษ์ แสดงคู่กัน ผมเล่นเป็นครู มีเพลง”น้ำตาครู”กับเพลง “พานทองของแท้” จากนั้นผมก็มาแต่งเพลงในละครโทรทัศน์ “ทหารเกณฑ์มาแล้ว” กับ”สิบตำรวจโทบุญถึง” ให้ยิ่งยง ยอดบัวงาม ร้อง เพลงเหล่านี้ เอามาเล่าเป็นตำนานและผมร้องเป็นตัวอย่าง 4 เพลง”

       

          สดใส เล่าเป็นฉากๆ ด้วยความจำที่ดีเยี่ยม และเพราะเป็นคนที่ชอบจดบันทึกด้วย ข้อมูลจึงถูกต้องชัดเจน

          “พอผ่านยุคนั้นไป ชีวิตก็ตกต่ำอีกครั้ง ผมไปร้องห้องอาหาร อยู่ราว 10 ปี ก็มาได้ร้องเพลง ”รักน้องพร” ทำให้ชีวิตชีวิตเปลี่ยน วงการลูกทุ่งคึกคัก มีการประกวดร้องเพลงจากรุ่นใหม่ เพลงลูกทุ่งเริ่มร่วมสมัยแล้ว หลังจากช่วงนี้ ผมก็มาเป็นสมาชิกวุฒิสภา ปทุมธานี เพราะอยากช่วยแก้ไขปัญหาให้กับประชาชน ก็ทำให้ผมได้มีโอกาสเป็นที่ปรึกษารัฐมนตรีกระทรวงวัฒนธรรมสองสมัย ในคอนเสิร์ตก็ได้นำเสนอผลงานที่ได้ทำในช่วงนี้ เช่น มีการจัดงานวันกตัญญูครูเพลง เป็นการเชิดชูเกียรติครูเพลง 2 ครั้งด้วยกัน และอีกหลายๆ งาน 

     

          ในคอนเสิร์ต ยังมีช่วงที่นักร้องหลายคนที่มาร่วมในตำนานชีวิตของผม เช่น ศรชัย เมฆวิเชียร ซึ่งเขาก็ออกมาร้องเพลงด้วย ปริศนา วงศ์ศิริ เคยมาร่วมทัวร์ต่างประเทศด้วยกัน เขาออกมาร้อง 2 เพลง สุดา ศรีลำดวน ซึ่งเขาชื่นชมในเพลง “ชั่วเจ็ดทีดีเจ็ดหน” ที่ผมแต่งให้พุ่มพวง และส้ม สุดาเขาฝากตัวเป็นลูกศิษย์ด้วย สุดามาร้องเพลงของเขา เพราะรุ่ง สุริยา เขาขอร้องนี้ (เพลง ”ชัวเจ็ดทีดีเจ็ดหน” เป็นเพลงโปรดของรุ่ง สุริยา) ซึ่งรุ่งเขาก็ร้องเพลง ”บอกรักฝากใจ” และมี เกรียงไกร กรุงสยาม ร้องเพลง “ตามองใจ” กับ ”แม่พวงมาลัย” แจ๊ค ธนพล ร้อง ”ขออยู่ด้วยคน” กับ ”ขวัญใจชาวนา” และปิดท้ายด้วยนักร้องเงาเสียงสดใส คือ ผู้ใหญ่กล้า แป๊ะแก้ว กับนกแล บางระจัน จากรายการ ”กิ๊กดู๋” เขามาล้างตากัน มาร่วมร้องเพลง ”สาวงามเมืองพิจิตร” กับ ”รักน้องพร” ร้องสลับกัน ทั้งคู่เขามากราบขอบคุณผมที่ได้มาร่วมในตำนาน”

       

          นักร้องดีกรีปริญญาตรี รามคำแหง กล่าวถึงงานเพลงชุดล่าสุด ทิ้งท้ายว่า

          “สำหรับผลงานชุดใหม่นี้ ผมทำไว้มีเพลงที่ทำเพื่อต้อนรับเออีซีด้วย ชื่อชุด ”อนิจจาชาวนาไทย” ซึ่งผมแต่งเอง เมื่อก่อนนั้นผมเองมีเพลง ”เราคนจน” “โอ้ชาวนา””ขวัญใจชาวนา”และ”เสียงจากกสิกร” พอมาช่วงนี้ กระแสชาวนากำลังแรง ในเพลงจะบรรยายว่า ชีวิตชาวนาลำบากอย่างไร อยากให้เห็นคุณค่าชาวนาไทย แต่ไม่เกี่ยวกับการเมือง ไม่มีเรื่องใบประทวน และในชุดนี้ จะมีอยู่ 4 เพลง ที่เป็นเพลงลาว เราจะต้อบรับประชาคมเศรษฐกิจอาเซียน เพราะมีนักธุรกิจท่านหนึ่งชื่อ คุณ สมศักดิ์ สุนาถวณิชกุล เขาทำธุรกิจไทย-ลาว ได้นำเพลงเหล่านี้ที่คนลาวเขาบันทึกเสียงไว้แล้ว เขาอยากให้ผมร้อง คุณสมศักดิ์เขาเป็นกรรมาธิการการศึกษาการท่องเที่ยวอยู่แล้ว เราเลยได้มีเพลง”เลาะโขงล่องใต้” “ศาลจ้าวตง””สายน้ำซัน”และ”สาวปากกระดิ่ง” ผมร้องเป็นสำเนียงไทยลาว ส่วนเพลงที่เหลือมี “ปลูกข้าวเลี้ยงควาย” และเพลง”ขวัญใจชาวนา”เอามารวมในชุดด้วย รวมทั้งเพลง “ดอกอ้อสุโขทัย” (ต้นฉบับ สุชาติ เทียนทอง ร้องและแต่งไว้ก่อนที่ยอดรัก สลักใจ จะบันทึกเสียงอีกครั้ง) อีกเพลงคือ “ใต้เงาจันทร์” ที่ผมเคยร้องไว้และแฟนเพลงชอบขอฟังหน้าเวทีมารวมอยู่ด้วย

    

          สำหรับงานชุดใหม่ ชุด ”อนิจจาชาวนาไทย” กำลังจะถ่ายมิวสิกวิดีโอ ซีดีเสร็จเรียบร้อยแล้ว ดาวน์โหลดใกล้จะมีแล้ว ส่วนการแสดงสด 44 ปีตำนานชีวิต จะทำขายเป็นแผ่นด้วย กำลังตัดต่ออยู่ครับ นี่คือการกลับมาแบบตั้งใจทำงานมากๆ ผมนั่งดูนั่งคุมทั้งหมด เรามีความคิดว่า เพลงลูกทุ่งเต็มร้อย เราต้องดูแลเอง เราคัดเอง เลือกเอง เป็นเพลงร่วมสมัย มีคุณภาพ ผมขอฝากแฟนๆ เพลงด้วยครับ”