วันของเด็ก-โฆษณา'เด็กๆ'สดใส | คมชัดลึก

          พอพ้นปีใหม่ หายใจไม่ทันเต็มเฮือก ก็เข้าเทศกาลวันเด็ก ที่วันนี้ก็เห็นความตื่นตัวในแทบทุกองค์กร ไม่ว่าจะรัฐ หรือเอกชน โดยเฉพาะองค์กรใหญ่ๆ ก็เตรียมการขนานใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นช่อง 9 เอสซีจี กระทรวงศึกษาธิการ ธนาคารออมสิน ก็เตรียมตั้งโต๊ะจัดงาน อย่างปตท.ที่เป็นองค์กรขนาดใหญ่ ก็เต็มยกหน่อยลงสื่อโฆษณาเชิญชวน เด็กดู “ไดโนเสาร์คืนชีพกลางกรุง” ส่วนธนาคารกรุงเทพที่เป็นรายใหญ่ของประเทศ ก็ใช้วิธีออกโรดโชว์ร่วมกับค่ายกันตนา ทั้งหมดนี้ก็คงชี้ให้เห็นว่า เด็กไทยยังคงได้รับความสำคัญและเป็นอนาคตของชาติ
 
          ด้วยความหมาย และความยิ่งใหญ่ของ "เด็ก” ว่าคือ “อนาคต” คือ “ความหวัง” ในช่วงปลายปีที่ผ่านมา วงการโฆษณาและนักการตลาดก็เริ่มไม่ทำให้ผิดหวัง เพราะหลายแบรนด์ต่างหันมาใช้ “เสียงของเด็ก” เป็นตัวแทนกลุ่มผู้บริโภคได้อย่างน่ารัก น่าสนใจ ทั้งนี้ส่วนหนึ่งอาจจะเป็นเพราะผู้บริโภคก็เริ่มเบื่อๆ กับซุปตาร์หน้าเดิมที่อยู่ในสินค้าทุกแบรนด์ทุกประเภทจนบางทีแทบจะจินตนาการได้ว่าในทุก 24 ชั่วโมง ท่านๆ ใช้สินค้าอะไรบ้าง
 
          ผลิตภัณฑ์ หรือแบรนด์ที่นำเด็กมาเป็นตัวเชื่อมได้อย่างน่าสนใจและมีการพูดถึงในปีที่ผ่านมา ก็เห็นจะเป็นโฆษณาจากธนาคารกรุงเทพ ในชื่อแคมเปญชุด “ทุกความสุข ยิ่งใหญ่เสมอ” กับโฆษณา โตขึ้นผมจะเข้านาซ่าให้ได้ ที่คุณพ่อถามลูกชายว่าอยากเป็นอะไร และลูกชายตอบว่าอยากเป็นนักบินอวกาศ และเจื้อยแจ้วถึงขั้นตอนจะเป็นนักบินอวกาศที่ใครดูแล้วก็อมยิ้มกับความฉลาดของเด็กในโฆษณา ทั้งล่าสุดกับโฆษณาชุดคุณพ่อกับลูกสาวในงานวัดที่คุณพ่อโชว์ฝีมือประลองความแม่นในซุ้มงานวัดให้ลูกสาวดู ที่ปล่อยออกมา 2 ตอน ซึ่งแม้จะเรียบง่ายแต่โดนใจเรียกยิ้มจากคนดูได้ไม่แพ้กัน
 
          โฆษณาอีกชุดที่ได้ยินการพูดถึงและกล่าวชม คือ ชุด “การใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า” ของ ปตท. ที่ทำออกมาหลายตอนด้วยกัน เจตนาของโฆษณาชุดนี้ดูเหมือนว่าเพื่อให้ “เสียงจากเด็ก” ช่วยปลูกจิตสำนึกให้ผู้ใหญ่ทั้งหลายได้รู้จัก รู้ใช้พลังงานอย่างรู้คุณค่า เผื่อเหลือไว้ให้ลูกหลานในอนาคตผ่านความคิดเห็นในการช่วยประหยัดพลังงานของเด็กๆ ไม่ว่าจะเป็นไม่ใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าก็ปิด เติมน้ำมันด้วยแก๊สโซฮอล์ ปิดคอมพิวเตอร์เมื่อเลิกใช้ ปลูกต้นไม้ และอื่นๆ เพื่อรณรงค์ให้เห็นว่าการประหยัดพลังงานเป็นเรื่องง่ายที่ใครก็ทำได้แม้แต่เด็กเองยังรู้
 
          ด้วยความสดใส ความเดียงสาของเด็ก ทำให้ชิ้นงานโฆษณาที่ใช้เด็กดำเนินเรื่องมักจะ “เข้าถึง” และได้รับความนิยม ผลที่ได้ก็ตรงตามโจทย์ของผลิตภัณฑ์หากไม่ออกไปในรูปมีจริตเกินเด็ก
 
          ว่าแล้วก็ต้องยกนิ้วให้กับโฆษณาเด็กอีกชุด คือ “Smoking Kid” ที่เป็นของ สสส. จัดทำโดยโอกิลวี่ ประเทศไทย ซึ่งแม้แต่สำนักข่าว "อัล จาซีร่า" ยังกล่าวถึง
 
          โฆษณาชุดนี้ใช้เทคนิคการถ่ายทำแบบแคนดิด และเผยแพร่บนสื่อออนไลน์ เนื้อหาจะเริ่มจากจับภาพไปที่ชายหญิงตั้งแต่วัยรุ่นไปจนถึงวัยกลางคนยืนสูบบุหรี่ในที่สาธารณะต่างๆ และเด็กในโฆษณาจะเข้าไปถามว่า "พี่ครับมีไฟไหมครับ/ค่ะ" เพื่อที่จะจุดบุหรี่ และจากนั้นเหล่าผู้สูบบุหรี่ทั้งหลายต่างตักเตือนว่าการสูบบุหรี่ไม่ดี แล้ว เมื่อพวกเขาพูดจบ เด็กก็ถามกลับไปว่า "ไม่ดีแล้วพี่สูบทำไมละครับ/ค่ะ" พร้อมกับยื่นกระดาษที่มีข้อความว่า "ห่วงหนู แล้วทำไมไม่เคยห่วงตัวเอง" และข้อความระบุด้านล่างอีกว่า "เตือนตัวเองก่อนสูบ คำเตือนเลิกบุหรี่ที่ได้ผลที่สุด โทร.1600 สายด่วนเลิกบุหรี่" ให้แก่คนเหล่านั้น
 
          ไม่ใช่แค่สินค้าไทยเท่านั้นที่ใช้เด็กมาเป็นตัวเอกในโฆษณา แต่ยักษ์ใหญ่อย่าง แอปเปิล และ ซัมซุง เองก็ใช้เหมือนกัน ไม่นับแบรนด์อื่นๆ ทั่วโลกที่เราอาจจะผ่านตาบ้างไม่ผ่านตาบ้าง เท่านี้ก็ทำให้เห็นว่าเด็กนั้นแสนจะมีอิทธิพล!! เพราะเด็กเป็นฟันเฟืองชิ้นสำคัญที่จะสามารถเปลี่ยนแปลงอนาคตของประเทศ ยิ่งประเทศใกล้เข้าสู่ประชาคมอาเซียนด้วยแล้วเด็กรุ่นใหม่ยิ่งต้องต่อสู้ทำหน้าที่ของตัวเองเพื่อขับเคลื่อนประเทศไปสู่ความเจริญ เหมือนกับท้ายคำขวัญวันเด็กปีนี้ที่ว่า
 
          “รักษาวินัย ใฝ่เรียนรู้ เพิ่มพูนปัญญา นำพาไทยสู่อาเซียน”
.......................................
(หมายเหตุ วันของเด็ก โฆษณา "เด็กๆ" สดใส : คอลัมน์ เกรียนติดจอ โดย... โศภิณ เงินสวัสดิ์)