บันเทิง

สุดเศร้า'เป้า สายัณห์'สิ้นใจแล้ว!

สุดเศร้า'เป้า สายัณห์'สิ้นใจแล้ว!

11 ก.ย. 2556

สุดเศร้า'เป้า สายัณห์'สิ้นใจแล้ว! หลังป่วยมะเร็งตับ ด้วยวัย 60 ปี

              เป็นเรื่องเศร้าของวงการลูกทุ่งอีกครั้ง เมื่อนักร้องชื่อดัง เจ้าของฉายาแหบมหาเสน่ห์ “สายัณห์ สัญญา” จากไปอย่างไม่มีวันกลับ ล่าสุดมีรายงานว่า สายัณห์ สัญญา สิ้นลมอย่างสงบเมื่อเวลา 12.30 น. วันที่ 11 กันยายน หลังจากต่อสู้กับโรคมะเร็งตับระยะสุดท้ายมาระยะหนึ่ง โดยมีลูกเมียอยู่เคียงข้างในช่วงวินาทีสุดท้ายของชีวิต
    
              การจากไปของสายัณห์ สัญญา เป็นไปอย่างกะทันหัน เพราะก่อนหน้าที่นักร้องชื่อดังจะเสียชีวิตไม่ถึงชั่วโมงนั้น เมื่อเวลา 11.30 น. คณะแพทย์นำโดย นพ.ประสิทธิ์ เจียรกุล ผอ.ฝ่ายการแพทย์ รพ.ธนบุรี ในฐานะแพทย์เจ้าของไข้ พร้อมด้วย นพ.วชิรบุณย์ ศาสตระรุจิ รอง ผอ.ฝ่ายการแพทย์ ได้เปิดแถลงอาการของสายัณห์ สัญญา แต่ระหว่างการแถลงข่าวอยู่นั้น นายมานิตย์ อังกินันทน์ ผู้จัดการส่วนตัวของสายัณห์ ได้รับโทรศัพท์จากลูกสาวของสายัณห์ว่า สายัณห์มีอาการทรุดลง ขอให้ตามแพทย์มาดูอาการด่วน ในเวลาไล่เลี่ยกันนางพยาบาลที่ดูแลอาการของสายัณห์ได้โทรศัพท์แจ้งคณะแพทย์ว่า คนไข้มีอาการชีพจรเต้นช้าหายใจติดขัดมาก
    
              หลังจากได้รับแจ้งอาการของคนไข้ นพ.ประสิทธิ์ พร้อมด้วย นพ.วชิรบุณย์ ต้องยกเลิกการแถลงข่าว และรีบขึ้นไปตรวจดูอาการของสายัณห์ เบื้องต้นพบว่านักร้องชื่อดังหายใจไม่สะดวก อาการทรุดลงอย่างต่อเนื่อง จึงจับให้พลิกตัวนอนหงาย ก่อนจะปรึกษากับญาติว่า หากอาการหนักจะไม่ย้ายเข้าไปในห้องไอซียู เพราะมะเร็งได้ลุกลามไม่มีทางรักษาแล้ว จากนั้นอีกไม่นาน นพ.ประสิทธิ์แจ้งว่า สายัณห์เสียชีวิตลงแล้วอย่างสงบ เมื่อเวลา 12.30 น. โดยสาเหตุการเสียชีวิตเนื่องจากโรคมะเร็งตับอ่อน
    
              นพ.ประสิทธิ์ กล่าวว่า ก่อนสายัณห์เสียชีวิตได้รับรายงานจากพยาบาลที่เฝ้าดูแลว่า สายัณห์มีอาการหายใจไม่ค่อยดี โดยขณะกำลังใส่หน้ากากออกซิเจนพยายามกลั้นหายใจคล้ายคนที่ตัดสินใจแล้วว่าจะไม่ขอมีชีวิตอีกต่อไป พร้อมกับมองหน้าลูกและน้ำตาไหล ระหว่างนั้นพยาบาลบอกให้สายัณห์หายใจให้ได้อีกครั้ง ซึ่งผู้ป่วยฮึดกลับมาหายใจได้อีกครั้งก่อนจะเสียชีวิตลงในเวลา 12.35 น.
    
              ด้านนางวรรณพร สัมฤทธิ์ ภรรยาของสายัณห์ สัญญา กล่าวด้วยน้ำตาคลอเบ้าว่า ก่อนหน้าที่พี่เป้าจะเสียชีวิตมีอาการหายใจผิดปกติ หายใจรวยริน จึงบอกว่า ไม่ต้องห่วง จะดูแลลูกๆ ให้เอง จากนั้นได้กระซิบที่ข้างหูให้พี่เป้าทำสมาธิ ไปพร้อมๆ กัน ซึ่งพี่เป้าได้ลืมตาขึ้นมามองหน้า และทำสมาธิ ก่อนจะหลับตา และหมดลมหายใจไปในที่สุด ส่วนการจากไปของพี่เป้าครอบครัวไม่ทันคาดคิดว่าจะเร็วขนาดนี้ เพราะเมื่อคืนวันอังคารที่ผ่านมาพี่เป้ายังเดินไปเข้าห้องน้ำได้ แต่ส่วนตัวได้ทำใจไว้บ้างแล้ว ก่อนหน้านี้เคยพูดกันว่า ไม่ต้องเป็นห่วงอะไรแล้ว จะดูแลลูกๆ ทั้ง 4 คน
    
              "ก่อนสิ้นใจได้บอกให้พี่เป้าไปสบายนะ ไม่ต้องห่วง และจะทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ ถามว่าทำใจไว้หรือยัง พูดได้เพียงว่า มันรวดเร็วเหลือเกิน เมื่อคืนยังลุกเข้าห้องน้ำได้ แต่วันนี้มาจากไปแล้ว" ภรรยาขุนพล

 

 

                 

อำลาอาลัย "สายัญห์ สัญญา"

 

                 สำหรับ สายัณห์ สัญญา เป็นนักร้องลูกทุ่งเพลงลูกทุ่งเมืองไทย มีน้ำเสียง ลีลา อันเป็นเอกลักษณ์ "สายัณห์ สัญญา" มีผลงานเพลงอันเป็นอมตะ ติดหูคนไทยมากมายหลายสิบเพลง มานานกว่า 3 ทศวรรษ

                 โดยมีชื่อจริงเดิมว่า "สายัณห์ ดีเสมอ"ภายหลังเปลี่ยนชื่อเป็น " พรสายัณห์ มีโชคดีเสมอ " มีชื่อเล่นว่า "เป้า" เกิดเมื่อวันที่ 31 มกราคม พ.ศ. 2496 ที่ ตำบลป่าสะแก อำเภอเดิมบางนางบวช จังหวัดสุพรรณบุรี เป็นบุตรนายอ่อง และนางบุญช่วย ดีเสมอ ซึ่งประกอบอาชีพเป็นชาวนา

                 ทั้งนี้ เมื่อตอนเด็ก ๆ ได้ร่ำเรียนหนังสือที่โรงเรียนใกล้ ๆ บ้านคือ โรงเรียนวัดป่าสะแก จนจบการศึกษาชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 แล้วก็ออกมาช่วยพ่อแม่ทำนาที่บ้าน แต่ทว่า อยู่ได้ไม่นานคุณพ่อก็เสียชีวิตกลางคัน ปล่อยให้"สายัณห์"ต้องเผชิญเวรเผชิญกรรมอยู่กับแม่บังเกิดเกล้าเท่านั้น "สายัณห์"นิยมชมชอบและรักการร้องเพลงลูกทุ่งมาตั้งแต่เด็ก ตระเวณประกวดร้องเพลงมามากมายนับครั้งไม่ถ้วน ได้รับรางวัลชนะเลิศมาก็หลายครั้ง โดยมีญาติผู้ใหญ่ที่ชื่อ "น้าสว่าง" เป็นผู้พาไปสมัครประกวดร้องเพลงตามสถานที่ต่าง ๆ จากนั้นออกมาช่วยพ่อแม่ทำนา "สายัณห์" ชอบการร้องเพลงลูกทุ่งมาตั้งแต่เด็ก เคยประกวดร้องเพลงมามากมาย ต่อมาเขาไปสมัครเป็นนักร้องอยู่วงดนตรี"เทียนชัย สมยาประเสริฐ" (สามี ผ่องศรี วรนุช) แต่ยังไม่ได้ออกหน้าเวที

                 จากนั้นได้ย้ายไปอยู่กับวงดนตรี "ผ่องศรี วรนุช" (ซึ่งแยกตัวออกมาจากเทียนชัย) ตามคำชักชวนของ"ราเชนทร์ เรืองเนตร" ที่นี่"สายัณห์"เริ่มออกเวทีในฐานะหางเครื่อง ต่อมาก็ได้มีโอกาสร้องเพลงด้วย ช่วงนี้เขาร้องเพลงแนว"ศรคีรี ศรีประจวบ"เป็นหลัก "สายัณห์"อยู่ที่นี่ได้ 3 ปี วงก็ยุบ จากนั้นว่าที่นักร้องดังแห่งยุค ก็ไปอยู่กับวงดนตรีอีกมากมายหลายวง อย่าง "รวมดาวกระจาย" ของครูสำเนียง ม่วงทอง , บรรจบ เจริญพร , ก้าน แก้วสุพรรณ และชินกร ไกรลาศ โดยในยุคนี้ "สายัณห์" ใช้ชื่อว่า "กัมชัย ลูกราษฎร์บำรุง" ต่อมา "สายัณห์" มาอยู่กับวง "รวมพร" ของคุณเล็ก และคุณน้อยศรี อิงคะนันท์ เจ้าของปั๊มน้ำมันพรรุ่งโรจน์ ย่านบุคคโล และได้รับการสนับสนุนจากคนทั้งสองให้บันทึกเสียงเป็นครั้งแรก คือ "รักเธอเท่าฟ้า" ของครูฉลอง การะเกต ซึ่งทำให้เขาพอจะเป็นที่รู้จักของแฟนเพลงอยู่บ้าง พ.ศ. 2515 คุณพ่อเล็ก และคุณแม่น้อยศรี อิงคะนันท์ ออกทุนให้สายัณห์อัดแผ่นเสียง เริ่มต้นจาก เพลงรักเธอเท่าฟ้า และ เพลงพลัดคู่ ความหวังที่ตั้งใจ คือเพลงดังจะได้มีงานทำ มีเงินใช้เหมือนคนอื่นเขาบ้าง

                 แต่ความหวังที่คิดว่าเพลงมันจะดังกลับเป็นหมัน แผ่นเสียงถูกเก็บกักดองแช่เย็น กำลังใจหดหู่อยู่ไปก็ไม่มีความสุข อยู่กับชินกร ได้ไม่นานเพียงปีเศษก็อำลาออกจากวง จึงเข้าร่วมวงดนตรีรวมพร แต่ก็ไปไม่รอด ที่สุดก็เป็นเด็กล้างรถอยู่ในปี๊มน้ำมันพรรุ่งโรจน์ บุคคโล ชะตาเวียนวนจนเวียนหัว ชีวิตไม่มีอะไรดีขึ้น จะกลับบ้านก็กลับไม่ได้ วันหนึ่งขณะที่สายัณห์ช่วยงานล้างรถอยู่ที่ปั๊มน้ำมัน ชลธี ธารทอง ครูเพลงชื่อดังที่ตอนนั้นยังเป็นนักร้อง และนักแต่งเพลงที่ไม่ค่อยมีชื่อเสียง และตัดสินใจจะกลับไปใช้ชีวิตชาวไร่ที่บ้านนอก เพราะไม่ประสบความสำเร็จในวงการเพลงได้แวะมาเข้าห้องน้ำที่ปั๊มแห่งนี้ และได้ยินสายัณห์ ร้องเพลงของ ศรคีรี ศรีประจวบ ได้ถูกใจ หลังจากได้คุยกัน สายัณห์ บอกว่าเขาอยากเป็นนักร้อง และมีนายทุนซึ่งก็คือ เจ้าของปั๊มน้ำมันนั่นเอง ชลธี จึงมอง เพลงลูกสาวผู้การ และเพลงแหม่มปลาร้า ให้สายัณห์ฟรี ๆ โดยเดิมที 2 เพลงนี้ชลธีจะแต่งให้ศรคีรีร้อง แต่ศรคีรีโชคร้ายประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์เสียชีวิตไปก่อน การได้ร้องบันทึกแผ่นเสียง 2 เพลงนี้ได้รับความอุปการะจากคุณพ่อเล็ก และคุณแม่น้อยศรี เช่นเดิม ก่อกำเนิดวงดนตรีน้องใหม่ที่ไม่มีใครเคยเห็นมาก่อน ยังไม่รู้ว่าผลงานการแสดงจะเป็นอย่างไรบ้าง จะน่าดูหรือไม่น่าดู จากการผลักดันสนับสนุนของคุณพ่อเล็ก และคุณแม่น้อยศรี อิงคะนันท์ ผู้มีพระคุณมาตั้งแต่แรก

                 ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2516 มีการตั้งวงดนตรีสายัณห์ สัญญา และ นับตั้งแต่นั้น สายัณห์ ก็ผลิตผลงานออกมาประดับวงการลูกทุ่งเมืองไทยมากมาย ในปี พ.ศ. 2525 สายัณห์ได้ผ่าตัดลำคอทำให้เสียงกลายเป็นเสียงแหบ และได้ฉายาว่า "แหบมหาเสน่ห์" จากนั้นในปี พ.ศ. 2527 สายัณห์ก็ได้เข้าสู่วงการภาพยนตร์อย่างเต็มตัว ทำให้ผลงานเพลงเงียบหายไปพักหนึ่ง ก่อนจะกลับมาทำผลงานเพลงอีกครั้ง สายัณห์ สัญญา ได้ชื่อว่าเป็นนักร้องลูกทุ่งชายที่ได้รับความนิยมมากที่สุดหลังจากการถึงแก่กรรมของสุรพล สมบัติเจริญ แม้จะไม่เคยได้รับรางวัลทางการร้องเพลงใดๆ เลยก็ตาม แต่สายัณห์ก็เป็นนักร้องที่มีเสน่ห์ มีคำออดอ้อนแม่ยก แฟนเพลง ผู้สนับสนุน ด้วยประโยคที่คุ้นเคยคือ "รักสายัณห์น้อยๆ แต่รักนานๆ" ซึ่งเป็นรูปแบบของพระเอกลิเก มีการไว้เคราแพะเป็นเอกลักษณ์ประจำตัว

               กระทั่ง วันที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2516 คือ วันเปิดวงครั้งแรก แสดงที่บึงพลาญชัย อ.เมือง จ.ร้อยเอ็ด ผู้คนแห่นแหนมาดู ชนิดมืดฟ้ามัวดิน ไม่น่าเป็นไปได้แต่มันก็เป็นไปแล้ว เปิดวงใหม่ ๆ ค่าตัวค่าแสดงทั้งวง 8,000 บาท ปีแรกเริ่มของการก่อตั้งวงดนตรีเผชิญหน้ากับอุปสรรคมากมายหลากหลายเหตุผล แต่ก็พอจะมีเพลงดังให้คนได้จดจำไม่น้อย เริ่มจาก ลูกสาวผู้การ , แหม่มปลาร้า รวมทั้งเพลงที่คุณพ่อเล็ก และคุณแม่น้อยศรี อิงคะนันท์ เคยอัดให้ไว้ก่อนแต่ไม่ยอมตัดแผ่นเชียร์ เริ่มต้นเอาออกมาเชียร์กันทีหลัง และก็ดังต่อเนื่องกันมามี รักเธอเท่าฟ้า และ พลัดคู่ ชีวิตศิลปินน้องใหม่ หันหน้าไปหาใครก็ยังไร้บารมี ต้องอดทนอดกลั้นถึงที่สุด ประคับประคองวงดนตรีจนถึงปลายปี ก็โชคดีซ้อน ได้เพลงเด่นส่งอีกถึง 2 เพลง คือเพลงสัญญา 5 ปี และ เพลงลารักจากสวนแตง และที่เจ็บปวดคือประชาชนแฟนเพลงสับสนเหมือนงงจนแยกแยะอะไรไม่ได้ เพราะมีวงดนตรี สัญญา สายัณห์ เกิดขึ้นมาเป็นคู่แข่งด้วย วงดนตรีสองวงชื่อละม้ายคล้ายคลึงกันจนแยกแทบไม่ออกว่าใครเป็นใคร แถมเสียงร้องก็เกือบจะเหมือนกันอีก สายัณห์ตัดสินใจว่าถ้าขืนปล่อยไปอย่างนี้ ยิ่งเวลาเนิ่นนานไปความเสียหายก็จะเกิดขึ้น ดีไม่ดีอาจจะถึงขั้นล้มวง ในที่สุดสายัณห์ก็ตัดสินใจเข้าหาผู้ใหญ่ เพื่อให้ท่านเปลี่ยนสัญญา สายัณห์ เสียใหม่ ซึ่งผู้ใหญ่ก็ตกลงกันได้เป็นอย่างดี จากนั้นมาก็มีวงดนตรี สายัณห์ สัญญา และวงดนตรี สัญญา พรนารายณ์ ต่างคนต่างทำมาหากินกันไปไม่สับสนเหมือนตอนแรก แฟนเพลงก็เริ่มเข้าใจดีขึ้น

 

                 ทางทีมงาน บันเทิงคมชัดลึก ขอไว้อาลัยต่อการจากไปของอดีตนักร้องลูกทุ่งด้วย