
เอกเขนกดูหนัง:'lone survivor'
07 ก.พ. 2557
'lone survivor' : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม
หนังสงครามในช่วงสองทศวรรษหลังมานี้ ผู้สร้างล้วนให้ความสำคัญกับการจำลองบรรยากาศที่สมจริง สร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ในการรับชมด้วยงานสร้างที่ออกแบบมาให้ทั้งภาพและเสียง เหมือนพาผู้ชมเข้าไปร่วมอยู่ในสนามรบ และไม่เพียงการวิพากษ์สงครามเท่านั้น หนังหลายเรื่องยังพาไปสำรวจจิตใต้สำนึกเบื้องลึกของเหล่าทหาร ที่แต่ละวินาทีแห่งความเป็นความตายกำลังคืบคลานผ่านเข้ามานั้น ไม่เพียงแต่สัญชาตญาณการเอาชีวิตรอด พวกเขายังมีภารกิจหน้าที่ที่ต้องทำให้สำเร็จ ความรู้สึกผิดชอบชั่วดีในแง่ศีลธรรมที่มีต่อข้าศึกศัตรู และมิตรภาพแห่งความเป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกันระหว่างสู้รบ ความเหนื่อยยากมากมายทั้งหมดนี้ถูกแบกไว้หนักอึ้งบนสองบ่า ไม่แพ้น้ำหนักจากการประทับปืนยิงต่อสู้ในสมรภูมิรบ
หนังอย่าง saving private ryan, black hawk down หรือแม้กระทั่ง zero dark thirty หนังชิงออสการ์เมื่อปีที่ผ่านมา ไม่เพียงน้ำเสียงของการวิพากษ์ความเหลวไหลของสงคราม ว่าด้วยจิตวิเคราะห์ของเหล่าทหารผู้ปฏิบัติการ หนังเหล่านี้ ยังแสดงออกถึงความรุนแรงอย่างดุดันเกรี้ยวกราด โดยเฉพาะงานด้านภาพทั้งการกำกับและตัดต่อ รวมถึงเสียงประกอบที่ไม่เพียงเสียงปืน ระเบิด จะดังอึกทึกครึกโครม ราวกับบันทึกมาจากสนามรบจริงเท่านั้น แต่เสียงบรรยากาศอื่นๆ ที่วางน้ำหนักดังเบา ล้วนขับเน้นความสมจริงและให้รู้สึกกดดัน ต่างทำให้หนังสงครามที่เอ่ยมาเป็นที่จดจำและได้รับการพูดถึงทุกครั้ง ที่มีการอ้างเอ่ยถึงหนังสงครามที่ดีที่สุดในทศวรรษหลังของฮอลีวู้ด ซึ่งอาจรวมถึงหนังเรื่องล่าสุดที่มีชื่อว่า “lone survivor” เข้าไปด้วย
หนังพูดถึงหนึ่งในปฏิบัติการเล็กๆ ของ "ภารกิจปีกแดง" (operation red wings) ที่ใช้ทหารนาวิกโยธินหน่วยซีลเพียงไม่กี่นาย ออกสำรวจพื้นที่หมู่บ้านเล็กๆ แห่งหนึ่งในอัฟกานิสถานโดยมีจุดหมายคือการชี้เป้า และยืนยันเป้าหมายในการลงมือสังหารหนึ่งในผู้นำคนสำคัญของกลุ่มนักรบตาลีบัน ที่คร่าชีวิตทหารอเมริกันไปแล้วกว่า 20 นาย
lone survivor มาในแนวทางหนังสงครามแบบ antihero ที่ตัวละครอาจจะไม่ได้ประกอบวีรกรรมยิ่งใหญ่อะไรให้โลกต้องจารึก แต่การพาตัวเองออกมาจากหายนะในสงครามหรือภารกิจแสนอันตรายก็ดูจะเป็นความกล้าหาญอันน่าทึ่งของมนุษย์ตัวเล็กๆ คนหนึ่ง (ความรู้สึกเช่นเดียวกับเหล่านักบินอวกาศบนยานอพอลโล 13 ที่แม้ภารกิจสำรวจดวงจันทร์ไม่สำเร็จ เพราะยานชำรุดเสียหาย แต่สุดท้ายพวกเขาก็ได้รับการยกย่องเมื่อสามารถฝ่าอันตรายเดินทางกลับโลกมาได้อย่างปลอดภัย) เช่นเดียวกัน ภารกิจของหน่วยซีลทีม 10 โดยทหาร 4 นาย แม้ไม่บรรลุจุดประสงค์แถมยังต้องเอาชีวิตมาทิ้งบนภูเขาชันในดินแดนทุรกันดาร แต่ระหว่างการสู้รบเพื่อเอาชีวิตรอด มิตรภาพของเพื่อนนาวิกโยธินที่ฝึกฝนมาด้วยกัน และออกรบเคียงบ่าเคียงไหล่ ยอมเสียสละเพื่อหน้าที่และปกป้องเพื่อนร่วมชะตากรรม ที่สำคัญแม้พวกเขาจะเห็นแย้ง มีแนวคิดแตกต่างกันบ้าง แต่สุดท้ายความเคารพและยอมรับในสถานะของเพื่อนและงานสายบังคับบัญชา ก็หลอมรวมให้เป็นน้ำหนึ่งเดียวกัน เพื่อทำภารกิจแม้จะผิดพลาดแต่ก็ไม่ปริปากกล่าวโทษซึ่งกันด้วย ก้มหน้ารับชะตากรรม ร่วมต่อสู้ไปด้วยกัน ด้วยหัวจิตหัวใจของลูกผู้ชาย
lone survivor เป็นหนังสงครามอีกหนึ่งเรื่อง ที่สร้างบรรยากาศสนามรบได้สมจริงโดยเฉพาะงานด้านการออกแบบและบันทึกเสียง หนังเข้าชิงรางวัลออสการ์ในสาขาบันทึกเสียง (sound mixing) และตัดต่อเสียง (sound editing) ยอดเยี่ยม ซึ่งมีการตัดต่อผสมเสียง ตลอดจนการออกแบบและบันทึกเสียงที่ดีนั้น ไม่จำเป็นต้องโชว์ศักยภาพของพลังเสียงในหนังเท่านั้น หากแต่การสร้างบรรยากาศได้อย่างสมจริงและเร้าอารมณ์โดยอาศัยจังหวะการวางร่องของแหล่งกำเนิดเสียงในหนังได้ถูกที่ถูกทาง ตั้งแต่การสร้างเสียงมวลอากาศของความเงียบสงัด ที่ปรากฏเพียงเสียงลมหายใจของตัวละครในยามคับขันหรือเสียงอีกทึกครึกโครมในฉากต่อสู้ หรือความโกลาหลวุ่นวาย ที่ไม่ใช่แค่ความดังในระดับเดซิเบลที่สูง แต่เทมโป้ของเสียงมากมายที่นำประกอบกัน ก็ช่วยขับเน้นบรรยากาศและอารมณ์ของหนังที่ให้ถึงความสมจริงและเร้าอารมณ์ผู้ชมอย่างที่คนทำต้องการ ซึ่งถือเป็นความท้าทายที่หนังสงครามในทศวรรษหลังต่างก็ทำสำเร็จ (แต่โอกาสของ lone survivor ในการคว้าออสการ์ปีนี้อาจจะไม่ง่ายนัก เมื่อดูจากคู่แข่งที่งานด้านการออกแบบเสียงในหนังโดดเด่นไม่แพ้กันอย่าง captain phillips, gravity หรือแม้แต่หนังเพลงอย่าง inside llewyn davis) และน่าเสียดายที่งานด้านภาพของ lone survivor ซึ่งทำได้ดีไม่แพ้กัน กลับถูกมองข้ามโดยไม่ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลจากสถาบันใดๆ ด้วยซ้ำ ทั้งการถ่ายทอดบรรยากาศร้อนแล้งกันดารของหมู่บ้านชายแดนอัฟกันติดปากีสถาน หน้าผา ที่เต็มไปด้วยแง่งหินตะปุ่มตะป่ำที่หน่วยซีลตัดสินใจโดดหนีการตามล่าของกลุ่มตาลีบัน ล้วนโน้มนำให้รู้สึกกดดันและเห็นถึงความยากลำบากทั้งในการปฏิบัติภารกิจและการเอาชีวิตรอดของนาวิกโยธินทั้ง 4 ไม่นับรวมถึงเทคนิคเมกอัพที่ตกแต่งบาดแผลเหวอะหวะจากคมกระสุน และร่องรอยฟกช้ำ ปูดโปนกระดูกหักร้าวตามร่างกายจากการหล่นลงกระแทกแผ่นหินขรุขระของทหารทั้ง 4 นาย
วีรกรรมของตัวละครใน lone survivor อาจจะไม่ได้ยิ่งใหญ่ ขนาดกอบกู้โลกเอาไว้ได้ แต่อย่างน้อยมันก็เป็นชัยชนะแห่งความพ่ายแพ้ที่งดงาม และเล่าถึงมิตรภาพของทหารอเมริกันที่พวกเขาได้รับทั้งจากเพื่อนและคนแปลกหน้า
.......................................
(หมายเหตุ 'lone survivor' : คอลัมน์ เอกเขนกดูหนัง โดย... ณัฐพงษ์ โอฆะพนม)