
คมเคียวคมปากกา-เพื่อน เพลง ความรัก
ชีวิตแต่ละวันผ่านไป เสียงเพลงเป็นส่วนหนึ่งของชีวิต นอกเหนือจากการกินอยู่ทำงานตามหน้าที่ แล้วเราก็ฟังเพลง ฟังในระหว่างทำงาน ฟังในระหว่างขับรถ
ฟังในยามนั่งพักผ่อนสบายๆ มีเพลงหลากหลายให้เราเลือกฟัง เพลงสมัยใหม่ เพลงในอดีต เพลงชีวิต เพลงลูกทุ่ง ลูกกรุง สตริง ลูกทุ่งเพื่อชีวิต เพลงสากล เพลงแร็พ เรกเก้ เพลงร็อก เพลงยุคซิกตี้ เพลงซิมโฟนีออเคสตรา ฯลฯ ฟังเพลงหลากหลายคือกำไรชีวิต
เราสามารถฟังเพลง สาวสวนแตง ของ สุรพล สมบัติเจริญ แล้วหยิบแผ่นเพลงคลาสสิก หรือเรียกแบบคมเคียวคมปากกา ว่า เพลงฝรั่งเดิม (คล้ายๆ เพลงไทยเดิม) เปิดฟัง มูนไลท์โซนาต้า ของ โมสาร์ท นั้นย่อมไม่ผิดรัฐธรรมนูญข้อใด (เมืองไทยแก่เน้นเรื่องผิดรัฐธรรมนูญ ทั้งที่ก็เปลี่ยนไปเปลี่ยนมาบ้าบอ)
หรือจะเปิดฟังเพลง ตั๊กแตน ชลดา แล้วไปเปิดฟังด่วนพิศวาส ของผ่องศรี วรนุช ก็ไม่ผิดรัฐธรรมนูญอีกเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นฉบับ พ.ศ. 2540 หรือ 2550
สำหรับผมแล้ว การนั่งฟังเพลงอยู่คนเดียวลำพังใต้ซุ้มไผ่ชายเขา เป็นโลกส่วนตัวที่สุดแสนอิสระ เท่านี้ก็พอแล้วสำหรับวันนี้ จะดิ้นรนอะไรมากมาย มีสุขภาพดี มีเพลงฟัง ไม่อยากยุ่งกับใคร ไม่ชอบวุ่นวาย แล้วอีกวันก็ผ่านไป
เพื่อน สำหรับประเด็นเรื่องเพื่อน คนเราไม่จำเป็นต้องมีเพื่อนมากมายอะไร เพียงแต่มีเพื่อนคบหาจริงใจไม่กี่คนก็พอแล้ว
อยู่กับเพื่อน คุยกันฉันเพื่อน แน่ละว่าเพื่อนต้องคุยกันได้ทุกเรื่อง เรื่องดีเลวหยาบละเอียด และรู้ว่าสิ่งใดควรไม่ควรจะเก็บไว้หรือเผยแพร่ต่อ ต้องสามารถคิดแทนเพื่อน อยู่กับเพื่อนคุ้นเคย อยู่กันได้สองวันสามคืน ไม่เบื่อไม่ขัดแย้ง เพื่อนพูดเรื่องใดไม่ถูกใจ เราก็เฉยเสีย ถือว่าให้เพื่อน และเราก็สามารถพูดไม่ถูกใจเพื่อนได้ เพื่อนด่ากลับได้ แต่โดยทั่วไปต้องรู้ใจกันอยู่แล้ว
มีเพื่อนแล้วไม่มีเพลงก็ได้ มีเพลงแล้วไม่มีเพื่อนก็ได้ บางทีมีทั้งเพื่อนและเพลงก็ได้ ชีวิตไม่ใช่เรื่องยากเย็น ยกเว้นจะไปติดกรงขังความคิดตัวเอง ว่าชีวิตต้องอย่างนั้น อย่างนี้ ปลดปล่อยตัวเองเป็นอิสระดีกว่า
อยู่กับเพื่อนพอได้ที่ย่อมไม่อยากให้ใครรบกวน นึกถึงสมัยเด็กที่เรากำลังเล่นกับเพื่อน เช่น เล่นฟุตบอล เล่นล้อต๊อก ทอยกอง ฯลฯ แล้วโดนผู้ใหญ่เรียกกลับบ้าน (ด้วยความปรารถนาดี เช่นเรียกกินข้าว) พอโตขึ้น คนที่จะเรียกฉุดเราจากเพื่อนคือ ผู้หญิงที่มาอยู่ในตำแหน่งพิเศษ และไม่ว่าใครตำแหน่งไหน เราก็ไม่อยากให้ใครรบกวน ในวัยเด็ก เรายากขัดขืน แต่เมื่อโตขึ้น เราควรมีเสรีภาพที่จะอยู่กับเพื่อน
ความรัก สิ่งที่เรียกว่าความรัก เอาเข้าจริงเป็นเรื่องประณีต ละเอียดอ่อน ความเหงา ความปรารถนาทางเพศตามธรรมชาติ เป็นส่วนหนึ่งของความรัก มิใช่ทั้งหมด "มีรักแล้วไม่คลาดแคล้วต้องตรมฤทัย เหมือนแบกโลกทั้งโลกไว้ให้โศกหนัก ไม่อยากให้โลกนี้มีความรัก ใจฉันสมัครแบกรักไว้ไม่หนักเลย" เพลงร้องว่าอย่างนั้น
มีรักแล้วไม่ต้องการอย่างอื่นเลยก็อยู่ได้ (มั้ง) แต่ทางที่ดี มีรัก มีเพื่อน มีเพลง มีโลก มีสังคมเศรษฐกิจการเมือง มีเพื่อนมนุษย์ มีเพื่อนหมาแมว มีต้นหมากรากไม้ มีอะไรต่ออะไรย่อมดีกว่ามีแต่ความรักโล้นๆ เพราะวันหนึ่งอาจจะเลี่ยนเอียนเบื่อ มีหลายหลากส่วนประกอบ เพียงจัดระเบียบไม่ให้สับสน ชีวิตน่าจะสมบูรณ์กว่ามีแต่อย่างหนึ่งอย่างใดอย่างเดียว
วัฒน์ วรรลยางกูร