
มองผ่านเลนส์คม - สิ้นแล้ว ครูแจ้ง ช่างขับคำหอม
นับเป็นการสูญเสียบุคคลผู้เป็นสัญลักษณ์ของเสภาไทย และบรมครูขับกรับของไทยอย่างน่าเสียดายยิ่ง
หลังจาก ครูแจ้ง คล้ายสีทอง ศิลปินแห่งชาติ (คีตศิลป์) ป่วยหนักด้วยอาการเส้นโลหิตสมองตีบ และเบาหวานน้ำตาลขึ้นเกือบห้าร้อย พักรักษาตัวอยู่นาน กระทั่งช่วงสายของวันที่ 16 มิถุนายน ครูได้จากไป ด้วยโรคเส้นเลือดหัวใจตีบเฉียบพลัน ขณะทำกายภาพบำบัดจากการเป็นอัมพฤกษ์ ที่โรงพยาบาลศิริราช
ตั้งแต่วัยหนุ่มจนถึงปีที่ 74 ของชีวิต ครูแจ้งทำให้คนไทยรุ่นลูกรุ่นหลาน รู้จักการ "ขับเสภาพร้อมขยับกรับ" อย่างแพร่หลาย โดยได้มวลมิตรอย่างค่ายศิลวัฒนธรรมเป็นผู้เผยแพร่คีตศิลป์อันงดงามนี้ ไม่ว่าจะในรูปการแสดง หรือบันทึกผ่านแผ่นซีดี รวมทั้งเชิญไปเป็นวิทยากรแก้สถาบันต่างๆ
สุจิตต์ วงษ์เทศ มิ่งมิตรอีกคน ยกย่องว่าครูแจ้งเป็นช่างขับเสภาหนึ่งเดียวในแผ่นดิน พร้อมขนานนามให้ว่า "ช่างขับคำหอม" ซึ่งหมายถึงร้องเพลงไทยเดิม และขับเสภาได้ไพเราะเสนาะหู แบบไร้เทียมทาน
หากเป็นรุ่นเล็กมาหน่อย ก็ตั้งตามประสาสนุกแต่โดนใจว่า "เสียงดี ตีกรับอร่อย"
สิ้นครูแจ้งแล้ว น่าคิด ว่าใครจะเข้ามาสืบสานงานศิลป์นี้ต่อ
เท่าที่ศึกษาดู เห็นชัดว่าครูทางด้านนี้มีน้อยมาก หากเรียงตามลำดับอายุและผลงานคงได้คร่าวๆ ดังนี้
นับจากรุ่นของครูเหนี่ยว ดุริยพันธุ์ (เสียชีวิตแล้ว) ก็มารุ่นของ "ครูหริ" ศิริ วิชเวช (เพิ่งได้รับรางวัลศิลปินแห่งชาติคนล่าสุด) ก็มาถึงรุ่น ครูแจ้ง คล้ายสีทอง ถัดจากนั้นก็เป็นรุ่น ครูนฤพนธ์ ดุริยพันธุ์ (ลูกชายครูเหนี่ยว เป็นน้องชายดวงเนตร ดุริยพันธุ์ แม่ของณรงฤทธิ์ โตสง่า หรือขุนอิน)
การขับเสภาพร้อมขยับกรับด้วย ถือเป็นศาสตร์ที่ยากมาก ซึ่งกว่าจะได้รับการยอมรับในวงการไม่ใช่เรื่องง่ายเลย
ว่ากันว่าวงการนี้ เหมือนขึ้นมาตามขนบ
ถัดจากนี้ คงต้องจับตาดูรุ่นลูกศิษย์ลูกหาของแต่ละสาย ว่าใครจะขึ้นมาต่อยอดได้บ้าง
แต่คงยากที่จะหาเสียงขับที่มีเสน่ห์ และแพรวพราวในการขยับกรับอย่างครูแจ้ง ได้
ในด้านส่วนตัว ก็ได้ยินเสียงบอกเล่าจากคนที่รู้จักครูแจ้งว่า แกเป็นคนที่มีความรับผิดชอบสูง ครั้งหนึ่งเคยถูกเชิญไปงาน ปรากฏว่าทั้งงานไม่มีศิลปินมาเลย นอกจากแก แกจึงร้องและขยับกรับคนเดียวจนจบงาน โดยไม่บ่นสักคำ
ด้านความเป็นครู และนักอนุรักษ์ศิลปวัฒนธรรมไทย ครูแจ้งก็มีอยู่เต็มเปี่ยม อย่างที่ ศักดิ์สิริ มีสมสืบ กวีซีไรต์ เคยเล่าว่า ได้ร่วมเวทีในงานหนึ่ง ความที่ศักดิ์สิริ เป็นคนชอบเล่นคำ และใช้ภาษาสวิงสวาย จึงเอื้อยลูกคอขับเสภาเรื่องผู้หญิงถูกข่มขืน พร้อมกับเอาก้อนหินที่หยิบจากข้างทางมาขยับกรับเป็นทำนอง
ปรากฏว่าครูแจ้งเตือนในฐานะครูไปว่า "อย่าเอาของสูงมาเล่น"
ถ้อยคำของ "ผู้ใหญ่" ที่ตักเตือนทำให้ศักดิ์สิริ น้อมรับและระวังในศาสตร์และศิลป์ด้านนี้อย่างขึ้นใจ พร้อมกับยกย่องว่า "ครูแจ้งมีธาตฺศิลปินจริงๆ"
สำหรับผู้ที่ต้องการเคารพศพ และร่วมไว้อาลัยครูแจ้ง ร่วมไว้ทุกข์ได้ที่วัดป่าเลไลย์ จ.สุพรรณบุรี หรือสอบถามรายละเอียดที่ป้าบุญนะ ภรรยาครูแจ้ง โทร.08-1299-6638, 08-3032-8302
"นันทพร ไวศยะสุวรรณ์"