บันเทิง

เป็นคุ้งเป็นแคว:เปิดบ้านครูไพบูลย์-บ้านเพลงพยัต

เป็นคุ้งเป็นแคว:เปิดบ้านครูไพบูลย์-บ้านเพลงพยัต

29 ส.ค. 2556

เปิดบ้านครูไพบูลย์-บ้านเพลงพยัต : คอลัมน์ เป็นคุ้งเป็นแคว โดย... เคน สองแคว



          ย้อนหลังไปในวันนี้เมื่อ 40 ปีก่อน วันที่ 29 สิงหาคม 2516 วงการเพลงไทยได้สูญเสียนักประพันธ์เพลงคีตกวี ครูไพบูลย์ บุตรขัน ซึ่งล้มป่วยด้วยโรคลำไส้และอาเจียนเป็นเลือด ในวัยเพียง 54 ปี น่าเสียดายที่ในวันนั้นบริการทางการแพทย์ และการจราจรอาจจะไม่รวดเร็วเท่าเทียมถึงวันนี้ที่เหล่านักร้องพาเหรดเข้าโรงพยาบาลกันได้ทันท่วงที ล่าสุดหมาดๆ เมื่อวันจันทร์ที่ผ่านมา เอกชัย ศรีวิชัย ก็เข้าโรงพยาบาลไปอีกคนด้วยอาการป่วยเกี่ยวกับลำไส้นี่แหละ
 
          บริษัท เมโทรแผ่นเสียง-เทป (1981) จำกัด เป็นค่ายเพลงที่ถือลิขสิทธิ์เพลงครูไพบูลย์ส่วนใหญ่ไว้ในขณะนี้ โดยทุกๆ ปีทางค่ายก็ได้จัดงานทำบุญให้ครูตลอดมา และปีนี้ได้ส่งข่าวมาเพื่อเชิญชวนทำบุญให้ครูไพบูลย์ โดยมีนายห้าง วรชัย ธรรมสังคีติ ร่วมกับนายสุริยะ บุตรขัน ทายาท พร้อมศิลปินนักร้อง ฯลฯ ญาติมิตรเพื่อนฝูง จะจัดงานทำบุญเลี้ยงพระถวายเพลในงานครบรอบ 41 ปี วันเสียชีวิตของครูไพบูลย์ บุตรขัน ณ วัดสำแล บางกะพึง บ้านบางกระแชง อ.เมือง จ.ปทุมธานี ในวันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม 2556 เวลา 10.00 น.
 
          สิ่งที่น่าสนใจและสื่อมวลชนใจจดจ่อ คือ จะได้ล่องเรือเข้าเยี่ยมชม “บ้านครูไพบูลย์ บุตรขัน” ณ บริเวณหน้าวัดสำแล ติดกับแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งเป็นสถานที่รวบรวมประวัติผลงานเพลงของครูไพบูลย์ บุตรขัน ไว้ให้อนุชนรุ่นหลังได้ศึกษาค้นคว้าหาความรู้ต่อไป
 
          บรรยากาศในปีที่ผ่านมา ตอนครบ 40 ปี นักข่าว หน้าลูกทุ่งได้ไปมา และได้สาธยายให้ฟังว่า หลังทำบุญเลี้ยงพระ ทุกคนรอคอยที่จะได้ไปเยี่ยมชมบ้านไม้ซึ่งครูเคยใช้เป็นที่แต่งเพลงดังหลายๆ เพลง ซึ่งผู้ที่ร่วมขบวนเรือในปีที่ผ่านมา ได้แก่ ครูสุรินทร์ ภาคศิริ นักแต่งเพลงเจ้าของเพลง “หนาวลมที่เรณู” ที่เคยคลุกคลีกับครูมา, แดน บุรีรัมย์, กิตติศักดิ์ สายนํ้าทิพย์ นักเรียบเรียงเสียงประสาน, สุริยา ฟ้าปทุม นักร้องเสียงหวานชาวปทุมธานี ที่เป็นศิษย์รุ่นสุดท้ายของครูไพบูลย์ ที่ครูพาเข้าวงการเมื่อปี 2512-2513 ตอนสุริยาอายุ 18 ปี และตั้งชื่อให้ว่า ไตรเทพ ณ เมืองปทุม ได้ร้องเพลงของครูประมาณ 5 เพลง มีเพลง “พระคุณท่วมฟ้า” เป็นเพลงแรกในชีวิต
 
          ผู้ที่เคยไปเมื่อปีที่แล้ว คงจะคิดถึงคนหนุ่มที่ชื่อ ระพี ตรีบุปผา (บุตรชายครูพีระ ตรีบุปผา นักแต่งเพลงนักเรียบเรียงเสียงประสานรุ่นๆ เดียวกับครู) ซึ่งปีนี้ไม่ได้ไปด้วย เพราะเสียชีวิตอย่างกะทันหันไปตั้งแต่ต้นปี
 
          ชาวคณะสื่อมวลชน คนในวงการและญาติๆ ของครูไพบูลย์ได้นั่งเรือที่มาจอดรอที่บริเวณท่านํ้าหน้าวัดสำแล เพื่อไปบ้านครูที่ตั้งอยู่ริมแม่น้ำ ระหว่างล่องเรือนั้น ได้มีการนำเพลงของครูไพบูลย์ อาทิ รังรักในจินตนาการ นํ้าค้างเดือนหก แอบมอง ฝนเดือนหก นํ้าลงเดือนยี่ แม่ค้าตาคม ฯลฯ มาขับร้องกันอย่างซาบซึ้งสนุกสนาน นี่คือ บรรยากาศในปีที่ที่ผ่านมา
 
          เมื่อถึงบ้านของครู เชื่อว่า ทุกคน จะนึกถึงเพลง “รังรักในจินตนาการ” ขึ้นมาทันที ครูเขียนให้ทูล ทองใจ ขับร้อง
          “พี่ฝันจะสร้างรังรักสักหนึ่งหลัง ณ ริมฝั่งเจ้าพระยาอยู่อาศัย
          แม้ฝันของพี่ ไม่เกิดมี อันเป็นไป สองชีวีเราคงได้ ร่วมเสน่หา”
          ท่อนที่ผมเองชอบมาก คือท่อนถัดมา คือ
          “รังรักในจินตนาการ วิมาน รักอันบรรเจิดจ้า
         
          ริมหน้าต่างปลูกซุ้มลัดดา ห้องนอนสีฟ้า ติดม่านชมพู…”
 
          เคยคิดยุยงให้เพื่อนคนหนึ่งที่เขาทำธุรกิจรีสอร์ทริมแม่น้ำเจ้าพระยา แถวปทุมธานี ให้ตกแต่งห้องนอนสักห้องแบบในจินตนาการของครู ห้องนอนสีฟ้า ติดม่านชมพู ปลูกต้นลัดดา แล้วผมจะแวะไปนอนอุดหนุน แต่ก็ยังคงเป็นเรื่องในจินตนาการอยู่
 
          สุริยะ บุตรขัน หลานชายครู ได้ปรับปรุงบ้านไม้สองชั้นของครูมากว่า 3 ปี ซึ่งตอนนี้เสร็จค่อนข้างสมบูรณ์ ภายในบ้านมีการจัดวางสิ่งของต่างๆ ที่ครูได้เคยใช้ไว้อย่างสนใจและเป็นระเบียบ อาทิ รางวัลต่างๆ ที่ครูได้รับ สมุดเขียนเพลงซึ่งเป็นลายมือของครู ภาพถ่ายครูไพบูลย์ที่ถ่ายร่วมกับพี่น้อง ซึ่งคนในภาพส่วนใหญ่เสียชีวิตไปหมดแล้ว
 
          ปีนี้ เดิมที คณะผู้จัดงานตั้งใจว่า จะนำหุ่นขี้ผึ้งครูไพบูลย์ ในท่านั่งเขียนหนังสืออยู่บนโต๊ะมาตั้งแสดงด้วย แต่ทราบมาว่า หุ่นยังจัดสร้างไม่ทันเสร็จ (หน้าลูกทุ่ง “คม ชัด ลึก” ได้นำภาพหุ่นล่าสุดของครูจากโรงปั้นหุ่นมาให้ชมกัน เมื่อฉบับวันจันทร์ที่ผ่านมา คาดว่า ในปีหน้า การจัดงานฉลองหุ่นคงจะยิ่งใหญ่กว่าปีนี้
 
          นับเป็นโครงการในเชิงสร้างสรรค์เกี่ยวกับคนลูกทุ่งที่น่าสนใจและน่าสนับสนุนยิ่งนัก เพราะครูไพบูลย์ คือ นักแต่งเพลงระดับคีตกวี เพลงของท่านมากมาย กลายเป็นเพลงอมตะร่วมสมัย และเป็นเหมือนเพลงครูต้นฉบับให้คนรุ่นต่อมาได้ศึกษาการใช้ภาษาที่งดงามในบทเพลง
 
          ที่ผ่านมา คนในวงการลูกทุ่งพยายามจะสร้างศูนย์การเรียนรู้ พิพิธภัณฑ์ต่างๆ เกี่ยวกับนักร้องหรือครูเพลงผู้ล่วงลับ แต่ก็เห็นว่า ทำกันแบบไฟไหม้ฟางทุกที จัดงานขายของ ขอหวย ขายเหล้าเบียร์ เกณฑ์คนไปร้องเพลงแล้วก็จบๆ กันไป หาได้มีกิจกรรมใดๆ ที่เข้าถึงแก่นแท้ของชีวิตและงานของผู้ล่วงลับ บ้านครูไพบูลย์จึงถือเป็นความหวังและจะเป็นต้นแบบให้การทำงานในลักษณะนี้ต่อไป
 
          และในวันนี้เช่นเดียวกัน คงจะมีนักข่าววิ่งรอกกันน่าดู เพราะจะมีงานของ พยัต ภูวิชัย จะเปิดค่ายเพลงเล็กๆ ชื่อ “บ้านเพลงพยัต” ที่ร้านบ้านไม้แดง ถ.วิภาวดีรังสิต บ่าย 3 โมงเป็นต้นไป
 
          พยัต ภูวิชัย คนหนุ่มที่เคยผ่านงานโปรดิวเซอร์ นักดนตรี นักแต่งเพลง และเป็นอดีตสมาชิกวง “มาชารี” เป็นเจ้าของลายมือเพลงดังมากมาย อาทิเพลง “กรุณาฟังให้จบ” (แช่ม แช่มรัมย์) “อยากเป็นคนรัก ไม่อยากเป็นชู้ “ (ตั๊กแตน ชลดา) “แค่มี” พลพล ฯลฯ
 
          พยัต เคยได้รับรางวัล คำร้องยอดเยี่ยม คมชัดลึกอวอร์ด ครั้งที่ 9 ที่ผ่านมา จากเพลง “รวงรักรวงแรงใจ” ขับร้องโดย น้อย นพเก้า
 
          “งามสุดลูกหูลูกตา ทุ่งนาที่เห็นเคยเป็นทุ่งทอง
ในลมหนาวรวงข้าวเรียว รอคมเคียว เกี่ยวน่ามอง
มาบัดนี้ รวงทอง ต้องนองรวงช้ำ...
          ไกลสุดลูกหูลูกตา ทุ่งนาที่เห็น กลายเป็นทุ่งน้ำ
รวงชีวิตที่หวัง วายวับกับสายธารเชี่ยวกรำ
ได้แต่มองดูน้ำ ท่วมรวงดวงใจ...”
 
          ยุคนี้ จะหาเพลงที่ภาษาสวยงามจากคนรุ่นใหม่ๆ ได้ยากเต็มที เพราะเราอยู่กันแต่ในป่าคอนกรีต นักแต่งเพลงใหม่ๆ ก็ใช้ภาษาร่วมสมัยกันมากขึ้น ในงานก็จะมีกิจกรรมดีๆ อาทิ พิธีรดน้ำดำหัวศิลปินแห่งชาติ สุรชัย จันทิมาทร เพื่อเป็นสิริมงคลแก่งานขึ้นบ้านใหม่
 
          นอกจากเปิดตัว “บ้านเพลงพยัต” แล้ว ยังมีรายการพิเศษอีกด้วย นั่นคือการเปิดตัว งานเพลงร่วมกันของ สุดยอดนักเขียนเพลง วสุ ห้าวหาญ กับ พยัต ภูวิชัย ภายใต้ชื่อ “ดูโอ โสตาย” ฟังอะคูสติกคอนเสิร์ตเปิดบ้านจากศิลปินเพื่อมอบทุนสนับสนุนการจัดการเรียนการสอน โดยชุมชน เพื่อชุมชน ณ ศูนย์การเรียนชุมชนบ้านห้วยพ่าน ต.เปือ อ.เชียงกลาง จ.น่าน และชักชวนให้ได้ดื่มด่ำคำกวีจากการอ่านของ เพื่อนพ้องน้องพี่กวี-นักเขียน
 
          และยังมีการแสดงภาพเขียน ภาพถ่ายจากจิตรกรและตากล้องมากฝีมือ พีระศิลป์ ประสานทอง, โกสินทร์ ขาวงาม และสาโรจน์ ปาลกะวงศ์ ณ อยุธยา พร้อมร่วมประมูลทำบุญการศึกษากับภาพเหมือนสีน้ำและเครยอง ของน้าหงา สุรชัย ที่มีเพียงสองภาพในโลกจากฝีมือ พีระศิลป์และโกสินทร์
 
          ยัง ยังไม่พอ ...(ทำเสียงแบบรถแห่งานวัด) พบกับการเปิดหนังสือรวมบทกวี "เพลงใบไม้" ของ หกสาย พรายทะเล และหนังสือรวมบทกวีของ วสุ ห้าวหาญ พร้อมแถลงข่าวเปิดซิงเกิลน้องพี่ร่วมบ้าน อาทิ นกแก้ว กาฬสินธุ์, แจ๊ค บึงกาฬ, บี๋ คณาคำ, กันตรึม จันทิมาธร, เหน่ง เดอะ วอยซ์, นายแพร, นายผาง, ธนพร พรพยัต ฯลฯ ดำเนินรายการโดยดีเจ กบ ธวัชชัย กับ เก๋ ผกามาศ จาก ลูกทุ่งมหานคร เอฟเอ็ม 95
 
          ขอเชิญชวนแฟนเพลงและพี่น้องเพื่อนพ้องในวงการ ไปร่วมอิ่มบุญอุ่นท้องร้องเพลงให้ฟังตังค์อยู่ครบ (ฮา) ฟรี ตลอดงาน อย่างน้อยได้ไปให้กำลังใจนักแต่งเพลงและเหล่ากวี คนวาดภาพ คนถ่ายภาพที่สร้างงานคุณภาพ และภาษาที่ไพเราะสวยงามของยุคนี้กันครับ

.......................................
(หมายเหตุ เปิดบ้านครูไพบูลย์-บ้านเพลงพยัต : คอลัมน์ เป็นคุ้งเป็นแคว โดย... เคน สองแคว)