บันเทิง

เล่นหูเล่นตา:เรื่องเล่าเช้าไปมะ!

เล่นหูเล่นตา:เรื่องเล่าเช้าไปมะ!

03 มิ.ย. 2556

เรื่องเล่าเช้าไปมะ! : คอลัมน์ เล่นหูเล่นตา โดย... เจนนิเฟอร์ คิ้ม


          'คุณพี่...ไหวมั้ยค้า...า' 

          เสียงสีเกดมาปลุกถึงคอนโดตอนตี 4 เศษๆ...ความทรงจำสุดท้ายก่อนทิ้งหัวลงหมอนตอนตีหนึ่งครึ่งคือ อาการแสบหน้าอกเพราะกรดไหลย้อน แถมท้องอืดลมสว้าน (ลมแดกขึ้นอันเป็นอาการของไข้หนักจวนจะสิ้นใจ) มาฟีเจอริ่งอีก (อาการของคนแก่ชัดๆ) นอนกลิ้งไปมาเหมือนนางผีเสื้อสมุทรหงุดหงิด เพราะหาพระอภัยมณีไม่เจออยู่ครึ่งชั่วโมง... ไม่ไหวแล้ว! ต้องลุกขึ้นมากินยาแล้วข่มตาหลับต่อ อือ... ยังไม่หาย ไม่ตาย และไม่ดีขึ้น! แถมเนื้อเพลงที่เพิ่งท่องจำก็วิ่งวนไปมาในหัวเหมือนข้อความเอสเอ็มเอสที่ขึ้นบนหน้าจอทีวีกวนสายตาไปมาแบบนั้น... ทำไมมันต้องมาเป็นเอาวันนี้ด้วยฟระ? วันอื่นนอนพุงอืดหลับปุ๋ยเป็นแม่หมูในคอก วันนี้มันอะไรกันนักหนา ไม่รู้ผล็อยหลับไปตอนไหน ตื่นอีกทีก็ตอนได้ยินเสียงคุณสีเกดผู้จัดการมาปลุกนั่นแหละ
 
          ตี 4 เศษๆ คุณสีเกดขับรถบนถนนโล่งและมืด มีเพียงแสงไฟตามเสาไฟริมถนนส่องนำทาง (น่าถือถุงโชคดีลงไปยืนจริงๆ)
 
          "ชอบถนนเวลานี้จริงๆ..."
 
          นางพึมพำกับตัวเองในขณะที่ฉันสะลึมสะลือสะโหลสะเหลกับแสงไฟมะลังมะเลืองแบบนั้น ด้วยความเร็วรถราวกับฉันเจ็บท้องคลอดต้องรีบไปให้ถึงโรงพยาบาล คุณสีเกดพามาถึงตึกมาลีนนท์ ถนนพระราม 4 ภายใน 15 นาที... เงียบสงัด... ทีมงานจากเอไทม์รอรับอยู่ที่ลานจอดรถพาฉันขึ้นไปบนชั้น 10... เปิดประตูห้องแต่งตัวเข้าไปเห็นผู้ชายคนหนึ่งกำลังนั่งอ่านสคริปท์รายการอย่างใจจดใจจ่อมีผ้าขนหนูคลุมไหล่ให้ช่างผมจัดแต่งทรงให้ ฉันส่งเสียงพร้อมยกมือไหว้ชายคนนั้น... "สวัสดีค่ะพี่ยุทธ" พี่ยุทธมองเงาฉันในกระจกแล้วตอบกลับมาว่า "มาแต่เช้าเลย" จากนั้นฉันก็เข้าไปในห้องส่งที่ถ่ายทำรายการ มีกล้องตัวใหญ่ๆ ที่เอาไว้ถ่ายทอดสดตั้งอยู่กลางห้อง 3-4 ตัว... โหย! รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันที ไอ้กล้องตัวใหญ่หมุนไปมาเหล่านี้มันสามารถส่งภาพไปให้คนดูทั่วโลกได้... มันน่าทึ่งซะจริงๆ... แวบหนึ่งในความคิดว่า... นี่ฉันกำลังจะถูกถ่ายทอดสู่คนดูทั่วประเทศทางช่อง 3 ผ่านกล้องหลายๆ ตัวนี้เหรอ... ไฮโซ! มันน่าตื่นเต้นดีมั้ยล่ะ! ถ้าไม่ใช่เพราะเสียงที่มีและผู้ชมผู้ฟังให้ความเมตตาป่านนี้ฉันคงลวกก๋วยเตี๋ยวหรือขายน้ำเต้าหู้ ทอดปาท่องโก๋ อยู่ข้างถนนไหนแล้วก็ไม่รู้... นึกได้ฉันก็ยกมือท่วมหัวขอบคุณคนดูที่ทำให้ฉันได้มายืนอยู่ตรงนี้...

          เรื่องเล่าเช้านี้ ทางช่อง 3 ใครๆ ก็รู้ว่าเรตติ้งกระฉูดแค่ไหน ทีมงานก็ช่างใจดีเนอะ ให้อีเจ๊กนี่มาขายของได้ถึงข้างใน ฉันรู้สึกเหมือนตัวเองเป็นแม่ค้าขายบะจ่าง กุยช่ายที่หิ้วถังอะลูมิเนียมมา 2 ใบ แล้วเดินเข้ามาขายของในตึกใหญ่ที่สำคัญที่สุดตึกหนึ่งในประเทศไทย ... ทีมงานเครื่องเสียงจาก Keep in Touch ที่จะดูแลฉันในเรื่องคิว แสงสี และเสียง ตั้งแต่ออกรายการต่างๆ ไปจนถึงบนเวทีคอนเสิร์ต ต้องแหกขี้ตาตื่นกันมาตั้งแต่ตี 3 เพื่อตั้งเครื่องเสียงและเช็กระบบก่อนที่ฉันจะมาซ้อมตอนตี 5 แต่ละคนไม่มีทีท่าของความง่วงหงาวหาวนอนผิดกับอีสมาชิก "วงทาเคชิ" นักดนตรีประจำตัวของโก้ มิสเตอร์แซกแมน ที่ฉันยืมตัวมาใช้ภายใต้การควบคุมวงของ "หนึ่ง" (จักรวาล เสาธงยุติธรรม) โปรดิวเซอร์และผู้ควบคุมวงงานคอนเสิร์ตตัวพ่ออีกคนของเมืองไทย... พวกทาเคชิเหมือนผีที่ขุดขึ้นมาในหนังซอมบี้ พวกมันดูซีดและอิดโรย เพราะนอนมาคนละ 2-3 ชั่วโมง ยกเว้น "ขงเบ้ง" มือกลองที่ตาค้างเปิดเครื่องสแตนด์บายไว้ตลอด 24 ชั่วโมง
 
          "ไอ้เบ้งมันยังไม่ได้นอนเลยพี่ไก่"
 
          "อีจิ๊บ" มือเบสหัวหน้าวงชี้ไปทางขงเบ้งที่ยืนตาแข็งอยู่ ณ จุดจุดนี้ถ้าฉันกระโดดถีบมัน มันจะไม่รู้สึกอะไร เพราะมันมึน! "หนึ่ง" ควบคุมทั้งวงและฉันให้ซ้อมไปในทางเดียวกัน ตอนแรกก็สะเปะสะปะทั้งวงและนักร้อง เพราะเพิ่งซ้อมกันครั้งแรกมีเวลาให้แค่ 15 นาที เดี๋ยวเขาจะต้องใช้ห้องในการออกอากาศเริ่มรายการ ความกดดันมันอยู่ตรงนี้แหละค่ะคุณตำรวจ! เพลงอยากหยุดเวลา+ไกลแค่ไหนคือใกล้+ไม่ยอมหมดหวัง จับมารวมกันใน 7 นาที สัดส่วนต่างๆ ในการเชื่อมเพลงทั้ง 3 จึงเป็นเรื่องสำคัญที่ฉันต้องจำให้ได้ในเวลาสั้นๆ ที่มีอยู่นั้น ไม่มีข้อแก้ตัวในการนอนน้อย ซ้อมน้อย หรือเสียงไม่มา เพราะนี่คือรายการ "สด" ซ้อมไป 2-3 ครั้งก็เริ่มเข้าขากัน "หนึ่ง" ถอนหายใจโล่งอก! ... ฉันกลับไปแต่งตัวที่ห้อง ข้าวตูช่างแต่งหน้าเจ้าประจำ และพี่นัท ช่างผมที่มาแทน อ.เอก ซึ่งไม่เคยว่างเลยช่วงนี้ เริ่มต้นโมหน้าและหัวฉันอย่างชิลๆ เพราะมีเวลาเหลือก่อนเข้ารายการร่วม 3 ชั่วโมง... ดูหน้าซีดๆ ของตัวเองในกระจกแล้วก็หัวเราะขึ้นมา "ใครเอาอีอึ้มนี่เข้ามานั่งจ้องหน้าฉันในห้องนี้วะ?" ถ้ามีมะพร้าวอ่อนสักลูกคงจะดี เฉาะล้างหน้าอีเจ๊นี่ก่อนแต่งเครื่องสำอางและรองพื้นจะเกาะตัวดีมาก!
 
          "แต่งให้สวยๆ เลยนะ"
 
          เสียงพี่ยุทธดังขึ้นมาจากนอกห้อง ฉันนึกในใจว่า "อือ... ช่าย เดี๋ยวจะได้รดน้ำศพเลย" ระหว่างแต่งหน้าฉันก็ท่องเนื้อไปด้วย เรื่องเนื้อเพลงนี่ฉันกับพี่ตู่ นันทิดา ต้องแข่งกันเป็นแชมป์จำผิดจำถูก เอาท่อนนั้นมาโต๊ดท่อนนี้จนถึงขั้นแต่งเนื้อใหม่ก็ทำมาแล้ว... มันแก้ไม่หายจริงๆ ตอนซ้อมเป๊ะ ตอนจริงเละ! ( ตลอด) ... แอร์ในห้องแต่งตัวเย็นมาก เขาคงคิดไว้แล้วว่าช่างแต่งหน้าศพอีเจ๊นี่ต้องเร่งแอร์ให้เย็นจัดๆ เข้าไว้ ศพจะได้ไม่เน่า... นักร้องไม่ใช่นกเพนกวินนะเฟ่ย! แอร์จะเย็นไปหน่าย! ทีมงานเดินเข้ามาคุยเรื่องสคริปท์คำถามให้เรารู้ก่อนจะได้เตรียมคำตอบไว้ล่วงหน้า พอฉันเปลี่ยนชุดเสร็จสวมเครื่องประดับสวยและรวยและฟุ่มเฟือย (จากโอลิเวียร์ ไดมอนด์) ปีนขึ้นบนส้นสูงหนามสีดำสูง 6 นิ้ว แค่ยืนนิ่งๆ ก็ปวดหมอนรองกระดูกละกรู! เข้าห้องถ่ายทำได้... เขาให้พวกเราไปยืนสแตนด์บายรออยู่ก่อนประมาณ 2-3 ช่วงโฆษณา พวกเราก็ยืนฟังพี่ยุทธ พี่หนุ่ย และน้องไบรท์ว่าข่าวกันไป ตื่นเต้นอีกแล้ว! นี่ฉันได้มายืนดูเขาจัดกันสดๆ เลยนะเนี่ย วุ้ยไม่ธรรมดา! พอเขาพักโฆษณา พวกเราก็ซ้อมๆ พอจะเข้าช่วงต่อไป ทีมงานก็จะทำมือหมุนๆ บอกว่าหมดเวลาซ้อม หุบปากดังงั่บ! กล้องตัดเข้าผู้ดำเนินรายการต่อไป ทำแบบนี้อยู่ 2-3 ครั้ง ฉันมองนาฬิกาในห้องส่งตัวเลข 08.50 หลังโฆษณาตัวต่อไป ฉันจะเริ่มแสดงกับวงทาเคชิและหนึ่ง จักรวาล ตอนซ้อมเขาปิดไฟสลัวๆ พอเอาจริงเปิดสว่างโร่เห็นคน 30 กว่าคนจับจ้องมาที่นักร้องอ้วนตัวเมียในชุดสีดำรัดร่างเป็นบะจ่าง ถ้าหันหลังให้กล้องจะเห็นเหมือนฉันมีนมอีก 2 เต้าอยู่ข้างหลัง ชุดมันรัดง่ะ! ทำไงได้... ร้องไปก็เกร็งไป คนพวกนี้ก็จ้องกรูอยู่ได้ ระยะเผาขนแลบลิ้นออกไปจะโดนหน้าพวกเขาแล้ว... จบเพลง พี่ยุทธ พี่หนุ่ย และไบรท์ เดินเข้ามาสัมภาษณ์จนจบรายการ ในที่สุดก็ได้ขายของงานคอนเสิร์ต 45 ปี เจนนิเฟอร์ คิ้ม วันที่ 27-28 กรกฎาคม 2556 รอยัล พารากอนฮอลล์ บัตร 3,000-2,500-2,000-1,500-1,200 บาท

          เฮ้อ...ค่อยหายใจโล่งอกหน่อย ตอนร้องอยู่ออกอากาศสดๆ ขอบอกเลยว่า...มันแน่นอก...เจงๆ!
.......................................
(หมายเหตุ 'คุณพี่...ไหวมั้ยค้า...า' : คอลัมน์ เล่นหูเล่นตา โดย... เจนนิเฟอร์ คิ้ม)