บันเทิง

'อลัน เทย์เลอร์'ผู้กำกับหนังThor: The Dark World

เกาะติดข่าวสาร >> คมชัดลึก ออนไลน์
logoline

บันเทิงต่างประเทศ : 'อลัน เทย์เลอร์' จากผู้กำกับละครโทรทัศน์สู่หนัง 'Thor: The Dark World'

 

                      อลัน เทย์เลอร์ ผู้กำกับเจ้าของรางวัลเอ็มมี อวอร์ด ผู้โด่งดังจากผลงานของเขาในซีรีส์เอชบีโอเรื่อง “game of thrones” ได้นำสไตล์และความชื่นชอบใน “ภาษาอีพิค” ของเขามาสู่ “thor: the dark world” ภาพยนตร์เรื่องใหม่จากมาร์เวล เทย์เลอร์ยอมรับว่าเขาตื่นเต้นกับโอกาสในการได้กำกับภาพยนตร์เรื่องนี้ เป็นการก้าวเข้าสู่ขอบเขตที่เขาไม่คุ้นชิน แต่การทำงานกับมาร์เวลกลับกลายเป็นประสบการณ์ที่ดีมากๆ สำหรับเขา และนี่คือคำสัมภาษณ์ที่เขากล่าวถึงภาพยนตร์เรื่องนี้

 

@ อะไรที่ทำให้คุณสนใจทำโปรเจ็กต์นี้

                      ตอนที่ผมถูกทาบทามให้มากำกับ marvel’s “thor: the dark world” ผมคิดว่าพวกเขาโทรหาคนผิด เพราะผมทำงานโทรทัศน์เป็นหลัก และผมไม่ได้เป็นคนที่คลั่งไคล้การ์ตูน ผมไม่ได้โตมากับการ์ตูน มันก็เลยทำให้ผมแตกต่างจากคนอื่นๆ ที่ผมร่วมงานด้วย แต่ผมชื่นชอบภาษาอีพิค ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมได้ทดลองด้วยใน “game of thrones” มันก็เลยเป็นเรื่องน่าสนใจที่ผมจะได้กำกับเรื่องนี้ เพราะทีมนักแสดงที่ เคนเนธ บรานาห์ รวบรวมมาในธอร์ เป็นทีมนักแสดงในฝัน ผมชื่นชอบการที่เท้าข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนโลกแห่งความเป็นจริงและอีกข้างหนึ่งเหยียบอยู่บนโลกแฟนตาซี สิ่งต่างๆ ทั้งหมดนั้นได้มารวมกันในหนังเรื่องนี้ ธอร์เป็นซูเปอร์ฮีโรที่ไม่เหมือนใครเพราะเขามีเรื่องราวเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ และมีตำนานสนับสนุนสถานะที่น่าตื่นเต้น

 

@ ช่วยพูดถึงสิ่งที่คริส เฮมส์เวิร์ธนำมาสู่บทของธอร์หน่อย

                      คริส เฮมส์เวิร์ธ เกิดมาเพื่อเล่นบทนี้ มีคนพูดแบบนี้มากมาย แต่ผมไม่เคยรับรู้เลยว่ามันเป็นเรื่องจริง การเป็นชายหนุ่มที่ต้องมาแบกรับความเป็นเทพเจ้าเป็นความท้าทายจริงๆ นอกเหนือจากคริสจะมีรูปร่างหน้าตาที่เพอร์เฟ็กต์แล้ว เขายังมีเสียงที่ทรงอำนาจด้วย เขามีเสียงที่น่าทึ่งที่ทำให้คุณสามารถเชื่อได้จริงๆ ว่าชายหนุ่มผู้นี้มีสถานะบางอย่างที่เหนือกว่าความเป็นมนุษย์ทั่วๆ ไป ผมเองก็อึ้งกับการแสดงของเขาเหมือนกัน เขาไม่ได้มีดีแค่หน้าตาเท่านั้น

 

@ คุณโฟกัสไปที่ตอนใดตอนหนึ่งจากหนังสือการ์ตูนหรือเปล่า

                      ตอนที่ผมเข้าไปหามาร์เวลและได้ทำความรู้จักกับทีมงานทุกคน พวกเขาก็นำเอกสารข้อมูลเกี่ยวกับธอร์ตั้งใหม่ๆ มาวางไว้บนโต๊ะผม ผมเริ่มอ่านข้อมูลพวกนั้น ภาพของธอร์ในการ์ตูนช่วงหลังๆ เป็นภาพที่ดึงดูดใจที่สุดสำหรับผม ในตอนท้ายๆ เรื่องราวในการ์ตูนเริ่มพัฒนามันให้ความรู้สึกเหมือนเป็นตำนาน และมีรากฐานที่หนักแน่นในเรื่องของเทพปกรณัมนอร์ส การพยายามรักษาสมดุลเป็นหนึ่งในความท้าทายที่หนังเรื่อง thor ทุกภาคต้องเผชิญ สิ่งหนึ่งที่ท้าทายคือการสร้างสร้างดินแดนและเผ่าพันธ์ต่างๆ ให้มีชีวิต การมีโอกาสได้สร้างทั้งแอสการ์ด วานาเฮมและสวาร์ทัลฟ์เฮมก็เลยเป็นเรื่องที่ยอดเยี่ยม ชื่อของดินแดนพวกนั้นเรียกได้ลำบากก็จริง แต่การพยายามเนรมิตมันให้กลายเป็นจริงเป็นเรื่องที่วิเศษสุด

 

@ ช่วยพูดถึง คริสโตเฟอร์ เอคเคิลสตัน ในบท มาเลคิธ หน่อย

                      ผู้ร้ายหลักของเราในภาคนี้คือ มาเลคิธ ที่รับบทโดย คริสโตเฟอร์ เอคเคิลสตัน ธอร์ไม่เพียงแต่เป็นซูเปอร์ฮีโรเท่านั้น แต่เขายังมีเรื่องราวเบื้องหลังที่ยิ่งใหญ่ด้วย เราก็เลยต้องการผู้ร้ายที่มีสเกลที่ยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน ดังนั้น เรื่องราวเบื้องหลังของมาเลคิธก็เลยมีมาอย่างน้อยก็ตั้งแต่เมื่อ 5,000 ปีที่แล้ว เขาและคนของเขาหายไปจากสารบบ 5,000 ปี และตอนนี้พวกเขาก็กลับมาอีกครั้งเพื่อแก้ไขความผิดพลาดตามความคิดของพวกเขา พวกเขามีความแค้นเป็นแรงขับเคลื่อน แต่มาเลคิธเป็นคนที่มีเกียรติและเขาก็มุ่งมั่นอยู่กับเป้าหมายของเขาเหนือสิ่งอื่นใด เขาเสียสละได้ทุกอย่างเพื่อบรรลุเป้าหมาย และสิ่งที่เขาต้องการก็คือจักรวาลใบนี้ เขาเป็นพวกที่ชอบความเด็ดขาด ถ้าไม่แพ้ก็ต้องชนะ และมาเลคิธก็โน้มเอียงไปทางชัยชนะเด็ดขาด

 

@ ประสบการณ์การร่วมงานกับมาร์เวลในหนังที่มีสโคปและสเกลยิ่งใหญ่ขนาดนี้เป็นอย่างไรบ้าง

                      ตอนที่ผมเข้ามา ผมคิดว่าเอฟเฟ็กต์จะเป็นเรื่องที่เหนื่อยและมากเกินไป แต่ประสบการณ์กับมาร์เวลไม่ได้เป็นแบบที่ผมคาดคิดเลย มาร์เวลไม่เหมือนที่อื่น ในตอนที่คุณตัดสินใจ คุณจะตัดสินใจร่วมกับทีมผู้สร้าง ที่ตื่นเต้นกับตัวละครและโลกในหนังจริงๆ ดังนั้น มันก็เลยให้ความรู้สึกเหมือนเป็นกระบวนการสร้างสรรค์ที่กระชับมากๆ ... ภาพยนตร์เรื่องนี้จะเข้าฉาย 7 พฤศจิกายนนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น

 

 

 

 

 

logoline

ข่าวที่น่าสนใจ