เพลงหวานของยุคอัลเทอร์เนทีฟไทย ตอน1 | คมชัดลึก

 

                        เพลงไทยในช่วงอัลเทอร์เนทีฟไทยรุ่งเรือง ตั้งแต่ปลาย พ.ศ. 2537 จนถึง 2542 นับเป็นช่วงระยะเวลาที่น่าจดจำอีกช่วงหนึ่ง นับเป็นการเปิดประตูบานใหญ่ที่สุดช่วงหนึ่งในประวัติศาสตร์อุตสาหกรรมเพลงไทยที่น่าจะจำช่วงหนึ่งทีเดียว เปิดโอกาสให้วงดนตรีจำนวนมากมายนับไม่ถ้วน แข่งกันอวดผลงานให้คนรักเพลงได้ฟัง

                        ในคอลัมน์ก่อนๆ ผมได้หยิบยกเอาเพลงที่มีจังหวะจะโคนมาพูดถึงไปแล้ว 30 เพลง ซึ่งตั้งชื่อว่าเป็นเพลงโดด (ชมคอนเสิร์ตไป กระโดดไป) เป็นวัฒนธรรมการชมคอนเสิร์ตแห่งยุคสมัย หลังจากโดดกับเพลงในยุคนั้นไปแล้ว ได้เวลาพักฟังเพลงช้าๆ ในยุคเดียวกันที่ประสบความสำเร็จกันอีกช่วงหนึ่ง ถือว่าเป็นการพักเหนื่อยไปในตัว เพราะหลายคนที่เกิดทันในยุคนั้น ปัจจุบันนี้ อายุเฉลี่ยก็เลยเลข 35 ไป มากบ้างน้อยบ้าง อยู่ที่ว่าใครเกิดก่อนหลัง และเมื่อใดก็ตามที่ได้หวนรำลึกความทรงจำอีกครั้งในวันที่ผ่านมาเกือบ 20 ก็นับว่าเป็นโอกาสที่ดีที่จะย้อนความประทับใจให้กลับมาทำให้กระชุ่มกระชวยหัวใจได้ดีไม่น้อย

 

1. เพลง ก่อน ศิลปิน โมเดิร์นด็อก อัลบั้ม โมเดิร์นด็อก พ.ศ. 2537

 

                        ถึงแม้ว่าเพลง บุษบาจะเป็นเพลงแรกที่นำเสนอต่อสาธารณะ นำทางไปก่อนหน้า แต่เพลง "ก่อน" นับว่าเป็นเพลงที่เข้าถึงและได้รับการยอมรับ สร้างชื่อเสียงให้หมาทันสมัย ได้อย่างสมบูรณ์ เรียกว่าจุดติด และติดลมบนอย่างรวดเร็ว การหยิบเพลงของพราย (ปฐมพร ปฐมพร) มานำเสนอในอัลบั้มแรก ถือเป็นความลงตัว และได้สร้างปรากฏการณ์ในวงการเพลงอย่างมหาศาล ยอดขายเทปถล่มทลาย รูปแบบของเพลงที่ประสบความสำเร็จในอัลบั้มของศิลปินที่มีผู้อื่นแต่ง มีเป็นจำนวนมาก เพลงนี้ก็ถือเป็นหนึ่งเพลงที่อยู่ในกลุ่มนั้นด้วยเช่นกัน

 

2. เพลง แบบสุขกึ๋น ศิลปิน ไทร็อก อัลบั้ม โยกหัว พ.ศ. 2537

 

                        มีน้อยคนที่จะรู้จักหน้าค่าตาของศิลปินคนนี้ ที่เรียกตัวเองว่า ไทยร็อก (คนรู้จักใกล้ชิดกัน เรียกว่าเฮ้าส์) เพลงนี้ดูจะเข้าถึงผู้ฟังได้มากที่สุดในอัลบั้ม และแน่นอน เป็น On hit wonder (ฮิตเพลงเดียว) ของศิลปินผู้นี้ ยุคนั้น คนฟังเพลงแนวนี้ทุกคน ไม่มีใครไม่รู้จักเพลงนี้ แน่นอนเพลงที่พูดถึงเพลงรักๆ ใคร่ๆ เข้าถึงคนหมู่มากได้เป็นอย่างดี โครงสร้างเพลงป๊อปที่ไม่มีอะไรซับซ้อน ย่อยง่าย แม้ชื่อเพลงจะเป็นที่สับสนของคนฟังเพลงและดีเจไปบ้างก็บ้าง บางคนเรียกว่า สุดกึ๋น บางคนเรียก สุขกึ๋น เป็นตัวอย่างของการตั้งชื่อเพลงที่น่าเป็นบทเรียนเล็กๆ ได้ดีทีเดียว (1 ในกฎของการตั้งชื่อเพลงป๊อปให้น่าสนใจ ชัดเจน และจำง่าย)

 

3. เพลง รักเธอจริง ๆ ศิลปิน สุกัญญา มิเกล อัลบั้ม มิเกล พ.ศ. 2538

 

                        ศิลปินทั่วทั้งโลกนั้น นักร้องหญิง มีน้อยกว่านักร้องชาย เรื่องนี้หากนำไปวิเคราะห์ต่อคงได้หลากหลายความคิดเห็น แต่ไม่ใช่ประเด็นสำคัญในการอยู่บนถนนสายดนตรี ความสามารถ ในการร้องเพลง แต่งเพลง บุคลิก หน้าตา การแสดงหน้าเวที และการวางตัวในสังคมต่างหาก ที่จะแสดงตัวตนให้คนได้รับรู้และชื่นชม เพราะแก่นของการประสบความสำเร็จมาจากหลายปัจจัยนี่เอง สุกัญญา มิเกล มีตัวตนที่ชัดเจน ว่าไม่ใช่ผู้หญิงที่แค่มีหน้าตาสะสวย แต่ความสามารถ ตัวตนและผลงานของเธอต่างหาก ที่ผลักดันความสำเร็จ งานชุดแรกของเธอถูกปรุงแต่งให้ห่างจากตัวตนของเธอ แต่งานในอัลบั้มชุดนี้ ขยับเข้าใกล้ตัวทั้งผู้ฟังเพลงและศิลปินเจ้าของงาน เนื้อเพลงที่ผู้หญิงกล้าพูดความรู้สึกของตัวเองลึกๆ ออกมาอย่างตรงไปตรงมา และดูจริงใจ เป็นที่สุด ส่งผลให้ความสำเร็จเกิดขึ้นกับเพลงนี้และตัวเธอเอง

 

4. เพลง ยืนยัน ศิลปิน Blackhead อัลบั้ม Blackhead พ.ศ. 2538

 

                        งานชุดแรกของ Black Head ให้สีสันเป็นตัวแทนของวันเวลานั้นได้เป็นอย่างดี ด้วยประสบการณ์และความสามารถของแต่ละคนในวง ทิศทางดนตรีในอัลบั้มรวมทั้ง Key Visual (การสื่อสารแนวความคิดหลักผ่านภาพลักษณ์ต่างๆ) นั้นไปทางเดียวกัน ตั้งแต่ โลโก้วง ปกอัลบั้ม สวยงามน่าสะสม เพลงช้าที่แจ้งเกิดอีกเพลงของ แบล็คเฮด เพราะความลงตัวของดนตรีร็อกและเนื้อเพลง รวมไปถึงการสื่อสารความหมายของเพลงได้เป็นอย่างดี

 

5. เพลง ร่ำลา ศิลปิน ธรรณธรพ์ EP. TNT พ.ศ. 2538

 

                        น้ำเสียงแหบพร่าในการร้องและพลังเสียงแผด เหมาะกับงานดนตรีร็อกได้เป็นอย่างดี งานนี้นอกจากตัวนักร้องแล้วต้องยกประโยชน์ให้กับคนที่อยู่เบื้องหลังความสำเร็จด้วยคือ โปรดิวเซอร์ ("ไก่" สุธี แสงเสรีชน อดีตสมาชิกแกรนด์เอ็กซ์ แฟมิลี่ ยุคท้ายๆ) ที่ผลิตงานและนำเสนองานได้อย่างน่าสนใจ เป็นค่ายเพลงใหม่เล็กๆ ที่มีศิลปินประสบความเร็จ และเป็นที่รู้จักหลายคน ทั้งวง พอง พอง, ขันที, วง น้า น้า, ไมเคิล สวัสเสวี และวงอลาดิน

 

6. เพลง ฟ้ายังฟ้าอยู่ ศิลปิน Smile Buffalo อัลบั้ม Smile Buffalo พ.ศ. 2538

 

                        เพลงสุดท้ายหน้าบี ที่ตามมาฮิตได้ในช่วงท้ายๆ ของช่งการโปรโมท แต่กลับกลายเป็นเพลงที่ข้ามยุคสมัยมาได้เกือบ 20 ปี เนื้อหาเพลงให้กำลังใจ ปลอบใจได้ทั้งผู้ประพันธ์ และคนฟัง เพลงที่ร้องร่วมกันทั้งวง ช่วงที่แสดงคอนเสิร์ต ภาพที่เห็นบ่อยจนชินตาในหลายๆ เพลง ของมือกลอง วรเชษฐ์ เอมเปีย กระหน่ำกลองไม่ยั้งจนเกือบพังในหลายๆ คอนเสิร์ต แต่เพลงนี้กลับนั่งเขย่าไข่ (เครื่องให้จังหวะ)

                        อย่างกับคนละคน ในขณะที่เต็น ธีรภัคร มณีโชติ ในอัลบั้มชุดนั้นแทบไม่ได้ยินเสียงร้องเลย ยกเว้นเพลงนี้ แต่ต่อมากลายเป็นศิลปินเดี่ยว ที่ทั้งร้องและแต่งเพลงเอง เพลงฟ้ายังฟ้าอยู่นี้ เดาว่าได้ให้กำลังใจกับคนจำนวนไม่น้อยในเวลาที่ผิดหวัง มาเนิ่นนาน และมันยังทำหน้าที่ของมันต่อไปอีกนาน

 

7. เพลง คําตอบ ศิลปิน นครินทร์ กิ่งศักดิ์ อัลบั้ม ไข้ป้าง พ.ศ. 2538

 

                        การนำเสนอผลงานเดียวของ ป้าง เป็นการนำเสนอที่แตกต่าง ทั้งดนตรี และลีลาการร้อง ที่เป็นเอกลักษณ์ เพลงคำตอบเป็นอีกเพลงที่ฟังแล้วรับรู้ได้ทันทีว่ามาจากมันสมองและความสมารถของศิลปินคนนี้ ในอัลบั้มชุด ไข้ป้าง งานเดี่ยวชุดแรก กลายเป็นอัลบั้มที่ถูกจับตามองมากที่สุดในช่วงเวลานั้น จากความสำเร็จของวง ไฮดร้า การบันทึกเสียงที่ใช้เครื่องดนตรีสดในการบันทึกเสียงโดยเฉพาะกลอง และตัวผลงานเพลงทุกเพลง ทำให้ผลการตอบรับในงานชุดนี้นั้น อยู่ในระดับสูงของความสำเร็จเลยทีเดียว

 

8. เพลง เธอคือความฝัน ศิลปิน พราว อัลบั้ม พราว พ.ศ. 2539

 

                        เพลงช้าๆ อีกเพลงที่ทำนองไพเราะ ดนตรีสวยงามมาก เนื้อเพลงที่สามารถทำให้สาวๆ ละลายต่อหน้าต่อตาได้ จึงได้รับความนิยมในหมู่คนฟังเพลงเป็นอย่างมาก เพลงดีๆ อีกเพลงที่อยู่เพลงแรกหน้าบีต่อยอดความนิยม ต่อมาได้มีการเรียงเรียงเพลงนี้เป็นอีก เวอร์ชั่นหนึ่ง คือ กล่องดนตรี เป็นการยืนยันว่า เพลงเพราะๆ หากมีฝีมือสามารถไปขยายในอีกกี่แบบก็เพราะวันยังค่ำ

 

9. เพลง ไม่ต้องห่วงฉัน ศิลปิน โลโซ อัลบั้ม Lo Society พ.ศ. 2539

 

                        โลโซ วงอัลเทอร์เนทีฟร็อกแบบเซอร์ๆ สะกดคนฟังได้อยู่หมัดกับเพลงเร็วๆ และการแสดงสดอันน่าทึ่ง แต่เพลงที่ฮิตกันทั่วบ้านทั่วเมืองเพลงนี้ แค่กีตาร์ตัวเดียวก็เอาอยู่ กีตาร์ในเพลงนี้ทำหน้าที่ให้ทำนองและจังหวะไปในตัว เสียงร้องต่ำๆ ในช่วงเริ่มต้น และโหยหวน เป็นเสน่ห์ของเพลงนี้ ภายหลังยังมีการมาทำเป็นเวอร์ชั่น กระโดดก็สนุกไปอีกแบบหนึ่ง

 

10. เพลง ที่ว่าง ศิลปิน Pause อัลบั้ม Push (Me) Again พ.ศ. 2539

 

                        การรวมวงจากตอนนักศึกษา ทั้งการทำงานในโครงการพิเศษทางดนตรี และจากการเข้าแข่งประกวดดนตรีระดับประเทศจนได้รับรางวัล ต่อมาได้แสดงในงานเทศกาลดนตรีของนิตยสารบันเทิงคดี รวมถึงงานดนตรีของสถานีวิทยุ ไพเรท ร็อก จนได้เซ็นสัญญากับค่ายเบเกอรี่มิวสิค และออกอัลบั้ม Push Me Again ในที่สุด เพลงนี้ได้รับแรงบันดาลใจจากบทประพันธ์ของนักเขียนชื่อดัง คาลิล ยิบราน ยังมีเพลงดีๆ อีกหลายเพลง โปรดติดตามต่อในครั้งหน้า ชาตินี้ยังไงก็ฟังเพลงทั่วไป ได้ไม่หมด ขอเลือกเพลงโปรด ฟังก่อนตาย ดีกว่า

 

 

--------------------

(คอลัมน์เพลงไทยที่ต้องฟังก่อนตาย : เพลงหวาน ของยุคอัลเทอร์เนทีฟไทย ตอน 1 : โดย...โชคชัย เจี่ยเจริญ)