
'ผู้นำ'แบบ'ผู้ชนะสิบทิศ'
มองผ่านเลนส์คม : 'ผู้นำ' แบบ 'ผู้ชนะสิบทิศ' : นันทพร ไวศยะสุวรรณ์
วันนี้ดิฉันได้รับเมลจากผู้ชมทางบ้าน ที่ติดตามภาพยนตร์โทรทัศน์เรื่อง "ผู้ชนะสิบทิศ" ทางช่อง 8 ซึ่งออนแอร์งวดเข้ามาทุกทีแล้ว
น่าสนใจที่ว่า คุณชนัญญา ศรีประภาส หยิบยกความบันเทิง มาผูกโยงกับสถานการณ์บ้านเมืองในเวลานี้ จึงน่าที่จะนำมาขยายต่อ
เพราะนอกจากจะเห็นมุมดีๆ ของบทประพันธ์อันทรงคุณค่า และการทำมาสร้างใหม่ในภาคของศิลปะอีกแขนงหนึ่งแล้ว เรายังจะสามารถ "ส่อง" ชีวิตผ่านตัวละคร รวมทั้งเรื่องราวต่างๆ เพื่อเป็นกระจกสะท้อนให้ได้เรียนรู้ไปพร้อมๆ กันอีกด้วยค่ะ
คอลัมน์ มองผ่านเลนส์คม นสพ. คมชัดลึก ที่เคารพ ก่อนอื่นดิฉันขอกล่าวสวัสดีคุณเจ้าของคอลัมน์ "มองผ่านเลนส์คม" ก่อนค่ะ...
อย่างที่ทราบกัน ภายใต้สถานการณ์ความขัดแย้งทางสังคมที่เกิดขึ้นในขณะนี้ กลับทำให้ดิฉันนึกถึงภาพยนตร์ไทยเรื่องหนึ่งในอดีตที่เคยถูกสร้างมาหลายต่อหลายครั้งแล้ว และกำลังนำกลับมาทำเป็นภาพยนตร์โทรทัศน์อีกครั้ง คือ เรื่อง "ผู้ชนะสิบทิศ"
นอกจากที่ดิฉันได้เห็นความยิ่งใหญ่จากโปรดักชั่นของภาพยนตร์เรื่องนี้แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ตัวดิฉันมองเห็นได้ชัดคือ "ข้อคิด" ค่ะ คือเรื่องของความเป็นผู้นำ ความรัก และสามัคคีของคนในชาติ ซึ่งเหมาะกับสถานการณ์บ้านเมืองของเราในเวลานี้เป็นอย่างมาก
"ผู้ชนะสิบทิศ" สอนให้เห็นว่าการมีผู้นำในแต่ละเมืองนั้นมีความจำเป็นอย่างมาก เป็นสิ่งยึดเหนี่ยวของประชาชนตาดำๆ ถึงแม้ว่าจะมีเหตุการณ์ต่างๆ เกิดขึ้น ผู้นำนั้นก็จะไม่ละทิ้งประชาชนที่ตนปกครอง อย่างเช่น "จะเด็ด" จะตามไปยึดเมืองแปร เมืองหงสาวดี ผู้นำแต่ละเมืองนั้นก็สู้สุดใจ นึกถึงประชาชนก่อน ไม่ละทิ้งประชาชนพร้อมที่จะอยู่เคียงข้างไปตลอด
และสิ่งหนึ่งที่เห็นได้จากการเป็นผู้นำจากเรื่องนี้คือ ทำอย่างไรก็ได้ให้สังคมเกิดความรักกัน เป็นน้ำหนึ่งใจเดียวกัน ซึ่งจะก่อให้เกิดความสามัคคีตามมา แต่ถ้าประชาชนแบ่งกลุ่มแบ่งฝ่ายไม่รักกัน สุดท้ายวันหนึ่งก็จะโดนเมืองอื่นที่เขาแข็งแรงกว่าโจมตีเข้ามายึดเมือง จนทำให้เมืองล่มสลายไป
ดิฉันในฐานะประชาชนคนไทยรู้สึกอยากให้ทุกคน ทุกฝ่าย ที่มีความขัดแย้งกันอยู่ในสังคมไทยขณะนี้ได้ชม ผู้ชนะสิบทิศ และนำข้อคิดเหล่านี้มาใช้ ทางฟากของผู้นำและรัฐบาล ก็ควรมีความเข้มแข็ง จริงใจ และนึกถึงผลประโยชน์ของประชาชนและประเทศชาติเป็นหลัก มิใช่ทำเพื่อประโยชน์ของพวกพ้อง ที่สำคัญผู้นำต้องมีความเข้มแข็ง เด็ดเดี่ยว และจริงใจ ที่จะทำเพื่อส่วนรวม
ทางฟากฝ่ายตรงข้าม ก็ควรตระหนักถึงความรัก ความสามัคคี ความปรองดอง ถ้าเรามัวแต่จะเอาชนะกัน สร้างศึกขึ้นในบ้านของเรา วันหนึ่งสังคมไทยก็คงจะล่มสลาย เหลือเพียงบาดแผลที่ฝังลึกอยู่ในจิตใจคนไทย และนั่นคือ ความพ่ายแพ้ของคนทั้งประเทศด้วย
ดิฉันขอชื่นชมช่อง 8 ที่ตัดสินใจหยิบเอาบทประพันธ์ของ "ยาขอบ" ขึ้นมาปัดฝุ่น ให้เด็กรุ่นใหม่ได้ศึกษา ถึงแม้ว่าเรื่องราวทั้งหมดจะเป็นประวัติศาสตร์พงศาวดารพม่า แต่สิ่งหนึ่งที่ทุกประเทศมีเหมือนกันคือ ความเป็น "ผู้นำ" ที่พร้อมจะปกป้องประเทศเพื่อความสงบสุขของประชาชน และประชาชน ที่มีความรักความสามัคคี อยากให้สังคมไทยเป็นแบบนั้นจังคะ
ด้วยความเคารพอย่างสูง
ชนัญญา ศรีประภาส