บันเทิง

'วงนั่งเล่น กลุ่มดนตรี คีตกวีผู้สร้างสรรค์'

'วงนั่งเล่น กลุ่มดนตรี คีตกวีผู้สร้างสรรค์'

21 พ.ย. 2556

'วงนั่งเล่น กลุ่มดนตรี คีตกวีผู้สร้างสรรค์' : คอลัมน์ เพลงไทยที่ต้องฟังก่อนตาย โดย... โชคชัย เจี่ยเจริญ [email protected]



    
          เมื่อสองปีก่อนคอลัมน์นี้เคยพูดถึง กลุ่มดนตรี ที่ชื่อ นั่งเล่น ไปแล้วครั้งหนึ่ง ซึ่งเน้นไปในเรื่องผลงานที่ผ่านมาของสมาชิกแต่ละคน ซึ่งมีมากมายดังที่บอกไป และได้พูดถึงเพลงที่พวกเค้าประพันธ์ขึ้นมาใหม่ ในนามกลุ่มดนตรีกลุ่มนี้ ซึ่ง ณ ขณะนั้น (2554) มีประมาณ 7 เพลงที่บันทึกเสียง และนำเสนอกับสาธารณะ โดยไม่ได้มีผลิตและจำหน่ายอย่างเป็นกิจจะลักษณะ ผู้ฟังที่ได้ฟังในการแสดงสด ของ วงนั่งเล่น ตามสถานที่ต่าง ๆ คงพอจะได้มีโอกาสฟังเพลงและได้รับ ซีดี เก็บไว้ฟังบ้างแล้ว
    
          เป็นเวลาหลายปีที่รวมกลุ่มกันทำงานมาอย่างต่อเนื่องหลายปี และสร้างงานใหม่ ๆ อย่างต่อเนื่องจนถึงวันนี้เพลงมากขึ้นหลายเพลง ทางวงให้คำนิยามว่าเพลงของตนเอง เป็นเพลง “เพ่งชีวิต” เพราะเชื่อว่าดนตรีสามารถกล่อมเกลาชีวิต และจิตใจ ดนตรีสามารถดึงผู้คนให้ห่างไกลจากปัญหา นอกจากนั้น ดนตรียังเป็นภาษาสากลที่เข้าถึงคนทุกกลุ่ม ไม่ว่าจะมีความแตกต่างกันอย่างไรก็ตาม สามารถรวมใจกันเป็นหนึ่งได้ด้วยเสียงดนตรี
    
          สมาชิกทั้ง 9 คนประกอบไปด้วย ตุ่น-พนเทพ  สุวรรณะบุณย์ (Nylon guitar), เป๋า-กมลศักดิ์ สุนทานนท์ (Lead vocal), พงศ์-อิศรพงศ์ ชุมสาย ณ อยุธยา(Keyboard), ป้อม-เกริกศักดิ์ ยุวะหงษ์ (Vocal, Drum percussion), แตน-เศกสิทธิ์ ฟูเกียรติสุทธิ์(Piano & Acoustic Guitar), ตู๋-ปิติ ลิ้มเจริญ (Acoustic guitar), ตุ๋ย-พรเทพ  สุวรรณะบุณย์ (Drum), โอ-ศราวุธ ฤทธิ์นันท์(Bass), เทอดไทย ทองนาค (Electric Guitar)
    
          วันเสาร์ที่ 17 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา ศิลปินกลุ่มนี้จัดงานคอนเสิร์ตการกุศล เพื่อมอบให้กับคลองเตยมิวสิคโปรแกรม (Playing for change thailand) ชื่อ The Makers Concert โดยวงนั่งเล่น ตอน ดอกไม้ในที่ลับตา รายได้ทั้งหมดไม่หักค่าใช้จ่าย นำไปซื้อเครื่องดนตรีมอบให้กับน้องๆ ชุมชนคลองเตย โดยการสนับสนุนของ กลุ่มวังขนาย ผู้ผลิตน้ำตาล วังขนาย น้ำตาลที่ไม่เหมือนใคร
    
          เพลง ดอกไม้ในที่ลับตา จึงเป็นคอนเซ็ปหลักในการนำเสนอคอนเสิร์ตในครั้งนี้ รูปแบบเวทีเรียบง่าย มีภาพกราฟิคน่ารักๆ ขึ้นเป็นระยะ อบอุ่นด้วยศิลปินรุ่นน้องรุ่นพี่ที่สนิทชิดเชื้อและเคารพศรัทธาในผลมาช่วยงานด้วยความเต็มใจ และร้องเพลง เล่นดนตรี ด้วยหัวใจที่เต็มเปี่ยม จึงทำให้ผู้ฟังได้แรงบันดาลใจจากเนื้อหาเพลงและเห็นถึงตัวอย่างที่ดีของคนดนตรี ที่นอกเหนือจากเนื้อหาเพลง วิธีคิด วิธีทำงาน การทดลองแนวทางอะไรใหม่ๆ ในการนำเสนอต่อผู้ฟัง และยังเป็นกลุ่มดนตรีที่พร้อมจะเป็นผู้ให้ทั้งผู้ฟังและกับสังคมอีกด้วย
    
          เดอะ เมกเกอร์ คอนเสิร์ต แบ่งการแสดงเป็น 4 องค์ ประกอบไปด้วย
    
          องค์ที่ 1 The Maker song to remember ผลงานเพลงที่ได้รับความนิยมในอดีตของสมาชิกวง ซึ่งแต่งเพลงรวมกันผ่านมาแล้วมีเกือบหนึ่งพันเพลง สำหรับงานนี้จึงถือได้ว่าเลือกเพลงมาเพียงแค่ 1 เปอร์เซ็นต์เท่านั้น เพราะหากจะเล่นเพลงที่ทุกคนแต่งผ่านมาแล้วทั้งหมดรวมกัน อาจต้องใช้เวลาเล่นและฟังเกือบสัปดาห์โดยไม่มีการหยุดพัก หากเป็นเช่นนั้นจริง นอกจากจะนั่งเล่น ยืนเล่นแล้ว เผลอๆ อาจต้องนอนเล่น นอนฟังกันแน่ๆ
    
          ศิลปินรับเชิญ ที่มาร่วมร้องเพลงในองค์นี้ เริ่มตั้งแต่เพลงเก่าที่สุดประมาณปี พ.ศ. 2528 คือ พี่ปั่น ไพบูลเกียรติ เขียวแก้ว กับเพลง รักนิรันด์, เพลง รับได้ใหม โดย จิรศักดิ์ ปานพุ่ม, เพลง ชีวิตลิขิตเอง ร้องโดย จีน กษิดิศ, เพลง แจกัน โดย สุเมธ แอน เดอะปั๋ง, เพลง ทั้งรู้ก็รัก โดยชรัส เฟื่องอารมณ์, เพลง คนไม่มีวาสนา โดยชรัส เฟื่องอารมณ์, เพลง รักล้นใจ โดย ไพบูลเกียรติ เขียวแก้ว, เพลง ดาวประดับฟ้า  โดย จิรศักดิ์ ปานพุ่ม, ปาฎิหารย์ โดย สุเมธ แอน เดอะปั๋ง, เพลง เพียงแค่ใจเรารักกัน ร้องโดย จีน กษิดิศ, แค่ชื่อเพลงต่าง ๆ ก็คงพอรับประกันได้แล้วว่าเป็นคอนเสิร์ตเพลงฮิต เพลงเพราะที่สุดคอนเสิร์ตนึง ที่พิเศษคือ เป็นคอนเสิร์ตของคนแประพันธ์เพลง โดยมีนักร้องเจ้าของเสียงร้องมาร้องอย่างพร้อมเพรียงกัน นับเป็นช่วงเมดเล่ย์ที่เล่นต่อเนื่องที่กลมกลืน นับเป็นการเปิดโชว์ที่ให้ผู้ชมได้รับความสุนทรีย์มากที่สุด จนอดตื้นตันใจกับผลงานที่ผ่านกระบวนการทางความคิด และงานดีๆ จาก ฝีมือและมันสมองของพี่ ๆ กลุ่มนี้
    
          องค์ที่ 2 The Real Maker นี่คือช่วงเวลาในการสร้างงานใหม่ในระยะสามสี่ปีมานี้ ของวงนั่งเล่นเริ่มองค์นี้ด้วยเพลง รักคนขี้ลืม ท่วงทำนองน่ารักแบบไทย ๆ มีนักดนตรีจากอุบลราชธานีมาร่วมเป่าแคนในเพลงนี้ด้วย เนื้อหาเพลง สะกิดสะเกาเล็ก ๆ กับเรื่องราวขอนักการเมืองขี้ลืมบ้านเรา สะกิดแบบมีชั้นเชิง พอยิ้มได้ทั้งคนฟังและนักการเมือง ต่อด้วยเพลง ใจคน, เพลง สิ่งที่เป็นกับสิ่งที่เห็น, ความสุขไม่ใช่นก พูดถึงความสุข ที่มีแล้วก็หายไป ซื้อก็ไม่มีขาย ไม่ยั่งยืน ผ่านมา ผ่านไป ความสุขคนเรา กักขังไม่ได้เหมือนนก แม้มันจะไม่มีปีกก็ตาม, เพลงรักของวงนั่งเล่น, เพลง Happy Birthday, ไม่ทุ่ม ไม่เท ไม่นำเสนอเมื่อ ปลายปีที่แล้ว เพลงที่ฟังแล้ว เตือนสติเราได้ดีทีเดียวในเรื่องการใช้ชีวิตและการทำงาน ที่เรากันอยู่ทุกวัน คงเหมือนกันการทำหน้าที่ของตัวให้ดีที่สุดนั่นเอง จะได้ไม่ต้องกลับมานั่งเสียใจภายหลัง ต่อด้วยเพลง อกหัก ให้มันเท่ๆ หน่อย และแน่นอนเพลงแรกที่หลายคนรู้จักวงนี้คือเพลง สายลม
    
          องค์ที่ 3 The New Maker ได้กลุ่มนักดนตรี นักร้อง รุ่นกลาง รุ่นใหม่ มาร่วมงานกับคับคั่ง ทั้ง 25 Hours, Super Baker, ตุล อพาร์ทเม้นท์คุณป้า, Sqweez Animal, ลานนา คัมมินส์, ธีรไชยเดช, สินเจริญ บราเธอรส์ ให้คนดูได้สนุกสนาน และเป็นสีสันดนตรีอีกแบบที่สลับสับเปลี่ยนบรรยากาศได้ดีจริงเชียวทุกเพลงที่ร้องในช่วงนี้เป็นผลงานของ วงนั่งเล่น
    
          องค์ที่ 4 The Silent Maker กลุ่มใหญ่สุด เป็นน้อง ๆ ที่มาจากโครงการ Playing for change Thailand นำทีมโดย เจี๊ยบ วรรธนา มาร้องเพลงสามสี่เพลงร่วมกับวงนั่งเล่น ได้บรรยากาศที่น่ารัก อบอุ่น ก่อนจะปิดท้ายด้วย เพลง ดอกไม้ในที่ลับตา ที่ศิลปินทั้งหมดขึ้นร่วมร้องบนเวทีอีกครั้ง เป็นภาพใหญ่ปิดงาน ที่สวยงาม
    
          ผู้ชมของวงเล่นมีหลากหลาย อาจกรี๊ดไม่ดังสนั่น อาจเต็มไม่มันระเบิด แต่ผมเชื่อว่าพวกเค้าเป็นนักฟังโดยแท้จริง ขนาดคอนเสิร์ตจบแล้ว ยังไม่ยอมกลับ อยากให้วงนั่งเล่น ร้องเพลงให้เรานั่งฟังอยู่อย่างนั้น จนต้องอังกอด้วยเพลง รักนิรันดร์ ที่ พี่ปั่น ไพบูลเกีรยติ และ สินเจริญร่วมกันร้องปิดท้าย ของปิดท้ายอีกที
    
          อบอุ่น น่ารัก สบายใจ มีความสุข ชื่นชม และที่สำคัญผมได้แรงบันดาลใจกลับบ้านมาเต็มกระเป๋า ใครที่ยังไม่เคยฟังเพลง หรือชมการแสดงของวงนั่งเล่นเลย ผมอยากให้รีบไปหามาฟังหรือไปชมสด ๆ โดยด่วน เพราะนี่คือวงดนตรีที่คุณต้องรู้จักและฟังเพลงของพวกเค้าให้ได้ก่อนตาย ผมบอกเลย

          ขอเลือกเพลงโปรด ฟังก่อนตาย ดีกว่า

.......................................
(หมายเหตุ 'วงนั่งเล่น กลุ่มดนตรี คีตกวีผู้สร้างสรรค์' : คอลัมน์ เพลงไทยที่ต้องฟังก่อนตาย  โดย...  โชคชัย เจี่ยเจริญ [email protected]
www.facebook.com/chokchai.jeijaoren)