เป็นคุ้งเป็นแคว:ไกลกังวล มิวสิคัลฯ | คมชัดลึก

          สุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ชาวหัวหินมีความสุขยิ่งกับการที่ได้รับเลือกเป็นสถานที่จัดละครเพลงเฉลิมพระเกียรติที่ยิ่งใหญ่อลังการ “ไกลกังวล มิวสิคัล ออน เดอะ บีช” ละครโรแมนติก ริมชายหาดหัวหินครั้งแรกของเมืองไทย ซึ่งจัดในวาระครบรอบ 100 ปี กระทรวงคมนาคม เพื่อน้อมรำลึกถึงพระมหากรุณาธิคุณ และถวายความจงรักภักดีแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินีนาถ ณ สวนหลวงราชินี อำเภอหัวหิน จังหวัดประจวบคีรีขันธ์
 
          งานนี้ เจเอสแอล เนรมิตเวทีการแสดงยิ่งใหญ่ ด้วยฉากโรงแรม “บ้านเกลียวคลื่น” สุดหรู ท่ามกลางธรรมชาติ มีมิติเหมือนโรงแรมจริงๆ ตั้งตระหง่านอยู่ริมทะเล กับฉากอีกด้านหนึ่งที่เป็นบ้านหลังเล็กอบอุ่น มีทะเลจริงๆ เป็นฉากหลัง ชนิดที่คนชมข้างๆ ผู้เขียน ดูไม่ออกว่า เป็นทะเลจริงๆ หรือส่วนไหนฉากเลยทีเดียว
 
          มุมด้านหนึ่งของเวทีมีวงออเคสตราบรรเลงสดเพิ่มอรรถรสในการรับฟัง ระบบเสียงก็ยอดเยี่ยม เสียงขบวนรถไฟ ถ้าฟังกันชัดๆ จะเห็นว่า เสียงรถไฟจะวิ่งมาตามทิศทางอย่างสมจริง และยังนำรถสปอร์ตหรูย้อนยุคมาเข้าฉาก แล่นได้จริงๆ ให้รู้สึกเหมือนย้อนกลับไปยังหัวหินเมื่อหลายสิบปีที่แล้ว
 
          เรื่องราว “ไกลกังวล มิวสิคัล ออน เดอะ บีช” เปิดฉากด้วยเหล่านักข่าวและคนมีชื่อเสียง มาถึงสถานีรถไฟหัวหินเพื่อร่วมงานเปิดตัวโรงแรมสุดหรู “บ้านเกลียวคลื่น” ที่ตั้งอยู่ข้างๆ ของบ้านหลังเล็กที่ดำเนินชีวิตด้วยอุดมการณ์พอเพียง เรื่องราวถูกผูกเป็นจุดขัดแย้ง และลงตัวอย่างสวยงามในตอนจบ
 
          นักแสดงทุกคนทั้งซี-ศิวัฒน์ น้ำชา ญาณี ตราโมท ลูกหว้า พิจิกา ปิง ฟรุ๊ตตี้ ฯลฯ รวมทั้งนักแสดงประกอบล้วนแต่โดดเด่นไม่แพ้กัน เพราะเป็นการแสดงลานกลางแจ้ง ทุกคนต้องใช้พลังอย่างเต็มที่มากกว่าการแสดงในโรงละครปกปิด ไม่เว้นแม้กระทั่งม้า 2 ตัวที่นำมาเข้าฉาก เรียกรอยยิ้มและเสียงหัวเราะที่แสดงได้ตรงบทเป๊ะราวกับฟังภาษาคนรู้เรื่อง
 
          นอกจากจะซาบซึ้งกับเพลงอมตะ ”หัวหินสิ้นมนต์รัก” ที่นำมาถ่ายทอดใหม่โดย 2 นักแสดงแล้ว งานนี้ทั้ง ซี และน้ำชา ต่างโชว์พลังเสียงกันเต็มที่ ซีที่เคยผ่านละครเวทีสุนทราภรณ์มาแล้ว จึงเป็นเรื่องไม่ยากเกินความสามารถ น้ำชาแม้จะแสดงละครเวทีเป็นครั้งแรกก็สามารถผ่านฉลุยด้วยเสียงที่ใสกังวาน อาโย-ญาณี ถ่ายทอดอารมณ์การแสดงได้แบบชั้นครูจนคนดูน้ำตารื้น ด้าน ปิง ฟรุ๊ตตี้ ก็สร้างสีสันเรียกเสียงฮาได้ไม่น้อย ส่วน ธีร์ อาศัยความหล่อเหลากระชากใจสาวๆ นักร้องสาว ลูกหว้า พิจิกา ก็สะกดอารมณ์ผู้ชมด้วยน้ำเสียงกินใจ โดยเฉพาะเพลง “ราตรีประดับดาว” เพลงพระราชนิพนธ์ในรัชกาลที่ 7 ที่นำมาถ่ายทอดจนผู้ชมหลั่งน้ำตาซาบซึ้งในความรักที่ยิ่งใหญ่ของพระองค์ท่าน และผูกโยงมาถึงในหลวงราชินีที่ทรงพระราชดำเนินมายังวังไกลกังวลหลังจากพระราชพิธีอภิเษกสมรส
 
          หลังจบการแสดงในรอบสื่อที่มีประชาชนชาวหัวหินจูงลูกจูงหลานไปดูกัน ได้ยินมากับหูจากผู้หญิงชาวบ้านคนหนึ่งที่บอกว่า ดูละครเรื่องนี้แล้วรักหัวหินมากยิ่งขึ้นอีก
 
          นอกจากมีการแสดงละครเพลงแล้วยังมีการแสดงนิทรรศการ “คือรักที่ป้องไทยให้ไกลกังวล” นิทรรศการเทิดพระเกียรติที่จะทำให้คนไทยเข้าใจในความรักที่ทรงมีต่อคนไทยและใกล้ชิดทั้งสองพระองค์มากขึ้นอยู่หน้างาน ซึ่งถ้าเป็นไปได้ ทางเจ้าของสถานที่น่าจะหาอาคารสักแห่งทำเป็นนิทรรศการถาวรกันไปเลยเพราะพระบรมฉายาลักษณ์ พระราชกรณียกิจและเนื้อหาต่างๆ ที่นำมาแสดงหาดูได้ยากยิ่ง
 
          ถ้าเป็นไปได้ ชาวหัวหินและคนต่างถิ่นที่ได้ไปชมมีความรู้สึกร่วมกันว่า อยากให้มีงานการแสดงคุณภาพอย่างนี้ทุกปี เพราะที่ผ่านมามีเทศกาลดนตรีหลายๆ งานที่จัดขึ้นมาแล้วทำร้ายจิตใจคนพื้นที่ชาวหัวหินมานานหลายปี
.......................................
(หมายเหตุ ไกลกังวล มิวสิคัลฯ : คอลัมน์ เป็นคุ้งเป็นแคว โดย... เคน สองแคว)