
'เจมี ฟ็อกซ์'รับบทนักล่าใน'Django Unchained'
บันเทิงต่างประเทศ : 'เจมี ฟ็อกซ์' รับบทนักล่าค่าหัว ใน 'Django Unchained' : เรื่อง มันตา คลังบุญครอง/ ข้อมูลจากโซนีพิคเจอร์ส
กลับมาให้แฟนๆ ได้หายคิดถึงกันแล้วสำหรับนักแสดงมากฝีมือ เจมี ฟ็อกซ์ ที่คราวนี้ขอสลัดสูทราคาแพง ใส่โซ่ตรวนไว้ผมฟูแบบทาสยุคเก่า รับบทโหดเลือดสาดใน “Django Unchained” หนังคาวบอยเรื่องล่าของผู้กำกับบ้าพลัง เควนติน ทารัยติโน
“Django Unchained” ที่มีเรื่องราวเกิดขึ้นทางตอนใต้สองปีก่อนหน้าสงครามกลางเมืองอเมริกาจะอุบัติ นำแสดงโดยดาราตุ๊กตาทอง เจมี ฟ็อกซ์ ในบท จังโก้ ทาสผู้ซึ่งประวัติร้ายกาจของเขากับอดีตนายจ้างทำให้เขาต้องเผชิญหน้ากับดร.คิง ชูลซ์ (คริสตอฟ วอลซ์ ดาราเจ้าของรางวัลออสการ์) นักล่าค่าหัวชาวเยอรมัน คิง กำลังไล่ล่าพี่น้องฆาตกรบริทเทิล และมีเพียงจังโก้เท่านั้นที่สามารถนำทางเขาไปสู่เหยื่อที่เขาหมายปองได้ คิง ผู้มีนิสัยพิลึกพิลั่น ได้ให้จังโก้นำทางเขา โดยสัญญาว่าจะปลดปล่อยเขาให้เป็นอิสระ หลังจากจับตัวพี่น้องบริทเทิลได้ ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย
ความสำเร็จทำให้ คิง ปล่อยตัวจังโก้ แม้ว่าทั้งคู่เลือกที่จะไม่แยกทางกันเดินก็ตาม คิง เลือกที่จะตามเด็ดหัวอาชญากรที่เป็นที่ต้องการ ตัวสูงสุดของฝ่ายใต้ โดยมีจังโก้เคียงข้าง จังโก้ ที่ขัดเกลาทักษะการล่าที่จำเป็น ยังคงมีปณิธานแน่วแน่อยู่กับสิ่งเดียว นั่นคือการตามหาและช่วยเหลือ บรูมฮิลดา (เคอร์รี วอชิงตัน) ภรรยาที่เขาเสียไปให้กับการค้าทาสเมื่อนานมาแล้ว
ท้ายที่สุดแล้ว การค้นหาของจังโก้และคิงก็นำพวกเขาไปหาเคลวิน แคนดี้ (รับบทโดย ลีโอนาร์โด ดิคาปริโอ) เจ้าของ “แคนดี้แลนด์” ไร่ชื่อฉาวโฉ่ การสำรวจบริเวณไร่ภายใต้ข้ออ้างปลอมๆ ทำให้จังโกและคิงไปปลุกเร้าความสงสัยของสตีเฟน (ซามวล แอล แจ็คสัน) ทาสเก่าแก่ของตระกูล เรื่องราววุ่นๆ ปนห่าฝนกระสุนปืนและกลิ่นคาวเลือดก็ได้อุบัติขึ้น
การเดินทางสู่จอเงินของ “Django Unchained” เริ่มต้นเมื่อกว่าสิบปีก่อน เมื่อมือเขียนบทและผู้กำกับ เควนติน ทารันติโน คิดถึง จังโก้ ตัวละครเอกของเรื่องขึ้นมาเป็นครั้งแรก “จุดกำเนิดของไอเดียนี้ทั้งหมดเริ่มจากทาสคนหนึ่งที่กลายเป็นนักล่าค่าหัว และไปตามล่าเหล่านายทาส ที่ซ่อนตัวอยู่ตามไร่ครับ” เควนติน เล่า “ผมเพิ่งจะเริ่มลงมือเขียน และจังโก้ก็เสนอตัวเองกับผม ในตอนเริ่มต้น เขาเป็นคนแบบนั้น เป็นทาสคนที่หกจากเจ็ดคนที่ถูกโซ่ล่ามอยู่ด้วยกัน แต่เขาเริ่มเผยตัวเองให้ผมเห็นมากขึ้นเรื่อยๆ ขณะที่ผมเขียนงานไปเรื่อยๆ”
เมื่อได้บทภาพยนตร์เรียบร้อยแล้ว เควนติน ก็เริ่มต้นหานักแสดงที่เหมาะสม เจมี ฟ็อกซ์ เจ้าของรางวัลอคาเดมี อวอร์ดจาก “Ray” คว้าบท จังโก้ไปครอง “เราได้มาเจอกันและเขาก็เยี่ยมมาก” ผู้กำกับเล่า “เขาเข้าใจเรื่องราว บริบทของเรื่องราวและความสำคัญเชิงประวัติศาสตร์ของหนังเรื่องนี้อย่างดี เขาเข้าใจมันร้อยเปอร์เซ็นต์เลย เขาเป็นนักแสดงที่เก่งและดูเพอร์เฟกท์สำหรับตัวละครตัวนี้ และเขายังมีคุณสมบัติความเป็นคาวบอยด้วย ตอนที่ผมได้พบเขา ผมจินตนาการว่าถ้าพวกเขาเลือกคนผิวสีในยุค 60 ให้เป็นดาราซีรีส์เวสเทิร์นล่ะก็ ผมนึกภาพเจมีในซีรีส์ของตัวเองได้เลยล่ะครับ เขาดูดีบนม้าและดูดีในชุดนั้นด้วย”
เจมี ตอบสนองกับการตีแผ่ความทารุณของการค้าทาสอย่างตรงไปตรงมาในบท “มันเป็นบทที่เหลือเชื่อที่สุดเท่าที่ผมเคยอ่านมาตลอดชีวิต” นักแสดงผิวสีกล่าว “ผมคิดว่า ‘ใครจะมีความกล้าและความรู้ที่จะบอกเล่ามันอย่างที่มันเป็นจริงๆ ล่ะ’ ผมคิดว่าวิธีที่เขาบอกเล่าเรื่องราวนี้ ที่ทั้งสมจริงและตรงไปตรงมา ถึงมันจะฉีกทึ้งเนื้อหนังของคุณออกมา ก็ช่างปะไรสิครับ นั่นคือสิ่งที่น่าตื่นเต้นเกี่ยวกับกระบวนการนี้ครับ”
ติดตามบทบาทใหม่ของ เจมี ได้ใน “Django Unchained” ตั้งแต่วันที่ 14 มีนาคมนี้ ในโรงภาพยนตร์