ทีวีดาวเทียม'GMM Z'ในอุ้งมือทายาทอากู๋ | คมชัดลึก

               เกิดเป็นลูกนักธุรกิจใหญ่ คนดัง ใช่ว่าจะสุขสบาย

               ดังที่ ฟ้าใหม่ และ ระฟ้า วัย 27 และ 26 ปี บุตรชาย ไพบูลย์ ดำรงชัยธรรม ให้สัมภาษณ์ นิตยสาร Marketeer ฉบับ 159 ไว้ในคอลัมน์ GMM Z แซ่บพอไหม? ซึ่งกล่าวถึงภารกิจทางธุรกิจของพวกเขา

               "คำว่าเป็นลูกอากู๋ ตอนแรกก็กดดัน แต่ตอนนี้ไม่แล้วครับ (หัวเราะ) ก็ของของเราแล้วลงทุนขนาดนี้ ผมไม่สนใจแล้วล่ะครับว่าเป็นลูกใคร แต่จะทำอย่างไรกับงานที่ต้องรับผิดชอบมากกว่า เพราะเป็นอนาคตของเราด้วย"

               ขณะที่ฟ้าใหม่บอกว่า

               "ก็หนักใจเหมือนกันครับ แต่เมื่อได้สิทธิ์มาก็ต้องมีหน้าที่ควบคู่กันไป ก็ไม่ได้ตกใจ หรือมีอะไรที่ตื่นตระหนก เพราะรู้ตั้งแต่แรกแล้วว่าตรงนี้เป็นสิ่งที่ต้องทำ แน่นอนทุกคนกดดัน เพราะเป็นธุรกิจใหม่ เป็นการลงทุนที่ค่อนข้างสูงและท้าทาย เพราะได้ทำอะไรใหม่ๆ ได้เรียนรู้อะไรใหม่ๆ ค่อนข้างเยอะ ซึ่งก็เป็นเรื่องที่ดี ที่ได้โอกาสเรียนรู้งาน และได้หาประสบการณ์ตอนอายุน้อยๆ ผมว่าน่าจะดีกว่าไปลองผิดลองถูกตอนอายุ 46 ปีนะครับ"

               ปัจจุบัน ฟ้าใหม่ ดำรงชัยธรรม เป็นประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มงานแพลตฟอร์ม ขณะที่ "ระฟ้า" ผู้เป็นน้อง ดำรงตำแหน่งประธานเจ้าหน้าที่ปฏิบัติการ กลุ่มงานคอนเทนท์ แมเนจเม้นต์ บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท จำกัด

               ปีที่แล้ว บริษัท จีเอ็มเอ็ม แซท ของค่ายจีเอ็มเอ็ม แกรมมี่ จำกัด (มหาชน) ขายกล่องทีวีดาวเทียมได้ทะลุเป้า 1.5 ล้านกล่อง จากการได้สิทธิ์ในการถ่ายทอดฟุตบอลยูโร ขณะที่ปีนี้ไม่ได้สิทธิ์ดังกล่าว แต่ยังต้องทำยอดขายเพิ่มอีก 1.5 ล้านกล่อง และทำรายได้จากบริการช่องแซท เพย์ ทีวี (ดูเท่าไรจ่ายเท่านั้น) อีก 5 แสนราย

               แม้จะพลาดจากพรีเมียร์ลีก แต่บริษัทยังโฟกัสคอนเทนต์ฟุตบอลเป็นหลัก โดย ระฟ้า ยืนยันว่าบริษัทได้ซื้อลิขสิทธิ์ของลีกฟุตบอลระดับโลก ได้แก่ บุนเดสลีกา เยอรมนี, แชมเปี้ยนชิพ อังกฤษ, ลีกเอิง ฝรั่งเศส, เจลีก ญี่ปุ่น, โคปา เดอ บราซิล และอาร์เจนตินา ลีก ทั้งยังได้จับมือกับฟอกซ์ นำรายการมาใส่ในกล่องจีเอ็มเอ็ม แซท  27 ช่อง

               นอกจากคอนเทนต์ดังระดับโลกที่ซื้อมาแล้ว ยังมีคอนเทนต์ที่ผลิตเอง ฟ้าใหม่บอกว่าโจทย์คือจะบริหารจัดการคอนเทนต์ที่มีอยู่ในมือ ให้มีค่าสูงสุดผ่านทางช่องดาวเทียมของตัวเองได้อย่างไร

               ทั้งนี้ จีเอ็มเอ็ม แซท แบ่งกล่องออกหลายประเภท เพื่อตอบสนองลูกค้าหลายกลุ่ม กล่าวคือ 1) กล่องมินิ กลุ่มราคาถูกดูฟรีอย่างเดียว ไม่มีค่าใช้จ่ายรายเดือน 2) กลุ่มตลาดกลางคือกล่องสมาร์ท ดูฟรีบวกเติมช่องได้ 3) กล่อง HD ออกมาตอบสนองกลุ่มบน โดยกลุ่มที่ขายดีที่สุด คือกล่องสมาร์ท ส่วนกล่อง HD เพิ่งเปิดขายในเดือนพฤษภาคม

               ระฟ้าให้ความเห็นว่า ถ้าเข้ามาเปลี่ยนแปลงตลาดเพย์ทีวีนี้ได้ จะเป็นการพลิกโฉมธุรกิจทีวีในประเทศไทยทีเดียว และว่าตรงนี้คือหัวเลี้ยวหัวต่อ เป็นความกดดันด้วยว่าจะเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมผู้บริโภคได้แค่ไหน ประเทศที่พัฒนาแล้วช่องทางของเพย์ทีวีไปได้ดีมาก คิดเป็น 80-90 เปอร์เซ็นต์ บ้านเราตอนนี้มี 10-12 เปอร์เซ็นต์ จึงน่าจะยังมีช่องว่างอีกมาก 

               คงไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะให้ผู้บริโภคส่วนใหญ่ที่คุ้นชินกับการดูฟรี จ่ายเงินเพื่อชมรายการ

               นับเป็นโจทย์ที่ท้าทายทายาทอากู๋เป็นอย่างยิ่ง !

 

....................................................

(ทีวีดาวเทียม จีเอ็มเอ็ม แซท ในอุ้งมือทายาทอากู๋ : คอลัมน์คอฟฟีเบรก )