'คู่กรรม'แบบ'ณเดชน์'ลองให้'โอกาส'กับหนัง

 
          อย่างที่บอกไว้ก่อนหนังเข้าหนึ่งเดือนใน “ชิลล์ชวนชม” 89 FM และ 99 radio ว่า ถ้าพี่มากพระโขนงสนุกแบบ “สอบผ่าน” หนังเรื่องนี้จะทำรายได้มากกว่า “คู่กรรม” และ G.I.Joe 2

          GTH เหมือนพรรคประชาธิปปัตย์ที่ “เขี้ยว” ทางการตลาด พวกเขาช่ำชองกลยุทธบุกเจาะทางด้านประชาสัมพันธ์และเข้าทำโจมตีทั้งแบบออนไลน์และออฟไลน์ มีเพลงยุทธแบบนี้ ถ้าหนังดีพอตัวไม่เลวร้าย GTH จะปั้นได้ ไม่เหมือนหนังบางเรื่องที่ไม่ว่าอย่างไร ก็ปั้นยากและไม่ควรปั้นมาก (เช่น เคานท์ดาวน์)
ถึงนาทีนี้ มันก็เป็นอย่างนั้นจริงๆ และอย่าแปลกใจถ้า “พี่มาก” จะเงินมากถึง 250 ล้านเมื่อสิ้นสุดโปรแกรม นี่ไม่ใช่ตัวเลขเกินเลย และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง “คู่กรรม” ไม่ได้มีกระแสตอบรับที่จัดว่าดี เมื่อมองจากรอบสื่อ

          ผมยังไม่ได้ดู “คู่กรรม” เพราะค่ำวันจันทร์ เลือกไปดูคู่กรรมเวอร์ชั่นอังกฤษคือ แมนยู-เชลซี ที่เวลาชนกัน แต่ถึงวันที่หนังสือพิมพ์ออก จะได้ดูเรียบร้อยแล้ว

          กระแส “พี่มากพระโขนง” กับ “คู่กรรม” นี่แรงมากนะครับ ฟรีทีวี 4-5 ช่องมาสัมภาษณ์ผมเกี่ยวกับปรากฏการณ์ทางการตลาดและตัวเลข ส่วนหนึ่งเพราะหนังไทยทำตัวเอง และเจ๊งมานาน ปีที่แล้วมีเกือบ 70 เรื่อง แต่หาหนังดีๆ ได้น้อยมาก (ในระดับแทบทุกสถาบันลงคะแนน ก็ยนังบ่นๆ ถึงเรื่องนี้)

          แต่กับปี 2556 หนังไทยกลับมามีบทบาทอีกครั้ง และ”พี่มากฯ”กับ”คู่กรรม” ออกจากจุดสตาร์ทก่อน

          ไม่ว่าจะมีคน “ชมหรือติ” หนังคู่กรรมอย่างไร ผมยังอยากจะไปดูเพื่อพิสูจน์หนังด้วยตัวเอง มากกว่าเชื่อเอาตาม “กระทู้จัดตั้ง” หรือกระแสลมปาก
อย่างแรกเลยคือไปดูสิว่า คนทำหนังที่มีโปรไฟล์ “ไม่ขี้เหร่” อย่าง กิตติกร เลียวศิริกุล แถมเป็นคนทำงานคนโปรดของท่านมุ้ย จะทำคู่กรรมออกมาในสไตล์ไหน สร้างบุคลิกอย่างไร

          อย่างที่สอง ถึงไม่ได้กรี๊ดกร๊าด ณเดชน์ ที่สางคลั่งทั้งเมือง แต่ก็คิดว่า เขามีความสามารถและไม่ทำให้ “โกโบริ” มัวหมองแน่นอน

          อย่างสุดท้าย ผมชอบดูงานที่มีคนทำซ้ำบ่อยๆ เพราะมองในมุมวิเคราะห์ การทำซ้ำหรือตีความใหม่ เมื่อมันไปอยู่ในมือของผู้กำกับที่ต่างกัน เราอาจได้เห็นงานที่มิติอื่นๆ แตกต่างกันไป คนที่ดีแต่พูดว่า คู่กรรมตอนเบิร์ดหรือนาท ภูวนัย ดูไปแล้ว จะดูใหม่ทำไม

          คนแบบนี้ ไม่เข้าใจหนัง และเขาคงถามฝรั่งว่า โรมิโอ แอนด์ จูเลียต ทำมาแล้ว ทำไมทำอีกหมื่นครั้ง (ฮา)

          “คู่กรรม” แบบนาท ภูวนัย, ย่อมแตกต่างจากคู่กรรมแบบ เบิร์ด ธงไชย และย่อมไม่เหมือนกันกับโกโบริแบบ โอ วรุฒ และไม่ซ้ำรอยแบบคุณณเดชน์ (ที่หน้าตาคล้ายผม - ฮา)

          ลองสอบถามคนรอบตัว มีหลายคนบอกว่า ณเดชน์แสดงดีมาก และนางเอกมีปัญหาในการแสดงมาก พูดง่ายๆ คือหนังมีจุดแข็งและจุดอ่อน แต่จุดที่ดีที่ผมอวยพรและเอาใจช่วยมาตลอดก็คือ ผมอยากเห็นหนัง 3 เรื่องคือ พี่มาก, G.I. Joe 2 และ “คู่กรรม” ทำเงินรวมกันสัก 500 ล้านบาท

          มันอาจจะออกสูตรนี้นะครับ พี่มากฯ 250, คู่กรรม 125, G.I.Joe 125
.......................................
(หมายเหตุ 'คู่กรรม'แบบ'ณเดชน์'ลองให้'โอกาส'กับหนัง : คอลัมน์ หนังโรงเล็ก โดย... นันทขว้าง สิรสุนทร)