บันเทิง

จอแก้ว : เรื่องย่อ : 'บุญผ่อง'

จอแก้ว : เรื่องย่อ : 'บุญผ่อง'

28 เม.ย. 2556

จอแก้ว : เรื่องย่อ : 'บุญผ่อง'

 

                        การเคารพในหลักการของสิทธิมนุษยชนและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์โดยเห็นคุณค่าความสำคัญในความแตกต่างหลากหลายของมนุษย์ ไม่เหยียดหยาม ไม่แบ่งแยกไม่เลือกปฏิบัติต่อบุคคล เพราะเหตุแห่งความแตกต่างในเรื่องของถิ่นกำเนิด เชื้อชาติ ภาษาความเชื่อความศรัทธาในศาสนา หรือสถานะบุคคล ถือเป็นหลักปฏิบัติด้านจริยธรรม ข้อสำคัญข้อหนึ่งของไทยพีบีเอสในฐานะสื่อสาธารณะ

                        การสะท้อนแนวคิดเพื่อให้สังคมได้ตระหนักและมองเห็นคุณค่าของหลักจริยธรรมข้อนี้ โดยการถ่ายทอดผ่านสื่อทุกรูปแบบถือเป็นภารกิจสำคัญ ที่ไทยพีบีเอสมุ่งมั่นทำมาโดยตลอด และนั่นคือเหตุผล และที่มาที่สำคัญที่ไทยพีบีเอสหยิบยกสถานการณ์ที่เป็นประวัติศาสตร์ของไทย และเป็นเรื่องราวส่วนหนึ่งของประวัติศาสตร์โลก ในช่วงยุคสงครามโลกครั้งที่ 2 กับเรื่องราวชีวิตของคุณบุญผ่อง สิริเวชชะพันธ์ ซึ่งอาจจะเป็นชื่อที่ไม่คุ้นหูนักสำหรับคนไทย แต่ในระดับสากลในหลายประเทศ ชื่อคุณบุญผ่อง กลับเป็นที่จดจำอย่างไม่มีวันลืม อันเป็นผลมาจากการที่คุณบุญผ่องได้ช่วยเหลือพวกเขาเหล่านั้นไว้หลายชีวิตด้วยกัน ในฐานะที่เป็นคนไทยคนหนึ่งที่มองเห็นคุณค่าของความเป็นมนุษย์อย่างเท่าเทียมกัน

                        อาจจะมีหนังสือหรือรายการสารคดีจำนวนมากที่กล่าวยกย่องถึงสิ่งที่คุณบุญผ่องได้กระทำไว้ แต่ในฐานะการเล่าเรื่องในรูปแบบของละครที่เป็นสาระบันเทิง ยังไม่เคยมีปรากฏมาก่อน ครั้งนี้เป็นอีกครั้งนี้เป็นอีกครั้งหนึ่งที่ไทยพีบีเอสมองเห็นคุณค่าและต้องการจะสื่อสารเพื่อสะท้อนมิติทางความคิด และการกระทำในจุดเล็กๆ แต่ส่งผลต่อมาอย่างใหญ่หลวงของคนคนหนึ่งที่สามารถสร้างแรงบันดาลใจให้กับอีกหลายชีวิตได้ตระหนักรู้ถึงคุณค่าของคำว่า “มนุษย์” อย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

                        “บุญผ่อง” จึงถือเป็นละครโทรทัศน์ที่อ้างอิงมาจากชีวิตจริงจากสถานการณ์จริง สิ่งที่เกิดขึ้นจริงในประวัติศาสตร์ไทย โดยอาศัยการเล่าเรื่องที่คมคาย ผสมผสานกันกับความบันเทิงอย่างลงตัวเพื่อให้เกิดพื้นที่ของเนื้อหาละครดีๆ ที่มีคุณค่า อันจะนำมาซึ่งการแลกเปลี่ยนแนวคิดและมุมมองกับคนดูและชวนให้ขบคิด เค้าโครงเรื่องย่อ สงครามไม่อาจกีดกั้นมนุษยธรรม

                        เมื่อสงครามมหาเอเชียบูรพาอุบัติขึ้น ประเทศไทยถูกกองทัพญี่ปุ่นใช้เป็นทางผ่าน เพื่อยาตราทัพไปสู่พม่าและอินเดีย จ.กาญจนบุรี เป็นชัยภูมิสำคัญที่กองทัพญี่ปุ่นเลือกสร้างทางรถไฟ ค่ายเชลยถูกสร้างขึ้นตลอดเส้นทางตัดผ่าน

                        เชลยสัมพันธมิตรนับหมื่นนับแสนถูกเกณฑ์ให้สร้างทางรถไฟที่ได้รับการขนานนามว่า ทางรถไฟสายมรณะ เพราะคำกล่าวว่า หนึ่งไม้หมอนคือหนึ่งชีวิตของเฉลย

                        ความโหดร้ายแห่งสงคราม ไข้ป่า โรคร้ายที่คร่าชีวิตเชลยสัมพันธมิตรจำนวนมาก ทำให้บุญผ่อง สิริเวชชะพันธ์ คหบดีผู้ทำการค้ากับกองทัพญี่ปุ่นไม่อาจทนทุกข์ทรมานใจกับความตายที่เกิดขึ้น

                        ด้วยมนุษยธรรมและความกล้าหาญทำให้บุญผ่องเสี่ยงตายลอบส่งยาให้เชลยในค่ายท่ามกลางความเข้มงวดของผู้คุมอย่าง มิโยชิ รวมทั้งความไม่เข้าใจของ สุรัตน์ เมียรักที่ไม่ต้องการให้บุญผ่องเอาชีวิตและครอบครัวไปเสี่ยงภัยสงคราม

                        บุญผ่องถูกดึงเข้าสู่ความขัดแย้งมากขึ้น เมื่อสถานการณ์รบเข้มข้นสะพานถูกเร่งการก่อสร้าง การส่งยาให้หมอเวรี่ ศัลยแพทย์ชาวออสเตรเลีย เพื่อใช้รักษาเชลยยากลำบากขึ้น เพราะกองทัพญี่ปุ่นสงสัยในฉากหน้าของมหามิตรอย่างคนไทย

                        บนเส้นด้ายแห่งความเป็นความตายเชลยยังคงล้มตายราวใบไม้ร่วง บุญผ่องตัดสินใจเสี่ยงครั้งสำคัญ เปลี่ยนคนลักลอบส่งยาให้เป็นลูกสาว ผณี มิตรภาพที่งอกงามของเพื่อนต่างวัย มิโยชิกับผณี ทำให้มิโยชิต้องแบกรับความกดดันระหว่างหน้าที่กับชีวิตของเด็กหญิงตัวเล็กๆ เมื่อสิ่งที่พ่อของเธอกระทำถือว่าทรยศต่อกองทัพ

                        สุดท้าย จำนวนยาไม่มากจากความกล้าหาญ เด็ดเดี่ยวและมนุษยธรรมเหนือทุกสิ่งของชายไทยอย่างบุญผ่องมีส่วนเปลี่ยนโฉมหน้าของสงคราม แต่เขาก็ต้องแลกกับความสูญเสียที่ไม่อาจเรียกกลับคืนได้อีกเลย

 

รายชื่อนักแสดง

เรืองศักดิ์ ลอยชูศักดิ์  รับบท  บุญผ่อง สิริเวชชะพันธ์
นุสบา ปุณณกันต์  สุรัตน์ สิริเวชชะพันธ์
พลอย ศรนรินทร์  ผณี สิริเวชชะพันธ์
ฮิโระ ชาโนะ  มิโยชิ
ปีเตอร์ ธูนสตระ  เวรี่ หรือ เชอร์ ดันลอป เวรี่
คิริน ยัง  ไมเคิล
ณัฎฐนันท์ เกียรติดาฐนิต  รำเพย
คาชุกิ ยาโนะ  ไซโตะ
อริศรา วงษ์ชาลี  ฉวี
กฤษฎี พวงประยงค์  น้องชายบุญผ่อง
ธวัชวงศ์ ปิยะเกศิน  ขุนสิริเวชชะพันธ์
อำภา ภูษิต  ลำเจียก สิริเวชชะพันธ์
ปรียาพร ร่มเย็น  บุหงา
จีน ฮอยล์  บุปผา

เค้าโครงเรื่องจากชีวิตจริงของ คุณบุญผ่อง สิริเวชชะพันธ์
บทโทรทัศน์  โดย  พัญสร
กำกับการแสดง  สมพร เชื้อบุญอุ้ม