
เล่นหูเล่นตา : ชุลมุนชุลเก(ย์)
ชุลมุนชุลเก(ย์) : คอลัมน์ เล่นหูเล่นตา โดย... เจนนิเฟอร์ คิ้ม
มีชีวิตผ่านปีใหม่มาแล้วกว่า 2 อาทิตย์ ที่เหลือฉันก็เลิกนับแล้วค่ะ เอาเป็นว่าใช้ชีวิตให้คุ้มค่าและมีความสุขอยู่ทุกวันจะดีกว่า (เนยมั่นใจ!) … ที่ผ่านมาไตรมาสสุดท้ายของปีก็ทำงานกันอย่างเหน็ดเหนื่อย แต่ ... อย่ามาบ่นเพราะเนยจะไม่ทน! (เอ๊ะ! อีเนยนี่มันใครกัน?) มีงานทำจะมากจะน้อยก็ยังเรียกได้ว่าเป็นคนที่ “มีประโยชน์“ อย่างน้อยก็ยังหาเงินมาจุนเจือปากท้องของตัวเองและครอบครัวได้ บางทีฉันก็ไม่ค่อยเข้าใจใครๆ ที่ชอบบ่นว่า “เหนื่อย“ ก็ไม่รู้ว่าเขาวัดกันจากอะไร สำหรับฉันแล้วให้ตายคางานดีกว่านั่งหายใจทิ้งไปวันๆ จำได้ว่าสมัยที่ร้องเพลงใหม่ๆ ไม่เคยมีวันไหนที่ฉันอยากหยุดทำงาน ฉันออกไปทำงานร้องเพลงทุกวันตลอด 20 ปี จะหยุดก็แค่ป่วยหนักๆ วันหยุดของฉันๆ ก็ยังไปรับจ้างร้องแทนพี่ๆ ที่เขาเรียกไปแทน บางครั้งมันไม่ได้อยู่ที่ว่าได้เงินมากน้อยแค่ไหน ขอแค่ได้ทำ! ดีกว่าอยู่บ้านเฉยๆ ... เตี่ยจะคอยสอนเสมอว่า “บนถนนมีเหรียญสลึง เหรียญบาทให้เราเก็บตลอดเวลา ขยันเก็บก็ได้มาก อย่าไปรอแบงก์ร้อย แบงก์พัน เพราะคนเราวาสนาไม่เท่ากัน“ การร้องเพลงแทนในวันหยุดที่ฉันประทับใจที่สุดก็คือการได้ไปร้องแทน “พี่อี๊ด“ (สุนทรีย์ จวบสมัย แชมป์สยามกลการ) เวลานั้นฉันยังเด็กและด้อยทั้งประสบการณ์และชื่อเสียงไปแทนคนอื่นก็แล้วแต่ว่าเขาจะกรุณาให้สักกี่ร้อย แต่พี่อี๊ดให้ราคาเท่ากับที่แกได้จากโรงแรม 2,000 บาท ร้องประมาณ 2 ช่วงๆ ละ 45 นาที ในเวลานั้นถือว่าสูงมาก มันคือการสอนอย่างหนึ่งพี่อี๊ดสอนให้ฉันรู้ว่า “รุ่นใหญ่ต้องใจใหญ่“ ทำอะไรให้เด็กๆ มันเคารพและเกรงใจ ... ใจมาก่อนเงินเสมอ ... เนยมั่นใจ! (อีกที) ทุกวันนี้แม้ฉันจะไม่ได้ทำงานทุกวันเหมือนแต่ก่อน ทุกครั้งที่มีงานทำฉันก็จะตั้งใจและกระตือรือร้นที่จะทำราวกับว่าเป็นการร้องเพลงครั้งสุดท้ายในชีวิตเสมอ อีกคนที่ยังคงเป็นต้นแบบในความขยันที่ฉันเห็นตลอดมาก็คือ “โก้ มิสเตอร์แซกแมน“ น้องชายตัวกลมของฉันนั่นเอง ต่อให้เก๊าต์ (โรคประจำตัว) รับประทานแค่ไหนโก้ยังตะเกียกตะกายไปทำงานไม่เห็นแก่เหน็ดเหนื่อยหรือเงินน้อย งานฟรีก็ยังทำ (ประจำ) ทำด้วยใจมาตลอด โก้บอกว่า “ในหลวงของเรายังทรงทำงานหนักกว่าพวกเราร้อยเท่าพันเท่า แค่นี้ไม่เหนื่อยหรอกพี่ นึกถึงท่านแล้วก็มีกำลังใจทำงานทุกครั้ง ...“ โถ่พ่อคุณ! ทูนหัวของนม น้ำตาจะไหล หน้าตาไม่ให้แต่จิตใจดี ทำงานหนักขนาดนี้ก็ไม่เคยเห็นมันผอมเสียที! นี่แหละคนเลยไม่ค่อยสงสาร นึกไปถึงเด็กขอทานอ้วนๆ ที่เดินมาขอเงินตามร้านอาหาร เราก็จะนึกในใจว่า “อ้วนขนาดนี้ไม่น่าจนและไม่น่าสงสาร!“ โก้ก็คงไม่ต่างจากนั้น ... แหม! ในความจริงทำงานหนักมันก็เลยกินหนักจะได้เก็บสะสมไขมันไว้เป็นพลังงาน ... ไม่น่าสงสารตรงไหน? เนยไม่เข้าใจ!
งานอะไร? ตรงไหน? เมื่อไหร่? กับโก้ทำหมด ขออย่างเดียวอย่าเบี้ยวค่าตัว ... เดี๋ยวด่า! ให้ค่าแรงน้อยกว่าไม่ว่าแต่อย่ามาใช้ฟรี (บ่อยๆ) เพราะเตี่ยกับแม่กินข้าวไม่ได้กินน้ำใจ! แต่สำหรับโก้ถึงจะฟรี (ทุกที) โก้ก็ไม่เคยบ่นเพราะพ่อแม่โก้ตายหมดแล้วน่ะเซ่! ขืนยังมีชีวิตอยู่ตรงนี้คงไล่ลูกชายให้ไปอยู่มูลนิธิไม่ต้องมาเป็นนักดนตรีเพราะชอบทำงานฟรี ไม่มีค่าตอบแทน ... ถ้าทำงานแล้วไม่คิดถึงตังค์ ฉันทำให้กับคน 2 กลุ่ม หนึ่ง ... เพื่อนรัก สอง ... ผู้มีพระคุณ ติดติ่งอีกนิด คนเส้นหย่าย ... เพราะในสังคมของพวกเรา ถ้าไม่สร้างมิตรก็อย่าสร้างศัตรู บางทีการปฏิเสธงานสักงานก็คือการสร้างศัตรูที่ไม่รู้ว่าใหญ่แค่ไหน ไม่อยากจะทำงานไปเสียวสันหลังไป ว้า! พูดความจริงอีกละ!
งานของนักร้องเป็นงานที่แตกต่าง และเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอดเวลาโดยเฉพาะนักร้องรับจ้างแนวแม่ค้าอาหารตามสั่งอย่างฉัน บางทีฉันก็อิจฉาพวกนักร้องที่ร้องเพลงของตัวเองตลอดดีจัง! ไม่ต้องต่อเพลงใหม่ๆ แต่ถ้าฉันเป็นแบบนั้นจริงๆ มันคงไม่ตื่นเต้นแบบทุกวันนี้ที่ไม่เคยได้รู้มาก่อนว่าจะเจองานแบบไหนแล้วต้องร้องเพลงตามสั่งอะไร สักกี่เพลง ยากง่ายแค่ไหน การเป็นนักร้องงานอีเวนท์เขาเน้นที่เพลงเข้ากับงาน ไม่ว่าจะจีน ไทย ฝรั่ง เพลงช้า เพลงเร็วที่สลับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไม่จบสิ้น ข้อดีก็คือสนุกดีได้ทำอะไรแปลกๆ ใหม่ๆ ข้อเสียก็คือมั่วเนื้อทุกที โธ่! เห็นใจกันบ้างเถอะค่ะคุณตำรวจ ปีๆ หนึ่งร้องเพลงคนอื่นไม่รู้กี่สิบเพลง ขึ้นคอนเสิร์ตทีร้องเพลงชาวบ้านร่วม 40 เพลง ... ใครจะไปทนไหวคะคุณตำรวจ! (เกี่ยวอะไรกันเนี่ย)
งานโดยปกติของฉันก็คือ อีเว้นท์อย่างที่บอก ทำงานคนเดียวบ้าง กับวงดนตรีบ้าง กับแดนเซอร์บ้าง แต่ที่สนุกและชุลมุที่สุดคือ ทำกับนายแบบ ... อือ ... นายแบบหล่อๆ นั่นแหละทั้งที่อิมพอร์ตนำเข้ามาจากต่างประเทศและในประเทศ โดยเฉพาะอย่างยิ่งดาราหล่อๆ ดังๆ ที่เขาเอามาเรียกสื่อ เรียกคนให้มาดู วุ้ย! กรี๊ดกันแสบแก้วหู แต่รู้มั้ยว่าเบื้องหลังของการเดินแบบชุดเนี๊ยบๆ ไปจนถึงแนวๆ ที่เดินตรงหน้านิ่งเหมือนหุ่นเขาต้องทำเอฟเวอรี่ติงส์หลายสิ่งมากมายแค่ไหน ฉันเองก็ไม่ค่อยรู้จนได้ไปดูไปรู้มากับตา “คิ้มรู้ โลกรู้“ ต้องเอามาเล่าสู่กันฟังในฐานะคนนอกอย่างฉันและคุณผู้อ่านที่รัก ... ความที่ฉันมีเพื่อนรักเป็นเจ้าของห้องเสื้อ Zenithorial “พี่เล้ง“ (อดิศักดิ์ โรจน์ศิริพันธ์) ที่ฉันตบชุดแกมาใส่บ่อยๆ พร้อมกับเครื่องประดับที่ทำให้ดูร๊วยรวย (ยืมเขามาล้วนๆ) จากโอลิเวียร์ ไดมอนด์ (Olivia Diamonds) พี่เล้งมักทำงานร่วมกับเพื่อนซี้ของแก “พี่หนุ่ม“ (อภิวัฒน์ ยศประพันธ์) สไตลิสต์นิตยสาร “แพรว“ จัดแฟชั่นโชว์ให้ลูกค้าไฮโซมากมาย ล่าสุดเขาจัดโชว์เสื้อผ้าผู้ชายให้กับ 3 แบรนด์ที่พารากอน ฉันก็ได้ไปร่วมงานที่ไม่ถนัดแต่ชอบ ร้องเพลงแล้วปล่อยให้ผู้ชายหล่อๆ เดินผ่านหน้า “ห่างแค่นี้ ... องศาเดียวจริงๆ ...“ แต่ก็ทำอะไรไม่ได้ๆ แต่มองเพราะ “คนบางคนผ่านมาให้รัก ไม่ได้เกิดมาเพื่อคู่กัน ...“ (ผ่านมาให้แค่จำ - พีท พีระ) ... ช่วงที่น่าดู เอ๊ย! สำคัญที่สุดคือ ช่วงฟิตติ้ง (Fitting) หรือ ลองชุด ผู้ชายหล่อๆ พวกนี้ไม่เว้นแม้แต่ดาราดังต้องนุ่งกุงเกงลิงตามแนวถนัดจะรัดติ้วหรือโคร่งๆ เหี่ยวๆ ก็แล้วแต่แนวถนัดของใคร ทุกคนต้องลองสวมชุดเสื้อกางเกงที่พี่เล้ง-พี่หนุ่มเตรียมให้ ถ่ายรูปเก็บไว้แปะบนชาร์ต จะได้จัดเซ็ตและเรียงลำดับในวันจริงได้ถูกต้อง ช่วงนี้ทีไรฉันพลาดไป (ชื่น) ชมทุกที ถึงได้ไปก็เข้าไปไม่ถึง เพราะพวกผู้ชายกลุ่มที่แต่งตัวให้พวกนายแบบเข้าไป ชุลมุนชุลเก (ย์) กันอยู่ข้างใน เคยชะโงกเข้าไปดูก็ไม่รู้ว่าอะไรมันแน่นไปหมด (ทั้งคนทั้งกางเกง!) เอาวะ ... รอดูของจริง เอ๊ย! งานจริงเลยดีกว่า ... ที่สุดฉันก็เป็นชะนีนางเดียวที่ได้มานั่งอยู่ในหมู่นายแบบ ดารา อันประกอบด้วย “พอร์ช” ศรัณย์ (คนนี้เตี่ยกับแม่ฉันชอบมาก ตั้งแต่ลูกผู้ชายไม้ตะพด มาจนถึง หยกเลือดมังกร เตี่ยว่า ... ทั้งหล่อ ทั้งเล่นเก่ง ร้องไห้ก็เก่ง ... เตะก็เก่ง (กลัวตรงนี้แหละ) สรุปว่าของชอบของครอบครัวเลย จะดูซิว่าลูกผู้ชายไม้ตะพดจริงอ๊ะเปล่า) ตัวจริงของพอร์ช หน้าใสเรียวหล่อ หน้าเหมือน “ป๊อก” ปิยะธิดา ตาแป๋วๆ ตัวสูงมาก ขี้เล่นเป็นเด็ก เพราะอายุแค่ 21 (เด็กว่าหลานฉันอีก) มาถึงไม่พูดพร่ำทำเพลงถอดเสื้อต่อหน้าธารกำนัลอันได้แก่ สไตลิสต์ ช่างหน้า ช่างผมนับสิบ และอีแก่ (ฉัน) ด้านหลังฝั่งซ้ายทั้งแถบน้องสักเป็นลายคล้ายๆ มังกร ถึงสายตายาวแต่ก็มองไม่ค่อยชัดอยู่ดี ... แมนมากลูก! พี่ๆ ในห้องออกปากแซวว่า “สักลายไปทั้งหลัง ทำไมไม่สักไปถึงหน้าด้วยล่ะพอร์ช”
โปรดติดตามตอนต่อไป
.......................................
(หมายเหตุ ชุลมุนชุลเก(ย์) : คอลัมน์ เล่นหูเล่นตา โดย... เจนนิเฟอร์ คิ้ม)