ถนนสายวัฒนธรรมที่เมืองกะทู้ | คมชัดลึก

          เมื่อกลางสัปดาห์ที่ผ่านมาที่อ.กะทู้ จ.ภูเก็ตได้มีการจัดงานที่ชื่อว่า "ถนนสายวัฒนธรรม เมืองกะทู้" ครั้งที่ 5 ซึ่งก็จัดโดยเทศบาลเมืองกะทู้ และการจัดงานในครั้งนี้นั้นเป็นการจัดมาโดยต่อเนื่องเป็นปีที่ 5 แล้วโดยในครั้งนี้เทศบาลเมืองกะทู้ได้กำหนดจัดขึ้นในระหว่างวันที่ 22-24 กรกฎาคมที่ผ่านมานี้เอง ซึ่งวัตถุประสงค์ก็เพื่อที่จะอนุรักษ์ เเละเผยเเพร่ ขนบธรรมเนียม ประเพณีเเละวัฒนธรรมในท้องถิ่นให้เผยเเพร่ออกไปสู่สายตาประชาชนทั่วไปและที่สำคัญนั้นเป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจการท่องเที่ยวทั้งของเทศบาลเมืองกะทู้เเละจ.ภูเก็ต หรือจะว่ากันง่ายๆ ก็คือ เป็นการส่งเสริมการท่องเที่ยวจ.ภูเก็ตนั่นเองเเหละครับ
 
          โดยความจริงเเล้วนั้นชาวเมืองกะทู้มีการดำเนินชีวิตที่น่าสนใจมาอย่างยาวนานนับร้อยปีจึงไม่เเปลกที่ชาวเมืองกะทู้จะมีวัฒนธรรมที่หลากหลาย อย่างเช่นในเรื่องของความเชื่อซึ่งผมได้เห็นศาลเจ้าทั้งเล็กเเละใหญ่ตั้งอยู่มากมายหลายเเห่งบนนถนนกะทู้ที่จัดงานนี้ ซึ่งในเรื่องของศาลเจ้าที่มีมากในเมืองกะทู้ ก็เป็นเพราะว่าเมื่อ 100 กว่าปีที่เเล้วชาวจีนฮกเกี้ยนนั้นได้เข้ามาตั้งรกรากที่เมืองกะทู้กันอย่างมากมายนั่นเอง เหมืองเเร่ก็เป็นอีกหนึ่งของชาวเมืองกะทู้ที่มีมามากกว่า 100 ปีประกอบกับในสมัยก่อนที่จ.ภูเก็ตเป็นเมืองที่อยู่ระหว่างกลางเส้นทางเดินเรือการค้าระหว่างอินเดียกับจีน ที่จะต้องมาจอดพักอยู่ที่อ.กะทู้ซึ่งถือว่าในยุคนั้นเป็นเมืองที่เจริญที่สุดบนเกาะเเห่งนี้ ดังนั้นเเล้วมหาอำนาจทางวัฒนธรรมทั้งจีนเเละอินเดียจึงนำวัฒนธรรมต่างๆ รวมถึงสถาปัตยกรรม อาหารการกินเข้ามาสู่เมืองกะทู้ตั้งเเต่เมื่อ 100 กว่าปีที่เเล้วมา และเมื่อเป็นเช่นนี้เทศบาลเมืองกระทู้จึงได้จัดงานนี้ขึ้นมา เพื่อเป็นการอนุรักษ์เเละฟื้นฟูศิลปวัฒนธรรมรวมถึงขนบธรมเนียมประเพณีของเมืองกะทู้ นั่นเองครับ

          สำหรับตัวผมนั้นในคืนวันพุธที่ 24 กรกฎาคม ซึ่งเป็นคืนสุดท้ายของงาน หลังจากที่ผมโชว์เดี่ยวระนาดร่วมกับการเเสดงต่างๆ มากมายบนเวทีใหญ่ด้านหน้าเทศบาลเมืองกะทู้เสร็จเรียบร้อยเเล้ว ก็เลยถือโอกาสเดินเที่ยวชมงานบนถนนกะทู้ ซึ่งก็จะจัดเป็นในลักษณะคล้ายกับถนนคนเดินของจังหวัดอื่นที่เขามีกันนั่นเองเเหละครับ แต่จะต่างกันก็ตรงที่ว่าถนนกะทู้ที่จัดงานนี้ นอกจากจะมีระยะทางยาวไกลเกือบ 4 กิโลเมตรเเล้วนั้นก็จะมีเวทีใหญ่ๆ สำหรับเเสดงดนตรีหรือประกวดร้องเพลงอยู่ 4 เวทีด้วยกัน เเละที่สำคัญคือจะมีการเเสดงเเละจำลองวิถีชีวิตเเละวัฒนธรรมต่างๆ เช่น ชุมชนเหมืองเเร่ ที่มีการร่อนแร่ให้ชมกันสดๆ หรือ การจำลองเรือนหอการเเต่งงานเเบบคนจีนโบราณของชาวกะทู้ ที่เรียกว่า "บ้าบ๋า ย่าหยา" ส่วนตามทางตลอดเส้นทางของถนนกะทู้สายนี้ ที่ผมเห็นนั้นนอกจากอาหารการกินต่างๆ ที่เป็นพื้นเมืองเเละไม่พื้นเมืองเเล้ว ก็จะมีอะไรเเปลกๆ ให้ผมได้ชม เช่นหนังตลุงที่ชื่อ คณะหนังเวงตะลุงชาโดว์ซึ่งเขาจะเชิดอยู่หลังโรงเพียงคนเดียวโดยไม่จำเป็นต้องง้อนักดนตรีจำพวกปี่ฆ้องกลองโทนและคนพากย์ก็คือคนเชิดจะใช้เทคโนโลยีเข้ามาช่วยก็คือเปิด ดีวีดี เเล้วก็เชิดไปตามแผ่น รวมถึงใช้เสียงพากย์เสียงดนตรีทั้งหมดจากในเเผ่น ดีวีดี ซึ่งถ้าผมไม่ไปแอบดูข้างหลังโรงก็จะไม่รู้ว่าเขาเล่นอยู่คนเดียวครับ
 
          และถ้าเดินไปเรื่อยๆ ก็จะพบกับนักดนตรีเปิดหมวกทั้งไทยเดิมและสากลรวมถึง รำโนราเปิดหมวกของเด็กๆ ตัวน้อยที่น่ารักเเละการเเต่งตัวเป็นเทพยดายืนเปิดหมวก เเละอะไรต่อมิอะไรที่ตื่นตาตื่นใจไปตลอดสองข้างทางโดยเฉพาะการตกเเต่งศาลเจ้าทั้งเล็กเเละใหญ่ เรียกว่าเดินเเล้วไม่รู้สึกเมื่อยเลยครับ ก็ต้อง ขอขอบคุณท่านชัยอนันต์ สุทธิกุล นายกเทศบาลเมืองกะทู้ที่จัดงานดีๆ แบบนี้และในปีหน้าซึ่งทางเทศบาลเมืองกระทู้ก็ยังคงจัดงานนี้อยู่ ผมเเนะนำว่าปีหน้าให้ท่านผู้อ่านที่พอมีเวลาว่างไปเที่ยวงานนี้กันครับรับรองว่าสนุกไม่ผิดหวังครับ

.......................................
(หมายเหตุ ถนนสายวัฒนธรรม ที่เมืองกะทู้ : คอลัมน์ โลกใบนี้ดนตรีไทย โดย... ขุนอิน)