บันเทิง

เปิดตัวตน'ออม-สุชาร์'สู่โลกมายาที่ลิขิตเอง

เปิดตัวตน'ออม-สุชาร์'สู่โลกมายาที่ลิขิตเอง

21 ก.ย. 2556

เปิดตัวตน "ออม-สุชาร์" สู่โลกมายาที่ลิขิตเอง : บันเทิงวันเสาร์ เรื่อง... ดวงใจ สอาดจิตต์ - มงคล บุญคุ้ม ภาพ... แมน น้อยพิทักษ์



    
          เป็นอีกหนึ่งนางเอกสาวที่มีผลงานการแสดงหลากหลายทั้งงานภาพยนตร์และงานการแสดง สำหรับ "ออม-สุชาร์ มานะยิ่ง" ที่ตอนนี้เรียกว่าเธอคนนี้คือขวัญใจของหนุ่มๆ หลายๆ คน ล่าสุดสาวออมกำลังมีผลงานใหม่กับภาพยนตร์ "นมัสเต จ๊ะเอ๋ บ๊ายบาย" วันนี้ "บันเทิง คมชัดลึก" และรายการ "ซุปตาร์ในดวงใจ" ช่อง "คมชัดลึก ทีวี" จะพาทุกคนไปทำความรู้จักเป็นอย่างดีกับสาวคนนี้  
    

*** งานชิ้นใหม่
@@ บทบาทในภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นอย่างไร

          บทของออมในภาพยนตร์เรื่องนี้ ออมจะเป็นครีเอทีฟโฆษณาที่ประสบความสำเร็จในหน้าที่การงาน แต่มาวันหนึ่งก็จะมีเด็กรุ่นใหม่ที่เข้ามาแทน แต่ตัวออมยังคงมีทิฐิ ที่เป็นคนจมไม่ลง และมีนิสัยเป็นคนอารมณ์ฉุนเฉียว ชอบเหวี่ยง และมีวันหนึ่งได้เจอรุ่นพี่คนหนึ่งซึ่งรับบทโดย พี่นาย (สรัสวดี วงศ์สมเพ็ชร) ซึ่งเป็นผู้กำกับของเรื่องนี้ ชักชวนไปอินเดีย ซึ่งช่วงนั้นเราเพิ่งโดนพักงานอยู่เลยตัดสินใจไปด้วย ตอนแรกก็คิดในใจว่าจะไปถ่ายรูปที่เที่ยวที่นั่น แต่ปรากฏว่าทริปนี้เป็นทริปที่มีแม่ชีน้อยเดินทางไปแสวงบุญที่อินเดีย ซึ่งออมในเรื่องก็จับพลัดจับผลูไปกับทริปแสวงบุญแบบไม่ตั้งใจ พูดง่ายๆ เหมือนโดนหลอกไป (หัวเราะ) ทำให้เกิดเป็นเรื่องราวของเรื่องนี้ขึ้นมา


@@ บรรยากาศในการถ่ายทำเป็นอย่างไรบ้างที่ประเทศอินเดีย
          ทีมงานเราได้เตรียมตัวกันค่อนข้างเยอะเพราะได้รับคำบอกเล่าจากคนที่เคยไปทำงานว่าค่อนข้างจะลำบากนะ แต่พอเราได้ไปพิสูจน์จริงๆ ก็ไม่ค่อยเท่าไหร่ จะมีแค่เรื่องสภาพอากาศเท่านั้น เพราะมันร้อนมาก และอีกอย่างพอเราเดินทางไปที่นั่น ออมต้องดูแลตัวเอง เพราะด้วยความที่ทางกองถ่ายมีทีมงานน้อย ตรงนี้ออมเองก็เข้าใจ เพราะการที่ได้มาทำงานที่อินเดียพร้อมๆ กับพาคุณพ่อคุณแม่ไปด้วย ซึ่งออมรู้สึกอบอุ่น และแถมการทำงานครั้งนี้ยังได้บุญอีกด้วย   


@@ เหตุผลที่จะต้องไปชมภาพยนตร์เรื่องนี้ให้ได้คืออะไร
          ออมคิดว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ให้อะไรกับคนดูมากกว่าภาพยนตร์เรื่องหนึ่งที่ฉายในโรงเฉยๆ นะ เพราะนอกเหนือจากความสนุกสนาน ออมคิดว่าคนดูจะต้องได้ข้อคิดเกี่ยวกับหลักธรรมทางพุทธศาสนาไปเยอะมาก เพราะออมอยากให้คนดูได้เห็นถึงจุดกำเนิดของศาสนาพุทธที่พุทธศาสนิกชนควรจะได้รับรู้ ในเรื่องนี้ก็จะมีเรื่องราวเกี่ยวกับมิตรภาพที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศทุกวัยและทุกๆ สถานะจริงๆ ออมอยากฝากภาพยนตร์เรื่องนี้ "นมัสเต จ๊ะเอ๋ บ๊ายบาย" ฉายแล้วที่โรงภาพยนตร์ในเครือเมเจอร์
    

*** รีเทิร์นซีรีส์ดัง
@@ มาถามถึงละครซีรีส์เรื่อง "Full House วุ่นนักรักเต็มบ้าน" การถ่ายทำตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง

          การถ่ายทำเรียกว่าสนุกมากๆ และล่าสุดเพิ่งกลับมาจากประเทศเกาหลี ซึ่งเราไปถ่ายทำกันที่นั่นประมาณ 20 กว่าวัน เพราะซีรีส์เรื่องนี้มันมีความยาวประมาณ 18 ตอน ซึ่งถือว่ายาวพอสมควร ตอนนี้เราก็ถ่ายทำกันมาหลายเดือน ฟูลเฮ้าส์เป็นซีรีส์เกาหลีที่เราไปซื้อลิขสิทธิ์มาทำใหม่ให้มีความสนุกนานความน่ารักแบบฉบับของไทย แต่จะยังคงกลิ่นอายของเก่าอยู่บ้าง เราเลยอยากจะให้มาลองเปิดใจชมในเวอร์ชั่นนี้ดูบ้าง


@@ การทำงานในกองละครซีรีส์เรื่องนี้สนุกสนานแค่ไหน
          มันมีทั้งความสนุกปนความเหนื่อยไปพร้อมกันนะ แต่สำหรับเรื่องนี้ได้เดินทางไปต่างประเทศด้วยที่เกาหลี ซึ่งการไปถ่ายทำกันที่ต่างประเทศมันเป็นอะไรที่คาดเดาไม่ได้อยู่แล้ว แต่พวกเราทีมงานทุกคนก็เต็มที่ไปกับมันมากๆ เวลาเราเล่นแต่ละฉากก็จะมีคนมาช่วยลุ้นช่วยเชียร์ตลอด แต่เวลาออมกลับมาก็จะได้แผลกลับมาทุกครั้ง ด้วยความที่พระเอกของเรื่องอย่างไมค์ (พิรัชต์ นิธิไพศาลกุล) ตัวเขาจะใหญ่กว่าออมมาก เวลาเล่นด้วยกันจะมีฉากต้องโยนออมออกจากบ้าน ซึ่งเราก็ต้องเล่นกันจริงๆ เลยต้องเจ็บตัวจริงๆ กันไป สำหรับออมโอเคนะ และไมค์คงโอเคมากด้วยเพราะเขาชอบแกล้งเราอยู่แล้ว


@@ได้ร่วมงานกับหนุ่มหล่ออย่าง "ไมค์-พิรัชต์" เป็นอย่างไรบ้าง
          ออมถือว่าเป็นความโชคดีของออมนะที่ได้เจอกับไมค์ เพราะเรื่องนี้มันต้องใช้การสนิทสนมกันพอสมควร ด้วยความที่ออมเคยร่วมงานกับไมค์ครั้งหนึ่งแล้วมันเลยทำให้เราดูสนิทสนมกันได้อย่างกลมกลืนมากขึ้น และการทำงานก็จะออกมาง่ายขึ้น อย่างเวลาซ้อมบทออมก็จะมานั่งทำการบ้านกันกับไมค์ ซึ่งเราก็ปรึกษากันตลอดว่าเราจะเล่นกันแบบไหน คือเราสามารถดีไซน์การแสดงของเราได้เองและก็ตอบโจทย์ผู้กำกับด้วย ซึ่งถือว่าเป็นเรื่องดีมากๆ
    

*** ย้อนสู่วันวาน    
@@ในวัยเด็กเป็นคนอย่างไร และถูกเลี้ยงดูมาแบบไหน

          ตอนเด็กๆ ออมเป็นเด็กที่ค่อนข้างดื้อนะ แล้วก็เป็นเด็กที่ไม่ค่อยชอบยิ้ม เวลาที่เราทำหน้านิ่งๆ คนอื่นเขาก็จะมองว่าเราเป็นคนเหวี่ยงๆ ซึ่งออมก็เข้าใจนะว่าเวลาออมไม่ยิ้มมันจะออกแนวกวนๆ คนอื่นจะไม่ค่อยกล้าคุยด้วยเลย ออมเคยย้อนไปดูรูปตอนเด็กๆ ก็สงสัยอยู่เหมือนกันว่าทำไมไม่ยิ้มเลย เวลาถ่ายรูปก็จะทำหน้ามึนๆ ใส่อะไรประมาณนี้ และตอนเด็กๆ ดื้อนะเวลาคุณแม่เรียกไปกินข้าวก็จะดื้อ ไม่ยอมกินข้าวออมถึงตัวเล็กแบบนี้ไง นอกจากนี้ยังเป็นเด็กขี้อายด้วย พอคุณครูจะให้ไปรำเราก็จะไม่ยอมเลย เพราะไม่กล้า ออมจะเป็นเด็กค่อนข้างเก็บเนื้อเก็บตัว ออกแนวเด็กเนิร์ดๆ หน่อย เพราะเราจะชอบแนวเขียนเรียงความประกวด วาดรูป คณิตคิดเร็ว ซะมากกว่า ซึ่งดูแล้วไม่น่าเชื่อเลยใช่มั้ย (หัวเราะ)


@@ความใฝ่ฝันของเด็กหญิงออม อยากเป็นอะไร
          จริงๆ ที่ผ่านมาออมไม่เคยบอกใครเลยนะว่าตอนเด็กๆ อยากทำหนังสือ อยากเขียนหนังสือแนวนิตยสาร อารมณ์อยากจะเป็น บก. อะไรแบบนั้นบ้าง ซึ่งด้วยความอยากทำหนูเลยลองรวมกลุ่มกับเพื่อนๆ ทำกันในโรงเรียนด้วย จนมาถึงตอนนี้ความฝันมันก็ยังคงอยู่เหมือนเดิมเพราะเราอยากทำจริงๆ แต่ด้วยความที่เรามาทำงานตรงนี้ เราก็จะเอาความที่เราชอบอ่านชอบเขียนมาใช้กับงานแสดงบ้าง อย่างเวลาที่ไม่เข้าใจในบทที่เราเล่น ก็จะไปหาหนังสือที่เกี่ยวกับบทนั้นๆ มาอ่านมาศึกษา เพื่อให้เข้าถึงตัวละครได้ง่ายขึ้น


@@ จบการศึกษามาทางด้านการแสดง และเห็นว่าอยากจะเรียนรู้ศาสตร์นี้ให้ลึกซึ้ง
          ตอนแรกที่ออมเรียนสาขานี้ ขอออกตัวก่อนเลยนะว่าหนูไม่ได้อยากเรียนเพราะว่าอยากจะเป็นดาราอะไรนะ แต่เป็นเพราะว่ารุ่นออมจะเป็นรุ่นที่มีการสอบแอดมิชชั่นส์เป็นรุ่นแรก ในหัวตอนนั้นออมคิดไม่ออกว่าเราจะเรียนอะไรดี มันเลยเป็นความกดดันในตอนนั้น และพอดีมีรุ่นพี่ชักชวนให้มาลองสอบตรงเข้าคณะที่ออมเรียน เพราะมันเป็นศาสตร์ของละครเวที เกี่ยวกับการแสดง ซึ่งมันเป็นศาสตร์ที่น่าสนใจ พอออมได้ลองอ่านได้ลองศึกษาหนังสือของวิชาเหล่านี้ดูเลยเริ่มชอบ แล้วบังเอิญสอบติดเลยลองเรียนดู แล้วทำให้เราชอบมันมากๆ ออมได้มีโอกาสทำหลายๆ อย่าง ได้เล่นละครเวที ได้ลองกำกับ และศึกษางานเบื้องหลังด้วย
    

*** ชีวิตบนเส้นทางบันเทิง  
@@ ผ่านงานในวงการบันเทิงมามากมาย งานด้านใดตอบโจทย์ตัวเองมากที่สุด

          สำหรับออมสิ่งที่ชอบจริงๆ น่าจะเป็นเรื่องการแสดง เล่น หนัง เล่นละครมากกว่า เพราะมันคือตัวออมมากที่สุด เพราะถ้างานด้านอื่นๆ ออมคิดว่ามันไม่ใช่ตัวออมเลย ที่ออมชอบศาสตร์การแสดงก็เพราะว่าออมชอบเล่นเป็นตัวตนของคนอื่น ซึ่งเราจะได้ผลพวง อย่างประสบการณ์ต่างๆ ที่ไม่เคยได้ทำออมก็ได้ลองทำมัน ซึ่งมันเป็นเรื่องราวที่สนุกสำหรับออมและออมก็รักศาสตร์นี้มากๆ


@@ ครอบครัวมีส่วนสนับสนุนในการเข้ามาทำงานในวงการบันเทิงอย่างเต็มตัว
          จะบอกว่าครอบครัวมีส่วนช่วยออมเยอะมากๆ คือมันตั้งแต่ตอนที่หนูเลือกเรียนทางด้านนี้แล้ว ถือว่าออมโชคดีมากที่มีพ่อแม่ที่คอยสนับสนุน เพราะอย่างหลายๆ คนที่เข้ามาเรียนในคณะออม บางคนเขาอยากเรียน แต่ทางบ้านอาจจะไม่สนับสนุนเขา แต่พ่อกับแม่ออมเป็นคนที่เชื่อมั่นในตัวออมมากๆ และมอบอิสระให้อย่างเต็มที่ และครอบครัวก็จะคอยสนับสนุนในสิ่งที่ออมตัดสินใจให้ได้ดีที่สุด ซึ่งเป็นคำพูดของพ่อที่ออมจำได้มาจนถึงทุกวันนี้ มันเลยเป็นแรงผลักดันให้ออมทำงานออกมาให้ได้ดีที่สุด
    

*** เจาะหัวใจของสาวแสนซน      
@@ พูดถึงเรื่องสเปกส่วนตัวของออมเป็นอย่างไร

          กับเรื่องสเปกของออมจริงๆ แล้วส่วนตัวออมก็ยังคงเป็นเหมือนผู้หญิงที่ชอบผู้ชายอยู่ปกตินะ แต่ด้วยความที่ออมเล่นหนังที่มีแนวทอม-ดี้ มาก่อนมันก็เป็นความรู้สึกที่เราเข้าใจความรักของคนที่เป็นกลุ่มหญิงรักหญิงมากกว่านะ เพราะจริงๆ ถ้าคนกลุ่มนี้เขาจะชอบกันเขาไม่ได้มองในเรื่องของเพศนะ เพราะตอนที่ออมเล่นหนังแนวนี้ออมพยายามทำความเข้าใจถึงความรู้สึกที่จะให้ออมรักผู้หญิงได้จริงๆ ออมเลยปรึกษากับผู้กำกับ เลยได้คำตอบมาว่าจริงๆ คนเราคบกันหรือมีความสุขกันไม่ได้มีแค่เรื่องเพศอย่างเดียวมันเป็นเรื่องของคนสองคนต่างหาก ส่วนเรื่องสเปกของออมในตอนนี้ยังยืนยันอยู่ว่ายังสนใจในต่างเพศอยู่ แต่อย่างที่บอกความรักมันไม่เกี่ยวกับเรื่องเพศนะ(หัวเราะ)
    
          ได้มาค้นหัวใจของสาวหน้าใสคนนี้ ยิ่งได้รู้จักยิ่งหลงรักเธอจริงๆ...

.......................................                                                                                

ชื่อของเธอคนนี้  สุชาร์ มานะยิ่ง
ชื่อเล่น         ออม
การศึกษา      ปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ คณะศิลปกรรมศาสตร์ เอกการแสดงและกำกับการแสดง (เกียรตินิยมอันดับ 2)
ผลงานที่ผ่านมา  ภ. yes or no // ภ.Yes or No 2 รักไม่รักอย่ากั๊กเลย//ละครรักนี้ชั่วนิจนิรันดร์
ผลงานปัจจุบัน    ภ.นมัสเต จ๊ะเอ๋ บ๊ายบาย ละครจุดนัดภพ

.......................................
(หมายเหตุ เปิดตัวตน "ออม-สุชาร์" สู่โลกมายาที่ลิขิตเอง : บันเทิงวันเสาร์  เรื่อง... ดวงใจ สอาดจิตต์ - มงคล บุญคุ้ม  ภาพ...  แมน น้อยพิทักษ์ )