
แบบว่า...มืออาชีพ(2)
แบบว่า...มืออาชีพ(2) : คอลัมน์ ร้อยพบพันเจอกับมิสเตอร์บางอ้อ โดย... คงกะพัน แสงสุริยะ
เช้าวันนั้นผมต้องไปสัมภาษณ์บุคคลท่านหนึ่งที่อดีตเคยเป็นนักเรียนนักเลงในยุคโก๋หลังวัง เขาคนนั้นคือ ปุ๊ กรุงเกษม อดีตนักเลงคุมแกงค์วัยรุ่นย่านกรุงเกษม ที่ในยุคนั้นไม่มีนักเลงคนไหนในพระนครที่ไม่รู้จักชื่อของเขา และทีมงานก็นัดผมที่บ้านของนักร้องชื่อดังท่านหนึ่งคือ “พี่แหวน” ฐิติมา สุตสุนทร ครับ ผมกับผู้จัดการส่วนตัวหรือเจ้าไปป์ก็รีบตื่นแต่เช้าเพื่อไปยังบ้านของพี่แหวน ระหว่างทางเจ้าไปป์ก็อ่านข้อมูลไป ผมก็ขับรถไป ซึ่งความจริงมันควรจะเป็นผมที่อ่าน แล้วเจ้าไปป์ขับแต่เพราะในสถานะการณ์ที่เร่งรีบนั้นขืนให้เจ้าไปป์ขับคงถึงเกือบมืด เพราะทั้งขับช้า ไม่ช้าก็หลง ไม่หลงก็เลยหรือไม่ก็อ้อม ถ้าซวยมากถึงกับถูกตำรวจจับก็เคย ผมจึงต้องขับเองจะเป็นการดีกว่า
ระหว่างทางมันก็เล่าให้ผมฟังไปเรื่อยๆ ว่า ปุ๊ กรุงเกษม เป็นใคร..? เรื่องราวในยุค 2499 อันธพาลครองเมืองนั้นเป็นอย่างไร..? สุดท้ายมันก็นั่งชื่นชมให้ผมฟังว่า “พ่อพี่แหวนนี่สุดๆ เลยว่ะ...นักเลงตัวจริง เจ๋งว่ะ...!” ผมฟังมันชื่นชมสักพักเราก็เดินทางมาถึงบ้านพี่แหวนที่มีทีมงานย้อนรอยยืนรอรับอยู่...
ที่หน้าบ้านผมมองเห็นชายวัยหกสิบกว่าๆ รูปร่างสันทัดยืนตัดต้นไม้อยู่ ในมือถือมีด หน้าตาคมคาย ไว้หนวดเล็กๆ ใบหน้าเคร่งขรึมแต่แฝงไว้ด้วยรอยยิ้มมุมปากเล็กๆ สมชายชาตรียืนต้อนรับอยู่ ผมคิดในใจว่า นี่คือฮีโร่ของเจ้าไปป์ที่ผมฟังมาตลอดทางแน่ๆ
“สวัสดีครับ” ผมยกมือไหว้ทักทาย อีกด้านหนึ่งผมเห็นพี่แหวน ฐิติมา นักร้องขวัญใจผมยืนอยู่....ผมสวัสดี และทั้งสองก็รับไหว้ยิ้มแย้มทักทายอย่างอบอุ่นเป็นกันเอง...“ผมติดตามผลงานของพี่แหวนมาตั้งนานแต่ไม่เคยทราบเลยนะครับว่า ปุ๊ กรุงเกษมนี่เป็นคุณพ่อของพี่แหวน” ผมพยายามชวนพี่แหวนคุย เพื่อทำความรู้จักก่อนการสัมภาษณ์จะเริ่มขึ้น....
แต่เชื่อหรือไม่ครับ พอพูดประโยคนี้จบ พี่แหวนไม่ตอบแถมเดินหันหลังกลับเข้าบ้าน หันไปทางซ้าย พี่ปุ๊ที่ยืนถือมีดหุบยิ้ม กำมีดแน่น แล้วหันไปตัดต้นไม้ต่อทันที ผมสังเกตเห็นถึงความผิดปกติบางอย่าง หลายสิ่งหลายอย่างผุดขึ้นมาในใจ “เอ๊ะ...หรือวิสัยนักเลง เขาไม่ให้ทักตอนถือมีดวะ? หรือว่าพี่แหวนแกไม่อยากเปิดเผยเรื่องนี้ให้สาธารณชนรับรู้?” ผมคิดไปต่างๆ นาๆ
ผ่านไปสักครู่ขณะที่บรรยากาศอึมครึมอยู่นั้น ทีมงานก็ค่อยๆ เดินอ้อมมาด้านหลังและกระซิบข้างหูผมเบาๆ แบบเหงื่อแตกซิกๆ ว่า “หนุ่ม...เอ่อ...คือ...ว่า...พี่ปุ๊เขาไม่ได้เป็นพ่อพี่แหวนนะ...เขาเป็นสามีพี่แหวนล่ะ” พูดจบทีมงานย้อนรอยก็เดินหนีจากผมและคมมีดพี่ปุ๊ทันที ผมที่หน้าตาแป้นแล้นตอนนี้หน้าน่าจะเหลือแค่นิ้วเดียวเท่านั้น...
พอถึงบางอ้อแล้วว่า พี่ปุ๊ไม่ใช่คุณพ่อแต่เป็นพ่อคุณของพี่แหวน ผมจึงมองหาที่มาของข้อมูล ไอ้ไปป์ ผู้ที่เดาสุ่มเอาเองว่าพี่ปุ๊เป็นพ่อ.... ผมหันรีหันขวางมองไปรอบๆ ก็พบชายชุดดำนั่งยองๆ ดูดบุหรี่อยู่ใกลลิบ ไอ้ไปป์คงคำนวณแล้วว่า บริเวณนั้นคงห่างไกลจากคมมีดพี่ปุ๊และฝีเท้าของพี่หนุ่มแน่ๆ... “เออ...ใครๆ เขาก็พูดอย่างนั้นนั่นแหละ” เสียงพี่ปุ๊ลอยมาพร้อมเสียงคมมีดตัดต้นไม้ ฉับ ฉับ “ไป...เข้าไปนั่งในบ้านกัน” พี่ปุ๊เอ่ยชวนทุกคนเข้าบ้าน บรรยากาศเริ่มคลี่คลายผมและทีมงานก็ค่อยๆ ทยอยเข้าบ้านพี่ปุ๊ มีก็แต่เจ้าไปป์ที่หันไปอีกทีคราวนี้ชายชุดดำก็หายตัวไปจากจุดเกิดเหตุแล้ว
ผมเข้าบ้านแล้วเอ่ยขอโทษขอโพยพี่ปุ๊ พี่แหวนถึงความผิดพลาดที่เกิดขึ้น....ทุกคนหัวเราะชอบใจ บรรยากาศการทำงานวันนั้นเป็นไปอย่างสนุกสนาน พี่ปุ๊เป็นผู้ชายที่อบอุ่น น่ารัก ไม่มีเค้าของอดีตนักเลงเก่าตรงไหนเลย จึงไม่แปลกที่นักร้องขวัญใจของผมจะตกหลุมรักเขา พี่แหวนในอีกบทบาทที่เราเห็นในวันนี้ ก็เป็นแม่บ้านที่ทำกับข้าวอร่อยมาก เป็นคุณแม่ของลูกที่น่ารักสมบูรณ์แบบ บนเวทีชีวิตเธอก็ทำหน้าที่ได้อย่างสมบูรณ์ไม่แพ้เวทีนักร้อง...
พี่ปุ๊บอกเล่าเรื่องราวในอดีตให้ฟังเหมือนเราได้กลับไปอยู่ในยุค 2499 อันธพาลครองเมืองอีกครั้ง.....จบการสัมภาษณ์ผมและทีมงานร่ำลาพี่ปุ๊ พี่แหวนด้วยความเคารพ พี่ปุ๊มอบหนังสือที่แกเขียนพร้อมลายเซ็นให้ผมเป็นที่ระลึก ซึ่งผ่านมาหลายปีผมยังคงเก็บไว้และจดจำหนังสือเล่มนั้นได้ดี “เดินอย่างปุ๊”
สิ่งที่เกิดขึ้นในวันนั้นสำหรับผมมันเหมือนครูที่ไม่ได้อยู่ในโรงเรียนครับ...พี่ปุ๊สอนให้ผมผมรู้จักแยกแยะคำว่า นักเลงที่น่าเกรงขามและน่านับถือ กับจิ๊กโก๋อันธพาลที่คอยเกะกะระรานผู้คนไปเรื่ิอยๆ... และเหตุการณ์นี้มันก็ยังสอนผมให้รู้จักความแตกต่างระหว่างคำว่า มืออาชีพกับมือสมัครเล่น ซึ่งผมบอกกับตัวเองว่าผมจะไม่ยอมเป็นมือสมัครเล่นอีกต่อไป คงกะพันจะต้องเป็นพิธีกรมืออาชีพที่ดี ด้วยการทำการบ้านทุกครั้งก่อนการทำงาน ไม่ว่าจะเป็นงานเล็กหรืองานใหญ่ ต้องศึกษาข้อมูลทุกอย่างล่วงหน้าด้วยตัวเองเท่านั้น....
และที่สำคัญที่สุดต้องรู้จักคัด กรั่นกรองข้อมูล ไม่เชื่อข้อเท็จจริงใดง่ายๆ อีก “เพราะอาชีพอาจไม่ได้สร้างมืออาชีพ แต่ความเคารพในอาชีพต่างหากที่จะทำให้คุณเป็นมืออาชีพ”
.......................................
(หมายเหตุ แบบว่า...มืออาชีพ(2) : คอลัมน์ ร้อยพบพันเจอกับมิสเตอร์บางอ้อ โดย... คงกะพัน แสงสุริยะ)



