
คิดสวนทาง - อุปรากร
อุปรากร (opera) คือละครร้อง เป็นการรวมตัวของศิลปะหลายแขนง ได้แก่ ดนตรี วรรณคดี การละคร ศิลปะการออกแบบเครื่องแต่งกาย ศิลปะการออกแบบฉาก ศิลปะเชิงทัศนศิลป์ในรูปแบบต่างๆ ในทางดนตรีนั้นถือว่าการประพันธ์เพลงเพื่อประกอบการแสดงอุปรากรนั้นเป็น ศิลปะขั้นสูงที่สุด
การแสดงในรูปแบบ อุปรากร นั้น มีจุดกำเนิดในศตวรรษที่ 16 ที่เมืองฟรอเรนซ์ (Florence) ในประเทศอิตาลี และหลังจากความสำเร็จของอุปรากรเรื่อง “เทพออร์เฟ โอ” (La favola d’Orfeo) ซึ่งประพันธ์ดนตรี โดยเคลาดิโอ มอนเตแวร์ดี (Claudio Monteverdi) แล้ว ความนิยมในการชมการแสดงในรูปอุปรากรก็ได้แพร่ขยายไปอย่างรวดเร็วในทวีปยุโรป จนถึงปัจจุบันก็ยังมีการแสดงกันอยู่ตามที่ต่างๆ และตามฤดูกาลต่างๆ ในทวีปยุโรป นับว่าเป็น ศิลปวัฒนธรรมของชาวตะวันตกอย่างแท้จริง
แต่เมื่อพูดถึงประเทศสหรัฐอเมริกาแล้วเราจะไปนึกถึงดนตรีแจ๊ส บลูส์ คันทรี และในยุคปัจจุบันก็คงไม่มีใครไม่รู้จักดนตรีแนวแร็พ หรือ ฮิพฮอพ ส่วนวัฒนธรรมทางดนตรีของสหรัฐอเมริกาที่มีอิทธิพลไปทั่วโลกก็คือดนตรี ร็อกแอนด์โรลส์
ความสำเร็จในการสร้างงานในรูปแบบของมหาอุปรากรเพิ่งจะปรากฏผลงานขึ้นมาอย่างชัดเจนก็ในสมัยของเกอร์ชวิน ในมหาอุปรากรเรื่อง พอร์กกี้แอนด์เบส ปี ค.ศ.1935 และแทนที่งานด้านนี้จะพัฒนาต่อไป กลับกลายเป็นการค้นพบรูปแบบการแสดงละครร้องแบบใหม่ ที่เรียกว่า มิวสิคัล และกลายเป็นศิลปวัฒนธรรมเฉพาะตัวของคนอเมริกันไป เมื่อมีเทคโนโลยีการผลิตภาพยนตร์ ก็มีการถ่ายทำการแสดงในรูปแบบของมิวสิคัลเผยแพร่ออกไปทั่วโลกหลายเรื่อง ที่รู้จักกันดีเช่นเรื่อง An American in Paris, West Side Story, The Sound of Music ทำให้การแสดงในรูปแบบของ มิวสิคัล ได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางไปทั่วโลก ความนิยมในการชมการแสดงในรูปแบบมหาอุปรากร จึงจำกัดอยู่แต่ในผู้ที่สนใจในเรื่องศิลปวัฒนธรรมขั้นสูงหรือมีพื้นเพเป็นชาวตะวันตกโดยเฉพาะชาวยุโรปเท่านั้น ประชาชนทั่วไปไม่นิยมฟังและชมการแสดงสักเท่าไหร่เนื่องจากว่าฟังไม่รู้เรื่องและไม่รู้ที่มาที่ไป
อย่างไรก็ตาม การได้ชมได้ฟังอุปรากรดีๆ สักเรื่อง ก็ถือว่าเป็นการเปิดโอกาสให้ชีวิตได้สัมผัสกับพลังงานสร้างสรรค์อันยิ่งใหญ่ เพราะในการประพันธ์ผลงานไม่ว่าจะเป็นด้านวรรณคดีหรือในด้านดนตรี ผู้ประพันธ์จะทุ่มเทกำลังความคิดความสามารถลงไปในงานนั้นอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะด้านดนตรีนอกจากการประพันธ์ท่วงทำนองให้เข้ากับบทประพันธ์และอารมณ์ตามท้องเรื่องของตัวละครแต่ละคนแล้ว ยังมีเรื่องสุนทรียศาสตร์ทางดนตรีที่ต้องแสดงถึงลีลาการสอดคล้องสอดรับของแนวทำนองที่ใช้ในการขับร้องด้วย โดยเฉพาะแนว โซปราโน ซึ่งเป็นตัวเอกของเรื่อง ผู้ประพันธ์จะต้องประณีตวิจิตรบรรจงสร้างแนวทำนองที่สลับซับซ้อนสวยงาม และต้องใช้เทคนิคในการขับร้องขั้นสูงมาก มักจะเสนอความยากในการใช้พลังการขับ ร้องเสียงที่สูงมากๆ การไล่บันไดเสียงยากๆ ความแม่นยำของนักร้องและความสามารถในการถ่ายทอดอารมณ์ ยิ่งสร้างความบีบคั้นจนทำให้ผู้ชมถึงกับร้องไห้ตามไปด้วยก็ยิ่งเป็นตัวแสดงถึงความสำเร็จของอุปรากรเรื่องนั้นๆ
ก็นับว่าเป็นโชคดีที่พวกเราจะได้มีโอกาสชมการแสดงอุปรากรที่กรุงเทพฯ โดย คณะนักร้องโอเปร่าแห่งกรุงเทพมหานคร จะทำการแสดงอุปรากรเรื่อง “กระสุนปีศาจ” Der Freischutz โอเปร่า 3 องค์ บทประพันธ์ของ คาร์ล มาเรีย ฟอน เวเบอร์ คีตกวีชาวเยอรมันสมัยคลาสสิก ขึ้นที่หอประชุมใหญ่ ศูนย์วัฒนธรรมแห่งประเทศไทย ในวันที่ 12 และ 13 มิถุนายน 2552 เวลา 19.30 น ในการแสดงครั้งนี้ได้รับเกียรติจาก เจ. เดวิด แจ็กสัน วาทยกรชาวอเมริกันมาเป็นผู้อำนวยเพลง
เดวิด แจ็กสัน ทำหน้าที่เป็นวาทยกร ณ Metropolitan Opera ที่นิวยอร์กเป็นวาทยกรที่ได้รับการยอมรับอย่างสูงทั้งในสหรัฐอเมริกาและในทวีปยุโรป ท่านได้รับเชิญให้ไปอำนวยเพลงให้การแสดงอุปรากรครั้งสำคัญๆ ทั่วโลก และได้รับเกียรติให้เป็นวาทยกรของ Metropolitan Opera ถึง 6 ฤดูกาลติดต่อกัน ได้รับการยกย่องว่าเป็นวาทยกรที่ “สามารถเข้าใจดนตรีของ Mussorgsky ได้ดีที่สุด” ความสามารถพิเศษอีกอย่างคือ ท่านพูดได้ถึง 9 ภาษาและรู้สึกตื่นเต้นยินดีเป็นอย่างมากที่จะได้มาร่วมงานกับคณะนักร้องโอเปร่าแห่งกรุงเทพมหานครในครั้งนี้
ในโอกาสนี้สถานทูตอเมริกันจึงได้เชิญแขกผู้มีเกียรติและสื่อมวลชนเข้าไปที่บ้านท่านทูต อีริค จี. จอห์น และภรรยา โซเฟีย จอห์น เพื่อชมการแสดงคัดย่อบางตอนจากอุปรากรเรื่องดังกล่าวและเพื่อเป็นการเลี้ยงต้อนรับแนะนำ วาทยกรชาวอเมริกันคนดัง กับสื่อมวลชนด้วย ซึ่งก็เป็นความภาคภูมิใจของคนอเมริกันที่มีศิลปินที่สร้างงานอุปรากรที่มีชื่อเสียงระดับโลกแวะมาเยี่ยมเยือนที่กรุงเทพฯ
ในงานนี้เนื่องจากคีตกวีเป็นชาวเยอรมัน บทขับร้องจึงเป็นภาษาเยอรมัน แต่ทางผู้จัดก็ได้เตรียมการแปลเป็นภาษาไทยและอังกฤษ โดยทำเป็นสไลด์ขึ้นจอเพื่อให้ท่านผู้ชมสามารถติดตามเนื้อเรื่องและความหมายของบทเพลงที่ใช้ในการขับร้องได้ หรือจะติดต่อสอบถามไปที่สำนักงานอีบีคุส โทร.0-2932-9208 หรืออีเมล [email protected] <mailto:[email protected]> และที่ไทยทิกเก็ตเมเจอร์ทุกสาขา
และที่อยากจะกล่าวถึงอีกเรื่องก็คือความพยายามของครูพจีสวาท โซฟี ธนะปุระ ในการผลักดันให้เกิดคณะนักร้องโอเปร่าไทย มีวัตถุประสงค์เพื่อให้การศึกษา ให้โอกาสและให้ประสบการณ์ในการแสดงแก่นักร้องชาวไทย ซื่งเป็นเวทีที่สำคัญให้ผู้ที่ได้ศึกษามาทางด้านนี้ได้มีโอกาสทำงานตรงกับสายที่เรียนมา เพราะที่เป็นอยู่ในขณะนี้นักศึกษาดนตรีที่เอกการขับร้อง ซึ่งจะต้องเรียนการขับร้องแบบโอเปร่า เมื่อจบออกมาก็ไม่มีเวทีให้แสดงจึงจำเป็นต้องเปลี่ยนเข็มไปทำอย่างอื่นกันเป็นจำนวนมาก ลำพังเปลี่ยนไปขับร้องเพลงแนวอื่นก็พอรับได้เพราะมีพื้นฐานที่ดีอยู่แล้ว แต่ก็ได้ยินข่าวว่าไปไกลถึงเปิดร้านอาหาร ร้านขายเสื้อผ้า เป็นพนักงานต้อนรับของสายการบินก็มีอยู่หลายคนทีเดียว
สรุปว่าอยากจะขอประชาสัมพันธ์ให้ไปชมการแสดงกันเยอะๆ และไม่ต้องเตรียมกระไดไปด้วย เพราะแค่ได้ฟังเสียงโซปราโนเพราะๆ จากตัวเอกของเรื่องก็คุ้มแล้ว
"จิรพรรณ อังศวานนท์"