
หนังโรงเล็ก:'World War Z'ความหมายของSpace?
'World War Z'ความหมายของSpace? : คอลัมน์ หนังโรงเล็ก โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร
ช่วงระยะเวลา 3 เดือนที่ผ่านมา มีหนังอยู่ 5 เรื่องที่อยู่ในไซส์ใกล้กัน เล่นงานคนดูด้วยกลยุทธ์ไม่ต่างกันมาก นั่นคือความใหญ่และความเร็วแรงของการเล่าเรื่องและใช้ภาพ
หนังทั้ง 5 เรื่องที่ว่านี้ก็คือ Iron Man, Fast 6, Man of Steel, G.I.Joe 2, และล่าสุด World War Z ที่กรุยทางมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว เพราะภาพของหนังเรื่องนี้หลายภาพ ถูกคิดมาอย่างรอบคอบเพื่อให้คนจดจำเมื่อออกสู่สายตา อาทิ ฉากซอมบี้ปีนป่ายกำแพง หรือ ฉากคนหลุดจากเครื่องบินกลางอากาศ
ผมว่าหนังทั้ง 5 เรื่องนี้มีความเหมือนกันมากอยู่อย่างหนึ่งคือ การใช้แต้มต่อของความเป็น Spectacle ที่เล่นงานคนดูด้วยภาพและเสียง เพราะคนดูเสพติดประสบการณ์ตื่นเต้นไปโดยรู้ตัวและไม่รู้ตัว
เมื่อหนังคือประสบการณ์ ภาพยนตร์จึงขายประสบการณ์ให้เป็น “สินค้า” บางเรื่องก็ไม่ดี แต่บางเรื่องก็มีแง่มุม ตัว WWZ เองก็มีทั้งข้อดีและด้อย แต่มันก็เป็นหนังที่สอบผ่านสร้างความบันเทิงให้กับคนดู (คือสร้างโจทย์และตอบโจทย์ได้) ทีนี้ ใครจะมาแบบนี้และเล่นมุขนี้ ก็ต้องทำให้มากกว่า WWZ มากขึ้นไปอีก
แต่อย่างที่บอก ถ้าดูแล้วสังเกต บางทีเราก็เห็นบางมุมที่น่านำมาคิดต่อ และสำหรับผม ประเด็นที่น่าสนใจมากที่สุดคือ Space หรือ “พื้นที่” ที่กระจัดกระจายอยู่ในหนังเรื่องนี้ ทั้งๆ ที่พล็อตเกี่ยวกับ “ซอมบี้” จัดการมนุษย์นี่แหละ แต่กลายเป็นว่าพอนั่งดูที่สกาล่าและมีคนเยอะใช้ได้ ในรอบค่ำวันเสาร์ที่ผ่านมา ผมกลับสนใจ เรื่องหลบมุมอย่าง Space
มันมีอะไรบ้างล่ะ
...........................
1.”พ่อ-แม่-ลูก”
แบรด พิตต์ มารับบทเป็น “เจอร์รี่ เลน” คุณพ่อที่มีลูกสาวสองคนและเมียสุดที่รัก เขาเลือกทางของชีวิตใหม่ด้วยการที่ทำอะไรเล็กๆ และอยู่กับครอบครัว แต่ฉากในบ้านและในรถตอนต้นเรื่อง การจัดองค์ประกอบภาพในหนัง อยู่ในลักษณะเป็นกรอบ และกดดัน คำพูดของเขาค่อนข้างเป็นคำสั่งมากกว่าเป็นมิตร พวกเขาอยู่ใกล้ชิดกัน แต่ไม่ชิดใกล้จากคำพูด (บางที Space ของเขายังมีปัญหา)
2.”เครื่องบิน-เรือ-รถ”
ตัวละครหลักของหนังเรื่องนี้ ตกอยู่ท่ามกลาง “วงล้อม” ของความตายเข้าไปอีกเมื่อหนังเล่าเรื่องสั้นๆ ในตอนต้น เจอร์รี่ กับเพื่อนๆ และครอบครัว ต้องเข้าไปอยู่ในพาหนะต่างๆ ทุกรูปแบบ ทั้งเครื่องบิน เรือและรถยนต์ นี่เรายังไม่ได้นับรวมไปถึงการใช้ Space เพื่อประโยชน์สูงสุด นั่นคือต้อนตัวละครเข้าไปในมุมอับ เช่น ตึกสูง, ห้องที่ปิดตาย ฯลฯ แม้ Space เล็กแคบ แต่ครอบครัวนี้ดูแนบแน่นและอบอุ่นที่จะสู้ไปด้วยกัน (Space พวกเขาเริ่มดีขึ้น)
3.ชนชั้นหรือ Class
แม้มนุษย์จะเป็นสิ่งมีชีวิตและพูดผ่านสุนทรพจน์ในวาระต่างๆ เสมอว่า เราเป็นอะไรที่เท่าเทียมกัน ต้องรักกัน (ดังเช่นทหารบอกในหนังว่า จะต้องปกป้องประชาชน) แต่เราก็เห็นความจริงที่เจ็บปวดอย่างหนึ่งว่า ถึงที่สุดแล้ว ทหารก็ยอมีรับเองว่า วิธีเลือกคนรอดของพวกเขาในหนัง มีผลประโยชน์ต่างตอนแทน ฉากที่ขมขื่นก็คือ เมื่อเด็กๆ ถามว่าทำไมน้ำมีรสแปลกๆ ก็มีคนบอกว่าก็กรองมาจากน้ำมัน
ฉากที่ว่านี้ และสิ่งที่กล่าวถึง สะท้อนชัดเจนว่ามนุษย์เราต่างมี “พื้นที่” ไกลใกล้ แคบกว้าง ก็มาจากชนชั้นที่ตัวเองดำรงอยู่ด้วย ฉะนั้น ใครที่บอกว่า “ปรองดอง” โดยพฤติกรรมก็อาจจะไม่ได้ปรองดองจริง แต่กระเดียดไปทางตอแหล หรือถ้าในหนัง มีผู้นำและผู้นำบอกว่า ขอให้ทุกคนรักกัน มันก็อาจหมายความว่า ขอให้ประเทศรักพี่ชายของเธอ (Space มีปัญหามากถ้าเป็นมุมนี้)
4. จัดฉาก Mise En Scene
คำที่ว่านี้ ถ้าแปลแบบเข้าใจง่ายๆ ก็คือ การจัดฉากในหนังหรือในละครเวที ที่การจัดฉากนั้นๆ มีความหมายแฝงเร้นอยู่ อาจจัดเพื่อต้องการสื่อความนัย หรือความหมายสำคัญ (น่าจะอ่านออกเสียงว่า มิส ซองต์ เซน)
ตั้งแต่ในบ้าน ยาวไปจนถึงฉากในโรงพยาบาล และฉากเมียของเจอร์รี่อยู่ในเรือ หนังใช้การจัดฉากสองแบบหลักๆ คือ จัดโดยแย่ง space เพื่อแสดงพื้นที่อยู่ร่วม และจัดแบบตัดแยกคือ ทำให้เราเห็นว่าตัวละครล้วนโดดเดี่ยว ในหัวข้อนี้ Space แสดงค่าของ Relationship ของคนว่ามีปัญหา แต่ผมชอบที่แม้ตอนท้ายของหนังจะอ่อนลงไป แต่มันก็พยายามจะปลุกปลอบคนดูว่า ให้เรามีความหวัง เพราะความหวังนี่แหละที่ชนะ Space
เห็นแบรด พิทท์ เก่งกาจขนาดนี้ อยากท้าหนังเรื่องนี้ว่าถ้ามีภาค 2 ขอให้มาสืบเรื่อง “จำนำข้าว” !
.......................................
(หมายเหตุ 'World War Z'ความหมายของSpace? : คอลัมน์ หนังโรงเล็ก โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร)