บันเทิง

'ฮอร์โมน'แรงทะลุเป้าเงาสะท้อนตัวตนวัยโจ๋

'ฮอร์โมน'แรงทะลุเป้าเงาสะท้อนตัวตนวัยโจ๋

20 ก.ค. 2556

'ฮอร์โมน'แรงทะลุเป้า เงาสะท้อนตัวตนวัยโจ๋ : เบญจภรณ์ อำไพรัตนพล/ขวัญเรียม แก้วสุวรรณรายงาน

              ความแรงของละครซีรีส์เรื่อง "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น" ค่าย "จีทีเอช" ทางช่อง "จีเอ็มเอ็มวัน" เรื่องราวสะท้อนชีวิตของวัยรุ่นของเด็ก 9 คน วิน ("พีช" พชร จิราธิวัฒน์) ของขวัญ ("แพทตี้" อังศุมาลิน สิรภัทรศักดิ์เมธา) ต้า (กันต์ ชุณหวัตร) หมอก ("ไมเคิล" ศิรชัช เจียรถาวร) ภู ("มาร์ช" จุฑาวุฒิ ภัทรกำพล) เต้ย ("ปันปัน" สุทัตตา อุดมศิลป์) ดาว ("ฝน" ศนันธฉัตร ธนพัฒน์พิศาล) ไผ่ ("ต่อ" ธนภพ ลีรัตนขจร) และ สไปร์ท ("เก้า" สุภัสสรา ธนชาต)
 
              กระทั่งมีกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับพฤติกรรมของกลุ่มวัยรุ่นในซีรีส์เรื่องนี้ ทั้งใน แง่บวก และ แง่ลบ หลายฝ่ายในสังคมเป็นห่วงเรื่องการมีพฤติกรรมเลียนแบบ หรือยึดถือเป็น "ไอดอล" ที่อาจเกิดขึ้นได้ หากกลุ่มวัยรุ่นดูอย่างไม่พิจารณาให้ถี่ถ้วน
 
              โดย ทรงยศ สุขมากอนันต์ หรือ "ย้ง" ผู้กำกับซีรีส์เรื่องนี้ กล่าวว่า กระแสตอบรับที่ผ่านมาถือว่า เกินความคาดหมายไปมาก ตอนแรกคิดว่าผลกระทบจากคนดู และสังคมจะถูกปิดกั้น เรื่องราวที่ต้องการจะพูดตรงๆ และแรงๆ มากกว่านี้ แต่กระแสตอบรับ กลับตรงกันข้าม
 
              "สิ่งที่ผมได้รับคือ ไม่ว่าจะเป็นผู้ใหญ่ที่มีฐานะเป็นพ่อแม่ หรือคุณครู มีความเข้าใจในเจตนาของเรื่องที่เราต้องการจะสื่อสารถึง ในการทำซีรีส์เรื่องนี้ ทั้งความสัมพันธ์ครอบครัว กับความเป็นวัยรุ่น แต่ตอนนี้สิ่งที่เป็นห่วงกลับเป็นห่วงคนดูที่เป็นกลุ่มเด็กวัยรุ่น เขาอาจจะมีมุมมองความคิดว่า อยากเอาตัวละครเหล่านี้เป็นไอดอล แต่ผมอยากจะบอกว่า เราทำซีรีส์ออกมา เพราะเรารักความเป็นวัยรุ่นของตัวเอง"
 
              "และรักความเป็นวัยรุ่นของน้องๆ เราเห็นใจ และเข้าใจว่าสิ่งที่วัยรุ่นต้องเผชิญหน้าคืออะไร ที่จะทำให้เกิดความสับสนว้าวุ่นใจ ผมอยากให้น้องๆ ดูละครซีรีส์เรื่องนี้แล้วกลับมารักตัวเองให้มากๆ ดูแลความเป็นวัยรุ่นของเราให้ดี ผมไม่รู้หรอกว่าหลังจากดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว น้องๆ ควรจะใช้ชีวิตของตัวเองต่อไปอย่างไร เพราะเราทุกคนมีชีวิตเป็นของเราเอง เพราะฉะนั้นคนที่จะบอกได้ดีที่สุดคือตัวของน้องๆ เอง" นายทรงยศกล่าว
 
              อีกหนึ่งตัวละครในเรื่องคือ "สไปร์ท" กำลังกลายเป็นที่พูดถึงมาก เนื่องจากเป็นตัวละครที่เป็นตัวแทนของเด็กวัยรุ่น ที่อาจจะมีมุมมองกับเซ็กส์กับความรักในด้านบวก สุภัสสรา หรือ เก้า นักแสดงในบทนี้กล่าวว่า ที่ผ่านมาสังคมไทยอาจจะปิดในเรื่องเพศ แต่ยุคสมัยทำให้ความคิดของวัยรุ่นเปลี่ยนไป เป็นเรื่องที่ห้ามไม่ได้
 
              "ตัวละครของสไปร์ท จะต้องการสื่อถึงเด็กวัยรุ่นที่มีความคิดในเรื่องของเพศ และความรักในอีกมุมมองหนึ่งที่เปิด แต่สไปร์ทจะสอนในเรื่องของการมีเซ็กส์ที่จะต้องมาควบคู่กับการป้องกัน และเด็กที่มีความคิดอย่างสไปร์ท ในซีรีส์เรื่องนี้จะบอกด้วยตัวเองอยู่แล้วว่า ถ้าคิดแบบนี้จะส่งผลยังไง ไม่ได้บอกว่าการกระทำเหล่านี้ ถูก หรือ ผิด แต่ในอนาคตวันหนึ่งที่เรารักใครจริงๆ แล้วเราอยากให้สิ่งที่มีค่า และให้ความรักของเราไป แต่ผลสุดท้ายคือเขาอาจจะไม่ได้รับสิ่งเหล่านั้นกลับมา ซึ่งมันเป็นบทสรุปที่เห็นได้ชัดเจน" สุภัสสรากล่าว
 
              สาวมั่นในบทของ "สไปร์ท" ระบุว่า จากกระแสตอบรับที่เข้ามา ผู้ใหญ่ที่ได้ดูจะเข้าใจ พร้อมยอมรับว่า สิ่งที่รู้สึกเป็นห่วง คือ เด็กและเยาวชน ที่อาจจะดูเพื่อความสนุก โดยไม่ทันได้คิดตาม ว่าสิ่งที่ได้รับคืออะไร เนื่องจากเด็กและเยาวชนสมัยใหม่ มีความคิดเป็นของตัวเอง อยากฝากให้ดูซีรีส์ หรือดูสไปร์ทแล้วเอาสิ่งที่ตัวละครทำ กับสิ่งที่เขาได้รับ กลับไปย้อนดูตัวเอง เอาไว้ใช้เตือนใจตัวเองจะดีกว่า
 
              ในส่วนของ ธนภพ หรือ ต่อ ผู้รับบท "ไผ่" เด็กวัยรุ่นเลือดร้อน ชอบท้าตี ท้าต่อย กล่าวว่า ไม่อยากต่อว่าเด็กหรือเยาวชนที่คิดจะเอา "ไผ่" เป็นไอดอล แต่อยากเตือนสติว่า เวลาดูซีรีส์เรื่องนี้แล้ว ให้มองกว้างๆ อย่ามองมุมแคบแค่ฉากหรือซีนที่ถ่ายทำออกมา ในฉากชกต่อยเท่านั้น
 
              "ความเป็นวัยรุ่นของไผ่ มีเรื่องของการกระทำที่สื่อ ถึงการปกป้องศักดิ์ศรี และมีเหตุผลเข้ามา อยากให้มองแง่บวกมากกว่าแง่ลบ อยากให้ดูและคิดตาม ไม่อยากให้มองว่า ตัวละครตัวนี้จะทำให้สังคมยิ่งแย่ หรือไม่ดี เพราะมีเรื่องของความสัมพันธ์ในครอบครัว เรื่องที่พ่อไม่เข้าใจลูก และไม่เปิดใจคุยกัน ส่วนใครที่คิดว่าเรื่องราวอาจจะรุนแรงเกินไป ผมอยากให้เปิดใจมองว่า สังคมปัจจุบันนี้มีเหตุการณ์เหล่านี้เกิดขึ้น ผมไม่อยากให้ทุกคนปิดตาตัวเอง อย่าดูแค่ซีนที่มีฉากชกต่อยรุนแรง เพียงไม่กี่ฉาก แล้วตัดสินว่าไม่ดี
 
              หากวัยรุ่นที่ดูซีรีส์เรื่องนี้แล้วเอาไผ่เป็นไอดอล ไปชกต่อย ผมจะรู้สึกเสียใจมาก เพราะสิ่งที่ต้องการจะบอก คือตัวละครของไผ่ ไม่เคยไปทำร้ายใครก่อน สิ่งที่ทำคือภาพสะท้อนที่มีเส้นบางๆ กัน เพื่อแสดงให้เห็นความใกล้เคียงของคำว่าศักดิ์ศรี และความรุนแรง นี่คือสิ่งที่ต้องการบอกต่อ อยากให้ทุกคนเปิดใจรับ และคิดตามอย่างมีสติและใช้เหตุผล" ธนภพกล่าว
 
              ทั้งนี้ ซีรีส์ "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น" ออกอากาศมาแล้ว 8 ตอน จากทั้งหมด 13 ตอน โดยมีเนื้อเรื่องอีก 2 ตอนพิเศษ และจะปิดซีซั่นตอนสุดท้ายในวันที่ 24 สิงหาคมนี้
 
              ขณะเดียวกัน ผศ.ดร.อุษณีย์ อนุรุทธ์วงศ์ ผู้อำนวยการศูนย์ส่งเสริมเด็กที่มีความสามารถพิเศษ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ (มศว) กล่าวถึงซีรีส์สุดฮอตว่าก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าไม่ได้วิจารณ์ในฐานะผู้ชม เพราะยังไม่ได้ชมซีรีส์เรื่องนี้ แต่โดยหลักการแล้วในชีวิตจริงทุกยุคทุกสมัยต้องมีคนดี คนไม่ดี สื่อมีหน้าที่สำคัญให้ความรู้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มเยาวชน ที่ผ่านมามีเยาวชนจำนวนมากที่บริโภคสื่อไม่เหมาะสม ยกตัวอย่างที่เห็นชัดเจน คือในหน้าหนังสือพิมพ์ในหลายประเทศจะไม่ปรากฏภาพศพที่ถูกฆ่าปาดคอ สภาพศพดูไม่ได้ ส่วนในภาพยนตร์หาชมได้ยากมากสำหรับฉากภรรยาหลวงตบตีภรรยาน้อย นางร้ายตบนางเอก แต่ประเทศไทยเหตุการณ์ไหนรุนแรงนำเสนอทุกอย่าง และนำเสนอติดต่อกันด้วย เช่น ละครไทยนางร้ายต้องตบนางเอกทุกเรื่อง
 
              "ข่าวนักศึกษาอาชีวะทะเลาะวิวาทก็นำเสนอบ่อยครั้งจนกลายเป็นเรื่องชินชา ดิฉันเคยคุยกับผู้บริหารสถาบันอาชีวศึกษาแห่งหนึ่งถึงประเด็นทำอย่างไร จึงจะหยุดพฤติกรรมชอบทะเลาะวิวาทได้ ผู้บริหารตอบว่า เดี๋ยวพอเขาโตไปก็หายเองละครับ ซึ่งดิฉันคิดว่าไม่ใช่คำตอบ สุดท้ายแล้วผู้จัดละครต้องตระหนักถึงสังคม ควรนำเสนอในแง่มุมของการสอน ต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดการยั่วยุ เพราะการกำหนดเรตผู้ชมก็ทำได้ยาก" ผศ.ดร.อุษณีย์กล่าว
 
              วัลลภ ตั้งคณานุรักษ์ เลขาธิการมูลนิธิสร้างสรรค์?เด็ก กล่าวว่า โดยหลักการแล้วเห็นด้วยกับสื่อที่ผลิตผลงานให้วัยรุ่นได้เกิดการเรียนรู้ด้วยตนเอง โดยส่วนตัวยังไม่เคยได้ชมซีรีส์เรื่องดังกล่าว แต่มีวัยรุ่นที่รู้จักกันบอกตนว่าให้ไปชมเผื่อจะเข้าใจวัยรุ่นมากขึ้น เพราะเรื่องราวที่เกิดขึ้นตรงกับการดำเนินชีวิตจริงของวัยรุ่นไทยมาก
 
              อย่างไรก็ตาม น.ส.ต๊อบ อายุ 18 ปี หนึ่งในผู้ชมซีรีส์ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น เล่าว่า ซีรีส์ดังกล่าวเป็นการสะท้อนเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับวัยรุ่น เนื้อหาจี้ตรงจุดความเป็นจริงหลายฉากบางตอนสอนแง่คิดแบบแยบยล ไม่ใช่มานั่งสอนแบบนี้ดี แบบนั้นไม่ดี เพราะความจริงวัยรุ่นทุกคนทราบอยู่แล้วว่าสิ่งไหนดี ไม่ดี แต่ยังทำเหมือนเดิม ซีรีส์ "ฮอร์โมน วัยว้าวุ่น" ถือเป็นการเตือนสติมากกว่า เช่น ตัวละครชื่อ "ดิน" หลอกตัวละครชื่อ "ดาว" ว่าตัวเองเป็นคนดี แต่แท้จริงแล้วไม่ใช่ มองว่าในชีวิตหากจะหาแฟนจะต้องศึกษาตัวตนที่แท้จริง โดยใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์

...............................

(หมายเหตุ : 'ฮอร์โมน'แรงทะลุเป้า เงาสะท้อนตัวตนวัยโจ๋ : เบญจภรณ์ อำไพรัตนพล/ขวัญเรียม แก้วสุวรรณรายงาน)