เดินหน้าทีวีดิจิตอล'สยามสปอร์ตนิวส์' | คมชัดลึก

          พร้อมพรัก! สำหรับคณะกรรมการกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์ (กสท.) เผยขั้นตอนการเปิดประมูลทีวีดิจิทัล 24 ช่องประเภทบริการธุรกิจ
 
          กระบวนการนับจากนี้ไป หลังจาก บอร์ดใหญ่ กสทช. เห็นชอบ ร่างประกาศ หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการประมูลคลื่นความถี่ เพื่อให้บริการโทรทัศน์ในระบบดิจิตอล ประเภทบริการทางธุรกิจระดับชาติ พ.ศ... ได้เผยแพร่ร่างประกาศฯ ผ่านเว็บไซต์เป็นเวลา 15 วัน  จากนั้นใช้เวลา 1 เดือนเปิดรับฟังความคิดเห็นทั้งทางเว็บไซต์และเปิดเวทีสาธารณะ ในช่วงเดือนมิถุนายนนี้
 
          สำนักงาน กสทช. รวบรวมข้อมูล นำมาปรับปรุงร่างฯ เพื่อเสนอให้บอร์ด กสท. และบอร์ดใหญ่ กสทช. พิจารณาในเดือนกรกฎาคมนี้  หลังจากบอร์ด "เห็นชอบ" ร่างฯ จะส่งไปประกาศในราชกิจจานุเบกษา ให้มีผลบังคับใช้
 
          จากนั้น กสท.จะออกหนังสือเชิญชวน (information memorandum :IM) ได้สิงหาคม โดยใช้เวลาประมาณ 1 เดือน เปิดรับสมัครผู้สนใจประมูล และตรวจสอบคุณสมบัติผู้สมัครร่วมประมูล คาดจะเปิดประมูลราวเดือนกันยายนนี้ 
 
          ในชั่วโมงนี้ เราจึงได้เห็นความเคลื่อนไหวของกลุ่มทุนต่างๆ ทั้งในฝั่งบรอดแคสติ้ง โทรคมนาคม คอนเทนท์ โปรวายเดอร์ และกลุ่มอื่นๆ ที่สนใจ เตรียม "จัดทัพ"  จับมือพันธมิตร ลงสนามแข่งขันชิงใบอนุญาต "ทีวีดิจิตอล" ประเภทธุรกิจ 24 ช่อง
 
          ล่าสุดคือ "กลุ่มสามารถ" ของตระกูล "วิไลลักษณ์" ในฝั่งโทรคมนาคม จับคู่กับ "สยามสปอร์ต" ของ ระวิ  โหลทอง เตรียมประมูลทีวีดิจิตอลช่องธุรกิจเป็นที่เรียบร้อยแล้ว
 
          วัฒน์ชัย วิไลลักษณ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กลุ่มสามารถ จะจับมือกับสยามกีฬา เข้าประมูลครั้งนี้ จำนวน 1 ช่องเพื่อนำมาทำช่องข่าวกีฬา พร้อมทั้งเตรียมยื่นขอใบอนุญาตประเภทโครงข่ายด้วย
 
          ปลายปี 2556 บริษัทสามารถฯ จะผลิตกล่องรับสัญญาณเพื่อการรับชม โดยจะขายในราคากล่องละ 900 บาท ส่วนขนาดตลาดเครื่องรับสัญญาณนั้น คาดว่า จะมีความต้องการมากถึง 30 ล้านเครื่อง ซึ่งบริษัทคาดว่า จะมีส่วนแบ่งในตลาด 20% หรือ 4-5 ล้านเครื่อง ภายใน 3 ปีจากนี้ ส่วนในปีแรกจะมียอดขายกล่องประมาณหลักแสนเครื่องเท่านั้น
 
          นอกจากนี้ ทวี อุดมกิจโชติ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สามารถ วิศวกรรม ในเครือบริษัท สามารถ คอร์ปอเรชั่น ได้เล่าว่า ได้เริ่มศึกษาโอกาสทางธุรกิจทีวีดิจิตอลมากว่า 2 ปี กลุ่มสามารถ วางแผนจะขอใบอนุญาตโครงข่าย (Mux) จาก กสทช. ด้วยเช่นกัน เนื่องจากมีความพร้อมด้าน Facility หรือเสาและอุปกรณ์ส่งสัญญาณอยู่แล้ว หากได้รับใบอนุญาตโครงข่ายจะใช้เวลาในการติดตั้งอุปกรณ์ดิจิตอลในเสาส่งสัญญาณเดิมราว  180 วันเท่านั้น 

          สำหรับการเข้าร่วมประมูลทีวีดิจิตอลประเภทช่องข่าว กลุ่มสามารถเห็นว่า มีราคาตั้งต้นประมูล "ไม่สูง" เริ่มที่ช่องละ 220 ล้านบาท  โดยเป็นพันธมิตรกับ "สยามกีฬา"  เพื่อทำช่องข่าวกีฬา ซึ่งกลุ่มสามารถจะรับผิดชอบด้านเทคโนโลยี ขณะที่สยามกีฬาบริหารด้านคอนเทนท์รายการ
 
          ด้าน อดิศัย วารินทร์ศิริกุล กรรมการผู้จัดการบริษัท สยามสปอร์ต ซินดิเคท จำกัด (มหาชน) ยอมรับว่า ที่ผ่านมา กลุ่มสามารถกับสยามกีฬา มีความร่วมมือกันภายใต้ บริษัท ไอ สปอร์ต จำกัด  โดยถือหุ้นรายละ 50% ซึ่งดำเนินการ  3 ช่องรายการกีฬา ทางทรูวิชั่นส์  ซึ่งภายใต้แผนการประมูลทีวีดิจิตอลครั้งนี้ จะเปิดรับพันธมิตรด้านการตลาดเข้ามาเป็น strategy partner  ในสัดส่วนการถือหุ้น 10%  เพื่อสร้างความแข็งแกร่งด้านกลยุทธ์การทำตลาดช่องทีวีดิจิตอล
 
          ความร่วมมือกันของสองค่ายนั้น ดำเนินมาตั้งแต่ปี 2550 ค่ายสยามกีฬาทีวี เปิดตัวต่อสาธารณชน ภายใต้การผลิตของ บริษัท สยามสปอร์ต เทเลวิชั่น จำกัด โดยมี บริษัท ไอ-สปอร์ต จำกัด บริษัทร่วมทุนระหว่าง บริษัท สยามสปอร์ต ซินติเคท จำกัด (มหาชน) และบริษัท สามารถ อินโฟ มีเดีย จำกัด เป็นผู้ดูแลบริหารจัดการออกอากาศผ่านทางเคเบิลทีวี ตลอด 24 ชั่วโมง
 
          จะเห็นได้ว่าสายสัมพันธ์ของกลุ่มธุรกิจตระกูล "วิไลลักษณ์" กับตระกูล "โหลทอง" นั้นทอดยาวนานมาหลายปีแล้ว
 
          ปัจจุบัน ค่ายสยามกีฬา มีความเชี่ยวชาญในคอนเทนท์กีฬาที่แข็งแกร่ง ที่สุดในประเทศไทย จึงเหมาะกับการทำช่องข่าวกีฬา 24 ชั่วโมง ซึ่งปัจจุบันสยามกีฬามีช่องรายการอยู่ในทรูวิชั่นส์ 3 ช่อง คือ สยามกีฬาทีวี ,ฟุตบอลสยามทีวี  และสตาร์ซอคเกอร์ทีวี
 
          นับตั้งแต่ 1 กรกฎาคมนี้ สยามกีฬาจะปรับคอนเทนท์  3 ช่องใหม่ ให้เหลือ 2 ช่อง คือ 1.ช่อง "สยามสปอร์ตนิวส์"  ที่จะปรับไปสู่แพลตฟอร์มทีวีดิจิตอล หากประมูลได้ 2.ช่องฟุตบอลสยามทีวี  และสตาร์ซอคเกอร์ทีวี จะรวมกันเป็นช่อง "ฟุตบอลแชนแนล" เสนอคอนเทนท์กีฬาทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งยังอยู่ในทรูวิชั่นส์เหมือนเดิม
 
          ยิ่งใกล้วันเปิดประมูลทีวีดิจิตอล คงมีข่าวการเปิดตัวพันธมิตรธุรกิจใหม่ๆมากขึ้น เพราะสมรภูมินี้ ต้องทุนหนา และคอนเทนท์แกร่ง จึงจะยืนระยะอยู่ได้
.......................................
(หมายเหตุ เดินหน้าทีวีดิจิตอล'สยามสปอร์ตนิวส์' : คอลัมน์ โลกไร้เสา)