'สัญญา จุฬาพร'ปลื้มมรดกอีสานศิษย์ร่วมคาราวะอบอุ่น | คมชัดลึก

 
          คํ่าๆวันที่2 เมษายนที่ผ่านมา ทัพศิลปิน นักร้อง นักแต่งเพลง และ ศิลปินจากสาขาต่างๆ ทุกคนล้วนมุ่งหน้าสู่มหาวิทยาลัยขอนแก่น ซึ่งมีการจัดงานเชิดชูเกียรติศิลปินมรดกอีสานและวัฒนธรรมสัมพันธ์ประจำปี 2555 พร้อมกับเป็นโอกาสคล้ายวันพระราชสมภพสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ซึ่งมหาวิทยาลัยขอนแก่นได้จัดงานเชิดชูเกียรติและมอบรางวัลเป็นปีที่ 8 แล้ว
 
          ในงานยังมีการจัดงาน มุฑิตาจิต ให้ครู สัญญา จุฬาพร ครูเพลงชาวขอนแก่น เจ้าของเพลงดังเช่น กระท่อมชาวไร่, สวนสน ปลุกกระแสที่กำลังซบเซาให้แก่ ทูล ทองใจ , ลาก่อนบางกอก เพลงที่เปลี่ยนพ่อเพลงอีแซว อย่าง ไวพจน์ เพชรสุพรรณ ให้เป็นนักแหล่แบบอีสาน และยังมีเพลง "เซิ้งสวิง" เพลงที่เปลี่ยนบุคลิกจากนักร้องเสียงหวาน พนม นพพร ให้กลายเป็นนักร้องแนวเพลงอีสาน "ลำล่องโขง" เป็นลำที่ดัดแปลงจนเป็นที่รู้จักกันในวงการหมอลำทั้งในภาคอีสานและฝั่งลาว และ เป็นผู้ดัดแปลงรำโทน-รำวง มาเป็นเพลงลูกทุ่งมากที่สุด โดยปรากฏในเพลงของไวพจน์ เพชรสุพรรณ เช่น เพลง สะมะคักแท้น้อ .. ปั้นข้าวจี่ติด.... อ้อนต้อน ปั้นข้าวก่ำติด... อ้อนต้อน... เป็นต้น พร้อมๆกันไปในงานนี้ด้วย นอกจากนั้นยังมีการจัดทำหนังสือ ที่รวบรวมประวัติและผลงานของ ครูสัญญา จุฬาพร แจกในงาน เขียนโดย แวง พลังวรรณ นักเขียน และ คอลัมนิสต์ชื่อดังแดนอีสาน
 
          ช่วงแรก เปิดเวทีด้วย เสียงรถด่วนขบวนสุดท้ายของ แม่ผ่องศรี วรนุช ศิลปินแห่งชาติ ซึ่งเคยร้องเพลง " ฝากฟ้า-สั่งลม" ของครูสัญญา จุฬาพรต่อด้วยการมอบรางวัล ศิลปินมรดกอีสาน โดยมี รศ.ดร.กิตติชัย ไตรรัตน์ศิริชัย อธิการบดีมหาวิทยาลัยขอนแก่น เริ่มต้นด้วยรางวัล "อมรศิลปินมรดกอีสาน" ผู้ได้รับคือ ตุ้มทอง โชคชนะ หรือ เบญจมินทร์ ครูเพลงชาวอุบลราชธานี (ประพันธ์เพลง) ถึงแม้จะเสียชีวิตไปนานแล้วแต่ผลงานยังเป็นอมตะโดยมี อาริยา โชคชนะ ลูกสาวที่มารับรางวัลแทน ต่อด้วยการมอบรางวัลสาขาวรรณศิลป์มีผู้ได้รับรางวัล 2 ท่าน คือ นายไพวรินทร์ ขาวงาม (วรรณกรรมร่วมสมัย) ,นายคำแอ ทองจันทร์ หรือ คำเกิ่ง ทองจันทร์ (ประพันธ์เพลงลูกทุ่งหมอลำ) , สาขาศิลปะการแสดง มีผู้ได้รับรางวัล 10 ท่าน ได้แก่ นางฐิติรัตน์ โครตหานาม หรือ ไพรินทร์ พรพิบูลย์ (ขับร้องเพลงลูกทุ่งอีสาน) ซึ่งวันนี้เธอป่วยเป็นมะเร็งระยะสุดท้าย ส่งเพียงลูกสาวมารับรางวัลแทน , นายจเร ภักดีพิพัฒน์ หรือ เพชร พนมรุ้ง (ขับร้องเพลงลูกทุ่ง), นางดารินทร์ ชุมมุง (ขับร้องเพลงลูกทุ่งหมอลำ), นายสำรอง สาธุการ, (ลำกลอน), นายอิศม์เดช ฤาชา (ลำกลอน), นายจำปี อินอุ่นโชติ (ลำกลอน), นายสมร พลีศักดิ์ (หนังประโมทัย), นายกมนต์โรจน์ นิวัฒน์บรรหาร(นาฏศิลป์พื้นบ้านอีสานใต้),นายเจริญชัย ชนไพโรจน์ (ดนตรีพื้นบ้านอีสาน) และ นายบุญมา เขาวง (ดนตรีพื้นบ้านอีสาน พิณ) และต่อมาด้วยรางวัลวัฒนธรรมสัมพันธ์โดยมี ผู้ได้รับรางวัล 15 คนและ 2 องค์กร โดยที่น่าสนใจคือ นายธีระพงษ์ โสดาศรี อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ได้รับรางวัลส่งเสริมวัฒนธรรมท้องถิ่นอีสาน
 
          หลังพิธีมอบรางวัลเสร็จสิ้น เป็นช่วงของการ มุฑิตาจิต ให้กับครูเพลงสัญญา จุฬาพร โดยมีศิลปินแห่งชาติ "ชินกร ไกรลาศ"ซึ่งเป็นหนึ่งในคนร้องเพลงที่ครูสัญญา แต่งมาร่วมแสดงด้วย

          ครูสัญญา จุฬาพร ในวัย 80 ปี ผู้อยู่เบื้องหลังความสำเร็จของศิลปินนักร้องมากมาย อาทิ ไวพจน์ เพชรสุพรรณ, ทูล ทองใจ, ม.ร.ว.ถนัดศรี สวัสดิวัฒน์, ผ่องศรี วรนุช ,นพดล ดวงพร และ นกน้อย อุไรพร บอกว่า รู้สึกปลื้มปิติดีใจที่ลูกศิษย์ คนรุ่นหลัง จัดงานมุทิตาคาราวะให้ในครั้งนี้
 
          "ตอนนี้วงการเพลงต่างจากสมัยก่อนมากเพราะเพลงสมัยนี้จะเข้าสากลมากขึ้นไม่ว่าจะเป็นดนตรีหรือวิธีการร้อง ซึ่งเราควรจะรักษาคำไทยไว้ แต่มันก็เป็นไปตามยุคสมัย และในที่สุดถ้ามันไม่ดีจริงก็จะหายไปเอง แล้วเราก็จะย้อนกลับมา เพราะเป็นครู เป็นแบบฉบับ วนกลับมา ซึ่งอยากจะบอกถึงนักแต่งเพลงว่าอย่าให้โป๊เกินไป สนุกสนานได้ เสียดสีสังคมได้ แต่ก็ต้องรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีด้วย เห็นแก่ส่วนรวม เห็นถึงเด็กรุ่นหลังต่อไปด้วย และหากมีการช่วยเหลือคนรุ่นก่อน คนรุ่นก่อตั้ง ก็จะเป็นเรื่องดี โดยเฉพาะเรื่องสุขภาพไม่ว่าจะเป็นการช่วยเหลือจากฝ่ายรัฐหรือฝ่ายสถาบันการศึกษาก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี เพื่ออนุรักษ์ เติมกำลังใจให้ครูเพลงหรือศิลปินแขนงต่างๆ ได้อยู่ยงคงกระพันต่อไป"อาจารย์สัญญาทิ้งท้าย