
ผีมีจริงหรือไม่..??? 2
ผีมีจริงหรือไม่..??? 2 : คอลัมน์ร้อยพบพันเจอ กับ มิสเตอร์บางอ้อ
ครั้งที่แล้วผมเกริ่นถึงเรื่อง ผีมีจริงหรือไม่ และวันหนึ่งผมมีโอกาสไปถ่ายทำรายการตอน “นิติวิทยาศาสตร์” ในห้องนี้มีศพอยู่ 8 ศพ ผมสะดุดตาและสงสารเป็นอย่างมากคือเด็กสาวหน้าตาดีคนหนึ่งเธอถูกคนร้ายข่มขืน ฆ่าปาดคอเสียชีวิต และที่สำคัญเธอมีลูกเล็กๆ ในท้องด้วย....ผมมองหน้าเธอและสวดมนต์แผ่เมตตาให้ด้วยความเวทนา ว่าไม่น่ามาจบชีวิตลงอย่างน่าอนาถแบบนี้
หลังจากเสร็จงานทุกคนออกมานอกห้อง บ้างก็ไปดื่มน้ำ สูบบุหรี่ ส่วนผมขอตัวไปเข้าห้องน้ำเพราะรู้สึกสะอิดสะเอียนเต็มทน... ระหว่างทางไปห้องน้ำพระอาทิตย์ก็ค่อยๆ มืดลง ผมต้องเดินจากห้องผ่าศพผ่านตัวอาคารที่มีทางเดินทอดยาวไปยังโรงพยาบาล ผมรู้สึกอ่อนแรง ตัวรุมๆ โพรงจมูกชา ตาลอย คล้ายคนตกงาน เดินทอดน่องไปอย่างช้าๆ บนทางเชื่อม เปลี่ยวๆ แคบๆ และเงียบสงัด ระหว่างเดินมาสักครู่ ก็มาถึงทางแยกรูปตัวที...ผมสะดุดใจกับเสียงๆ หนึ่ง.... มันเป็นเสียงร้องไห้สะอึก สะอื้น เบาๆ ผมหยุดเดินตรงแยกนั้นแล้วคิดในใจ...”ทางสามแพร่ง...เอาแล้วกู...!!!”
ผมพยายามมองหาที่มาของเสียงแต่ก็ไม่เห็นใคร แล้วค่อยๆ ก้าวเท้า...เพื่อให้ถึงทางแยก เผื่อที่มาของเสียงอาจอยู่แยกทางซ้ายหรือไม่ก็แยกทางขวา... แต่อีกใจก็คิดจะหันหลังกลับ... “ทำใจดีๆ ไว้น่าหนุ่ม...ก็นายอยากเห็นไม่ใช่เหรอ?” ผมถามแบบให้กำลังใจตัวเอง... "หรือวันนี้จะเป็นวันที่เราจะได้เจอกับตัวเองจริงๆ สักที...จะได้หายสงสัยกับสิ่งที่เป็นคำถามมานาน" คิดอย่างนี้แล้วผมไม่รอช้าตัดสินใจก้าวต่อไปข้างหน้า...พอถึงทางแยกผมหันหน้าไปทางที่มาของเสียง สิ่งที่เห็น ผมแทบไม่เชื่อสายตา ขนทุกเส้นในร่างกายของผมตั้งชันไปหมด ตัวที่เคยรุมๆ กลับเย็นยะเยือก นัยน์ตาที่โตอยู่แล้วก็เบิกโพลงขึ้นไปอีก หัวใจหล่นลงไปอยู่ที่ตาตุ่ม เพราะภาพที่ผมเห็น คือ หญิงสาวคนหนึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้ยาวเพียงลำพัง ร้องไห้สะอึกสะอื้น แล้วแน่นอนผมจำไม่ผิดแน่ๆ หน้าตาของเธอเหมือนกับคนที่ถูกฆ่าข่มขืนปาดคอ หญิงตายทั้งกลมคนนั้นไม่ผิดเพี้ยน ผมคิดในใจว่าใช่ ต้องใช่แน่ๆ มันเป็นอะไรที่พูดยาก ต้องเป็นผีแน่ๆ จึงรวบรวมความกล้า ยืนจ้องเธอเขม็ง ด้วยความตั้งใจที่จะจดจำภาพนี้...ประสบการณ์เห็นผีครั้งแรก ของ คงกะพัน แสงสุริยะ ในหัวก็ย้อนคิดถึงทุกสมมุติฐาน ทุกความเชื่อที่เคยรับรู้... เช่น... เธอเป็นวัตถุทึบแสงไม่ได้โปร่งแสงอย่างที่เขาว่ากัน... เธอมีเงาเหมือนคนปกติ เท้าเธอก็ไม่ได้ลอยจากพื้นและที่สำคัญเชื่อกันว่า คนที่ตายโหงมักจะมาพร้อมกับเสื้อผ้าและบาดแผลในครั้งสุดท้ายก่อนตาย แต่ภาพที่ผมเห็นก็ไม่เป็นเช่นนั้น ครู่ต่อมาผมตัดสินใจหันหลังกลับเพื่อจะเดินกลับไปหาเพื่อนๆ แล้วบอกให้รีบออกไปจากสถานที่แห่งนี้...แต่แล้วก็มีเสียงที่ไม่ปรารถนาดังขึ้น เสียงของเธอผู้นั้น “ พี่คะ!!!” ผมสะดุ้งแล้วรวบรวมความกล้าหาญของลูกผู้ชายทั้งหมดที่มีหันหลังกลับไป “ครับ” ใจหนึ่งกลัวที่สุด...อีกใจหนึ่งก็ภูมิใจที่นอกจากเห็นผีครั้งแรกแล้ว ผียังเรียกอีก..... “คุณหมอจะมาตอนไหนคะ? หนูรอคุณหมออยู่ค่ะ” เธอเช็ดคราบน้ำตา แล้วถามผมอย่างนุ่มนวลผมคิดในใจ “เอาแล้ว...เธอต้องอาฆาตหมอแน่ๆ ที่ทั้งผ่าท้องเธอ เอาตับไต ไส้พุงของเธอออกมา ผ่าหัวเธอ เอาสมองออกมา แล้วเราก็ยืนดู ไม่ได้ช่วยอะไรเธอเลย เธอจะโกรธเราด้วยหรือปล่าว...” ผมยืนนิ่ง กรามค้าง...อากาศรอบตัวเหมือนติดลบสักสิบองศาทั้งที่เป็นฤดูร้อน... ระหว่างรอคำตอบที่คิดนานมากอยู่นั้น เธอพูดต่อ.... “พอดีหนูจะมารับศพพี่สาวฝาแฝดของหนูค่ะ ต้องรอคุณหมอมาเซ็น” เธอพูดจบผมที่กำลังจะช็อกหมดสติก็กลับมามีชีวิตอีกครั้ง และถึงบางอ้อว่า เธอไม่ใช่ผี... เธอเป็นคน... เป็นน้องสาวที่มารับศพพี่ที่หน้าเหมือนกันยังกับแกะนั่นเอง...ผ่านเหตุการณ์วันนั้นมา ผมเล่าเรื่องนี้ให้ทุกคนที่ผมพบเจอฟังอยู่ประมาณ 3 วันเต็มๆ... ในที่สุดผมก็ยังไม่เคยพบเจอกับคุณผีจริงๆ สักที และคงไม่อยากรู้ความจริงเรื่องนี้อีกต่อไป...
นั่นเพราะถ้าเราคิดดูดีๆ เรื่องบางเรื่องเราจะอยากรู้ไปทำไม การรู้ทุกอย่างใช่ว่าจะดีเสมอไป...ก็เพราะมนุษย์เรารู้มากไปใช่หรือไม่ถึงได้ขุดโน่นขุดนี่มาใช้กันจนทรัพยากรแทบหมด แล้วก็เป็นปัญหาโลกร้อนอยู่ในทุกวันนี้...ก็เพราะคนเรารู้มากไปถึงได้สร้างอาวุธ สร้างระเบิดมาฆ่าฟันกันเอง...:) เราจึงควรรู้แต่พอดี ...แล้วถ้าเกิดวันหนึ่งเรารู้ว่าบุญบาป กฎแห่งกรรม นรกสวรรค์มีจริงหรือไป?? สมมุติว่าถ้าคำตอบคือ “ไม่” ลองคิดดูนะครับว่าโลกของเราจะอยู่กันอย่างไร
.......................................
(ผีมีจริงหรือไม่..??? 2 : คอลัมน์ร้อยพบพันเจอ กับ มิสเตอร์บางอ้อ)