
'เปาวลี'รดน้ำดำหัวขอพร'ครูลพ บุรีรัตน์'
'เปาวลี'ยกขันนํ้ามาลัยรดน้ำดำหัวขอพร'ครูลพ บุรีรัตน์'
หลังจากที่เล่นหนังรับบทเป็น พุ่มพวง ดวงจันทร์ จนคนทั่วประเทศรู้จักกันเป็นอย่างดีแล้ว ซ้ำยังเป็นนักร้องที่เติบโตมากับเพลงของพุ่มพวง ดวงจันทร์คนหนึ่ง สำหรับ เปาวลี พรพิมล และไม่ว่าจะเดินสายงานคอนเสิร์ตที่ใดก็ตาม ก็เป็นต้องหยิบยกเพลงของ พุ่มพวง ดวงจันทร์ มาขับกล่อมให้แฟนเพลงฟังอยู่เสมอ
ใกล้วันสงกรานต์แบบนี้ทีมข่าวบันเทิง "คม ชัด ลึก" ได้เก็บภาพเปาวลี พรพิมล เข้ารดน้ำดำหัวขอพรจากครูลพ บุรีรัตน์ หรือ วิเชียร คำเจริญ ศิลปินแห่งชาติ ครูเพลงที่แต่งเพลงให้ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ร้องไว้จนโด่งดังมากมาย อาทิ โลกของผึ้ง, ห่างหน่อยถอยนิด, เพลงรักบ้านทุ่ง, กระแซะเข้ามาซิ, หนูไม่รู้, ผู้ชายในฝัน และเปาวลีได้นำบทเพลงเหล่านั้นมาร้องอยู่ทุกวันนี้ ซึ่งครั้งนี้ถือเป็นครั้งแรกของสาวเปา ที่ได้พบและพูดคุยกับครูลพ บุรีรัตน์ แบบใกล้ชิด
เปาวลีพร้อมทีมงานมาถึงบ้านครูลพ ก็ได้รับการต้อนรับจาก ศิลปินแห่งชาติเป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ ครูลพได้เล่าถึงเรื่องการแต่งเพลงในสมัยก่อน และการบุกป่าฝ่าดง ร่วมอุปสรรคไปพร้อมกับ พุ่มพวง ดวงจันทร์ ตั้งแต่เริ่มเป็นนักร้องใหม่ๆ จนพุ่มพวงดังแบบฉุดไม่อยู่ ซึ่งเรื่องต่างๆ ที่ครูลพ เล่าล้วนแต่เป็นเรื่องที่ไม่เคยได้ยินจากที่ไหนมาก่อน ทำเอาเปาวลี นั่งฟังกันเพลินไปเลยทีเดียว
เมื่อครูลพเล่าประวัติให้ฟังคร่าวๆ ก็ขอให้เปาวลี ร้องเพลงให้ฟังบ้างเป็นการตอบแทน โดยเปาวลี ร้องเพลงที่ครูลพ ชอบเป็นพิเศษ คือเพลง "เพลงรักบ้านทุ่ง" กับ "โลกของผึ้ง" โดยครูลพอมยิ้มและนั่งฟังนักร้องรุ่นหลานอย่างตั้งใจ
จากนั้น เปาวลี ก็ขอสืบสานประเพณีไทยเนื่องในวันปีใหม่ไทยคือ การรดน้ำดำหัวขอพรจากครูลพ โดยเธอนำขันนํ้าใบใหญ่ซึ่งข้างในผสมนํ้าอบพร้อมพวงมาลัยมากราบขอพรครูลพด้วย ทั้งสองต่างก็ยิ้มและให้พรซึ่งกันและกัน
ครูลพ บุรีรัตน์ กล่าวถึงเปาวลี ว่า “สำหรับ เปาวลี ก็อยากให้คงความเป็นตัวเองแบบนี้ตลอดไป อยากให้ดูแลเลี้ยงครอบครัว เหมือนผึ้ง ที่ไม่เคยทิ้งครอบครัวเลย เปาวลี เป็นคนเสียงดี เสียงใส ขอให้เป็นนักร้องที่ประสบความสำเร็จ เล่นหนัง เล่นละคร ก็ให้เป็นที่รู้จักไปทั่วประเทศ ดีใจที่วันนี้มารดน้ำขอพร ดีใจที่ลูกศิษย์คนนี้ยังไม่ลืมเรา”
ด้านสาวเมืองสุพรรณบุรีกล่าวว่า “รู้สึกตื้นตันใจมากค่ะ ที่ได้มารดน้ำขอพรครูลพ บุรีรัตน์ ซึ่งท่านเป็นครูเพลงที่เปาให้ความเคารพ คิดเสมอว่าถ้ามีโอกาศจะเข้ามากราบท่าน เพราะทุกวันนี้หนูก็นำเพลงของท่านไปร้องตามเวทีคอนเสิร์ตมากมาย ครั้งนี้เป็นครั้งแรกที่หนูได้เจอครูลพแบบใกล้ชิด ครูลพใจดีมาก เป็นกันเอง ทั้งสอนและแนะวิธีการวางตัวให้เปาด้วย ที่สำคัญครูยังเล่าถึงประสบการณ์สมัยก่อนที่อยู่กับแม่ผึ้งให้เปาฟัง ยิ่งทำให้เปารู้สึกรักและศรัทธาในตัวแม่ผึ้งมากยิ่งขึ้น ยิ่งตอนนี้ร้องเพลงให้ครูลพฟัง ขนลุกไปทั้งตัว อยากจะร้องไห้ตลอดเวลา ตื่นเต้นยิ่งกว่าร้องเพลงบนเวทีอีก ก็ขอให้ครูลพมีสุขภาพแข็งแรง และเปาก็ขอเป็นลูกศิษย์ คุณครูลพ บุรีรัตน์ อีกคนหนึ่งด้วยแล้วกันนะคะ”