บันเทิง

ฝากรอยเท้าเอาไว้..ในไทยแลนด์เกมโชว์(ครั้งสุดท้าย?)

ฝากรอยเท้าเอาไว้..ในไทยแลนด์เกมโชว์(ครั้งสุดท้าย?)

08 ม.ค. 2556

ฝากรอยเท้าเอาไว้..ในไทยแลนด์เกมโชว์(ครั้งสุดท้าย?) : คอลัมน์ หนุ่ยรู้-โลกรู้ โดย... หนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์@nuishow

          11-12-13 มกราคมนี้ จะเป็นปีที่ 7 ของงานไทยแลนด์เกมโชว์หรือมหกรรมเด็กเล่นเกม (ณ ไบเทคบางนา) แล้วนะครับ "นี่ผมจัดงานนี้มา 7 ปีติดต่อกันแล้วหรือเนี่ย!?" กล่าวแบบหนังรันทดก็ต้องบอกว่า "เป็น 7 ปีที่ผมและทีมงานไม่มีวันปีใหม่แบบหย่อนใจกับใครๆ เขา" เนื่องด้วยเราต้องเตรียมงานสเกลใหญ่มหึมาให้ทันเสาร์ที่ 2 ของเดือนมกราคมของทุกปี นั่นคือ "วันเด็กแห่งชาติ" นั่นเอง กับเนื้องานที่ใหญ่ยักษ์กว่างานวันเด็กทั่วไป

          ..โดยส่วนใหญ่งานวันเด็ก ณ สถานที่ต่างๆ จะใช้เวลาเตรียมการไม่มากนัก หน่วยงานและองค์กรผู้ใหญ่ใจดีต่างๆ จะสละพื้นที่หน้าอาคารของตนจัดงานวันเด็กโดยนำลูกโป่ง, วงดนตรี, ตัวตลก ฯลฯ มาต้อนรับเด็กๆ และเปิดโอกาสให้เด็กๆ สัมผัสกับของที่ผู้ใหญ่ใช้ทำงาน หรือแสดงความสามารถอะไรก็ได้ที่เด็กๆ ถนัด (บ้านเราส่วนใหญ่ก็ต้องแนวร้องๆ เต้นๆ) เราจึงได้เห็นวันเด็กในรูปแบบ "ปีนรถถัง-นั่งเก้าอี้นายก" มาตลอดช่วงอายุ

          ในวัยเด็กของผมนั้น ผมเองก็ผ่านกิจกรรมเหล่านี้มาบ่อย พอโตขึ้นก็คิดว่า "วันเด็ก" นั้น มีเพื่อเด็กเล็กๆ แต่ไม่มีใครจัดงานวันเด็กให้เด็กโตเลย เมื่อโตพอที่มีกำลังจะจัดเองได้จึงอยากสร้างความสุขให้เด็กโตทั่วประเทศ วัยที่กำลังอยากจากอกพ่ออกแม่ไปแสวงหาการยอมรับจากกลุ่มเพื่อนๆ แทน การจัดงานวันเด็กสำหรับเด็กโตที่พ่อแม่ลูกจูงมือกันมาได้จึงถือกำเนิดขึ้น

          "งานไทยแลนด์เกมโชว์" คือการรวมเกมดังจากทุกค่ายเกมชั้นนำมาจัดแสดงเป็นนิทรรศการขนาดใหญ่ การเปิดตัวเกมใหม่ๆ ที่แฟนเกมรอคอยในรูปแบบที่ตื่นเต้นแบบเดียวกับที่อุตสาหกรรมเกมต่างประเทศเขามีงานมหกรรมใหญ่ๆทุกปี
- ญี่ปุ่นมี Tokyo Game Show
- เกาหลีมี G Star
- อเมริกามี E3 Electronics Entertainment Expo
- จีนมี China Joy
- ประเทศไทยมี Thailand Game Show

          ผนวกกับไฮไลท์จากผู้จัดที่ตั้งใจจัดจากโจทย์ "ทำในสิ่งที่เด็กไทยยังไม่เคยเห็น" ไทยแลนด์เกมโชว์ได้รับเสียงตอบรับที่ดีในฐานะ "วันเด็กที่สนุกที่สุดในชีวิต" เพราะเราสร้างสรรค์เวทีแข่งเกมที่สนุกที่สุด เชิญนักพากย์กีฬา-การ์ตูนระดับประเทศมาพากย์การแข่งขันเกมรอบชิงชนะเลิศ ทำเอานักแข่งขนลุกขนชันระหว่างแข่งขัน ไม่ว่าจะกดปุ่มอะไรไปก็มีเสียงสดของนักพากย์ที่คุ้นเคยพากย์ตลอดการแข่งขัน ซึ่งถึงเราไม่ได้แข่งกะเขาบนเวทีแค่มานั่งชมก็ฮาน้ำหูน้ำตาไหลแล้วครับ อีกทั้งยังมีคอนเสิร์ตเพลงการ์ตูนจากนักร้องต้นฉบับจากประเทศญี่ปุ่นที่เรียกเหล่าสาวกเด็กโข่งที่รอชมโชว์นี้มายาวนานกว่า 15 ปี พอจัดแล้วสนุก ผู้จัดก็กัดฟันจัดต่อให้อีก 4ครั้ง สร้างความสุขใหญ่ๆ ให้มหาชนที่ได้เข้าชมงานได้อย่างดี..

          ที่ว่าต้อง "กัดฟันจัด" ก็เพราะปีๆ หนึ่ง ผมและทีมงานใช้เวลาเตรียมงานนี้ 6 เดือน (เริ่มประชุมคิดคอนเซ็ปต์งานประจำปี, ค้นหาข้อมูล, หาความเป็นไปได้, พรีเซ้นต์หน่วยงานภาครัฐสำหรับขอการสนับสนุน) เหนื่อยหนักๆ 4 เดือนคือทำทุกอย่างที่พรีเซ้นต์ไว้ให้เป็นจริงได้ และ "ปวดหัวสุดๆ 2 เดือน" เมื่อพบว่างบประมาณและผู้ร่วมสนับสนุนไม่เต็มกำลังนักกับเรา แต่เราก็ยังต้องทำความยิ่งใหญ่ให้ปรากฏกับอุตสาหกรรมเกมให้ได้ นี่แหละที่เครียดที่สุด ความเครียดวนลูบมาแบบนี้ทุกปี ไม่เคยมีปีไหนที่ได้นอนใจก่อนถึงวันงานเลย

          ตลอดหลายปีที่ผ่านมา ในช่วงโค้งสุดท้าย 2 เดือนก่อนงานผมจะนอนหลับฝันเป็นงานไทยแลนด์เกมโชว์นานหลายคืนติดต่อกันจนกว่าจะถึงวันงาน เนื้อหาสาระในฝันคือ "ฝันว่าจัดงานอยู่" ฝันว่ามีปัญหาสารพันต้องแก้โน่นนี่.. ปีที่แล้วปัญหา(ในฝัน)หนักมาก พอแก้ไขได้ก็ตื่น ..พอตื่นปุ๊บแล้วรู้ว่าเป็นเพียงฝัน! ผมร้องไห้เลย นึกว่าจัดงานเสร็จไปแล้ว

          สเกลงานมันใหญ่ไม่เพียงแต่พื้นที่ 10,000 ตร.ม.ที่เช่าพื้นที่มาแล้วก็ต้องจัดให้เต็ม แต่มันคือการแบกความคาดหวังทั้งจากผู้ร่วมแสดงงานและผู้ชมงาน ซึ่งแต่ละครั้งกินเวลาการจัดงานเพียง 3 วัน ศุกร์-อาทิตย์ มันช่างเหมือนการสร้างบ้านแล้วทุบทิ้งจริงๆ เลย

          ปีนี้ผมได้เพื่อนที่ดีอย่าง "เนชั่น บรอดแคสติ้ง คอร์เปอเรชั่น" ที่ช่วยเหลือทุกอย่าง และจัดงานนี้ด้วยกันตั้งแต่นับ 1 สิ่งที่เราเห็นด้วยกันคือ "คุณค่าของงานแสดงที่จะสร้างทรัพยากรมนุษย์ในอุตสาหกรรมความคิดสร้างสรรค์ต่อไปในอนาคต" เราไม่ได้มองเกมเป็น "แค่เกม" แต่เป็นเกมเป็นส่วนหนึ่งของอุตสาหกรรมความคิดสร้างสรรค์ ถ้าเราไม่ทำอะไรหรือไม่จัดการกับมัน มันก็เป็นแค่เครื่องมือมอมเมาเยาวชนในสายตาของผู้ใหญ่ที่ไม่ได้เล่นเกม แต่ถ้าเรามารวมตัวกัน มาแสดงพลังให้เห็นถึงความคิดสร้างสรรค์ที่เป็นสากล ไม่เพียงแต่มุมดีๆ จากนักพัฒนาที่จะถูกตีแผ่ นักเล่นเกมเก่งก็มีเวทีแสดงออกอย่างสร้างสรรค์ มีที่ยืนอย่างสง่างามที่บางครั้งพ่อแม่ในบ้านเขาอาจไม่เคยล่วงรู้ถึงความสามารถตรงนี้

          ไทยแลนด์เกมโชว์ 2013 จะยังคงสานฝันนักเล่นเกม, นักแต่ง Cosplay จากทั้งประเทศเฉกเช่นเคย เรายังเพิ่ม "เวทีอาเซียน" ให้นักพัฒนาเกมในภูมิภาคทั้ง 10ประเทศได้มารู้จัก-คบค้าสมาคมด้วยการนำผลงานเกมของตนมาเจรจาการค้าและเกิดการขายสิทธิ์ในอนาคต ประเทศไทยค่อนข้างได้เปรียบทางภูมิศาสตร์อยู่แล้วในด้านการเป็นศูนย์กลางอาเซียน แต่ถ้าเราไม่ทำอะไรเลย.. ศูนย์กลางเหล่านี้ก็จะเลื่อนพิกัดไปยังมาเลเซีย-สิงคโปร์ ประเทศพ่อค้าคนกลางที่ "ขยับมานาน" ตั้งแต่ยังไม่เปิดเสรีอาเซียน ผมอยากเห็นคนไทยเป็นมหาอำนาจทางความคิดสร้างสรรค์ เรามาร่วมกันนะครับศุกร์-เสาร์-อาทิตย์นี้ Thailand Game Show 2013 กับปีที่ผมรู้สึกเหนื่อยกับมันจนถึงขั้นท้อ 11-12-13 มกราคมนี้ผมอยากเห็นคุณทุกๆ คนที่อ่านคอลัมน์นี้ จะมางานกี่โมงก็ได้ภายใน 10.00-20.00 น. ที่ไบเทคบางนา ตลอด 3 วันนี้ เพียงคุณตัดคอลัมน์นี้มาแสดงที่จุดประชาสัมพันธ์หน้างาน เชิญคุณเข้าชมงานฟรีๆ เลยครับ ถือว่าคุณเป็นแขกของผมครับคุณผู้อ่านทุกคน!

          "การมา" ของคุณจะเป็นการต่อกำลังใจให้ผมเชื่อในสิ่งที่เชื่อต่อๆ ไป แล้วพบกันครับ อย่าลืมทักทายด้วย ผมอยู่ไบเทคบางนาตลอดช่วงเวลาทั้ง 3 วัน
.......................................
(หมายเหตุ ฝากรอยเท้าเอาไว้..ในไทยแลนด์เกมโชว์(ครั้งสุดท้าย?) : คอลัมน์ หนุ่ยรู้-โลกรู้ โดย... หนุ่ย พงศ์สุข หิรัญพฤกษ์@nuishow)