บันเทิง

เบื้องหลังการสร้าง 'pacific rim'

เบื้องหลังการสร้าง 'pacific rim'

14 ก.ค. 2556

บันเทิงต่างประเทศ : เบื้องหลังการสร้าง 'pacific rim' จากแนวคิดของ 'กิลเลอร์โม เดล โตโร'

 

                     ใกล้เข้าโรงภาพยนตร์ให้ได้ยลกันแล้ว สำหรับภาพยนตร์แอ็คชั่นไซไฟฟอร์มยักษ์ ที่เหล่ามนุษย์โลกต้องร่วมมือกันสร้างหุ่นยนตร์ยักษ์ เพื่อปราบเหล่าสัตว์ประหลาด จากรอยแยกมหาสมุทรแฟซิฟิค ใน "pacific rim" หรือในชื่อภาษาไทยว่า สงครามอสูรเหล็ก ที่ครั้งนี้ได้ กิลเลอร์โม เดล โตโร มากำกับการแสดง ร่วมเขียนบทและอำนวยการสร้างภาพยนตร์เรื่องนี้ โดยให้สัมภาษณ์ถึงการทำงานครั้งนี้ว่า

 

@ อยากทราบว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ เกิดขึ้นได้อย่างไร

                     กิลเลอร์โม เดล โตโร : เมื่อตอนเป็นเด็กผมชอบวาดรูปสัตว์ประหลาดและหุ่นยนต์ไว้ในสมุดโน้ต ทุกวันนี้ผมก็ยังวาดสิ่งเหล่านั้นลงในสมุดโน้ตอยู่ ผมอยากนำเสนอสิ่งที่ผมรักตอนเป็นเด็กผ่านมุมมองของผู้ใหญ่ ผมต้องทำให้สัตว์ประหลาด (ไคจู) เหล่านั้นเป็นสิ่งคุณไม่อาจเจรจาหรือทำลายมันได้ นอกจากคุณจะต้องเข้าไปในหุ่นยนต์และเผชิญหน้ากับมัน ภาพยนตร์เรื่องนี้จึงเต็มไปด้วยการผจญภัย เพราะตอนที่ผมเป็นเด็ก ผมหลงใหลงานของอเล็กซานเดอร์ คอร์ดา งานผจญภัยที่ยิ่งใหญ่ สวยงาม เต็มอิ่ม และมีสีสันตระการตา ผมเคยฝันว่าอยากเป็นคาวบอย โจรสลัด และรัฐบุรุษ และถ้าเป็นเรื่องนี้ผมก็ต้องอยากเป็นนักขับเยเกอร์”

 

@ ทำไมถึงเลือก ชาร์ลี ฮันแนม มารับบทนำ

                     กิลเลอร์โม เดล โตโร : ผมพบชาร์ลีตอนที่เรากำลังหานักแสดงใน hellboy 2 ผมชอบเขามาก ผมคิดว่าเขาเป็นนักแสดงที่มีความกระตือรือร้น น่าคบหา และจิตใจดี ตอนนั้นผมไม่ได้เลือกให้เขาใน hellboy 2 แต่ผมพูดว่า ‘ซักวันหนึ่งเราคงได้ทำงานร่วมกัน' พอถึงเวลาต้องหานักแสดงใน pacific rim ทางค่ายหนังถามผมว่าอยากให้ใครรับบท ราลีห์ เบกเค็ต ผมตอบทันทีว่า ชาร์ลี ฮันแนม แล้วหลังจากนั้นเราก็เสนอบทไปให้ชาร์ลี ที่ผ่านมาผมรู้ดี ว่านักแสดงชอบบทที่ซับซ้อนและตัวละครที่มีเบื้องลึก แต่บท ราลีห์ ไม่ใช่ตัวละครที่ซับซ้อนอะไร เขามีความอ่อนไหวและมีความเป็นวีรบุรุษอยู่ในตัวเองซึ่งชาร์ลีก็มีสิ่งนั้นอยู่ และนั่นคือเหตุผลที่ผมอยากให้เขามารับบทนี้

 

@ นอกจาก ชาลี แล้วยังเลือก ริงโกะ คิคูชิ มาเล่นเรื่องนี้ด้วยเพราะอะไร

                     กิลเลอร์โม เดล โตโร : สำหรับ ริงโกะ ผมสนใจในตัวเธอมาก เธอมีส่วนผสมที่เป็นเอกลักษณ์ของความเปราะบาง และแข็งแกร่งในเวลาเดียวกัน ผมรู้ดีว่าในหนังแอ็คชั่น หากพูดถึงนักขับผู้หญิง ส่วนใหม่มักนึกถึงหญิงสาวสุดเซ็กซี่ ที่ต้องเสื้อยืดเปียกๆ ทุกห้านาที หรือไม่ก็เป็นผู้ชายไปเลย แต่ผมอยากได้คนที่ทำให้ตัวละครให้มีความสมจริง เธอต้องให้ความรู้สึกที่แท้จริงและผมคิดว่า ริงโกะนี่แหละที่ใช่ ผมอยากให้เธอมีภูมิหลังที่สมจริง ไม่ใช่แค่ยัดเรื่องราวความรักเข้ามาเฉยๆ มีทางเลือกต่างๆ ซึ่งเกิดขึ้นด้วยความตั้งใจ และเธอเหมาะที่สุดที่จะแสดงมันออกมา

 

@ ทราบมาว่าภาพยนตร์เรื่องนี้ใช้ระบบดิจิตัลในการถ่ายทำแทนการใช้ฟิล์มแบบที่เคยทำมา เพราะสาเหตุใด

                     กิลเลอร์โม เดล โตโร: ในตอนแรกที่เราเปลี่ยนระบบการถ่ายทำเป็นแบบดิจิตัลเพราะเราจะทำหนังเรื่องนี้เป็นสามมิติ เพราะฉะนั้นเราเลยไปศึกษาระบบต่างๆ แล้วผมก็ชอบความสดของสี ที่ได้จากอีปิก (epic : กล้องสามมิติ) แต่การตอบสนองต่อสีของมันค่อนข้างแปลก อย่างพวกสีโทนน้ำเงินบางสีมันก็ออกมาเพี้ยนๆ ดังนั้นเราจึงต้องทดสอบมากกว่าปกติเพื่อหาโทนสีในหนัง แต่หลังจากที่เราตัดสินใจว่าจะไม่ถ่ายเป็นสามมิติแล้ว คือถ่ายทำปกติแล้วค่อยมาแปลงเป็นสามมิติในตอนท้าย ทำให้ผมได้เวลาถ่ายทำเพิ่มขึ้นอย่างน้อยสองวันเพราะเราไม่ต้องรอโหลดฟิล์ม

 

@ คุณสนใจเรื่องไหนมากกว่ากัน ระหว่างเรื่องหนังสัตว์ประหลาดยักษ์ กับเรื่อง “การล่อง” (drift) หรือการเชื่อมโยงจิตใจระหว่างนักขับซึ่งเป็นแนวคิดที่มีเอกลักษณ์มาก

                     กิลเลอร์โม เดล โตโร: แนวคิดเรื่องการเชื่อมโยงเป็นสิ่งแรกที่ผมเสนอ ความอันตรายอยู่ตรงที่ว่าคุณอาจนำแนวคิดนี้ไปใช้ในทางที่เป็นผู้ใหญ่มากกว่านี้หรือลึกซึ้งมากกว่านี้ แล้วมันจะกระทบต่อโทนเรื่องที่คุณต้องการเพื่อให้สัตว์ประหลาดยักษ์กับหุ่นยนต์ยักษ์อยู่ในจักรวาลเดียวกันกับแนวคิดนี้ได้ และผมอยากให้โทนหนังสมดุล เพื่อจะได้มีความเป็นลูกผสมอยู่ในหนังด้วย แต่ถ้าโชคดีได้ทำหนังภาคสอง ผมก็คงอยากสำรวจเรื่องการเชื่อมโยงมากกว่านี้ แนวคิดเรื่องการเชื่อมโยงบางส่วนที่ทราวิสคิดไว้ให้หนังเรื่องนี้ไปอยู่ในหนังสือคอมิกประกอบหนัง มันอยู่ในนั้น รวมถึงเนื้อหาภาพเปลือยด้วย ผมพูดเสมอว่า ‘ตามความเห็นของผม มันเป็นหนังสำหรับเด็กนะ มันควรได้เรต pg สุดท้ายมันได้เรต pg-13 แต่จริงๆ แล้วผมทำหนังสำหรับเด็ก’ ...  มันส์พร้อมกันได้ 18 กรกฎาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์เท่านั้น