บันเทิง

Cutthroat Island หนังเจ๊งที่แสนสนุก

Cutthroat Island หนังเจ๊งที่แสนสนุก

07 ธ.ค. 2555

Cutthroat Island หนังเจ๊งที่แสนสนุก : คอลัมน์เอกเขนกดูหนัง : โดย...ณัฐพงษ์ โอฆะพนม (เอก)

               มีโอกาสได้ดูหนังที่ว่ากันว่าสร้างความหายนะให้แก่ผู้สร้างมากที่สุดเรื่องหนึ่งในโลก หนังเรื่องนี้เคยเป็นเจ้าของสถิติหนังที่ล้มเหลวที่สุดในด้านรายได้เป็นอันดับหนึ่งของโลกเลยทีเดียว ก่อนจะเสียแชมป์ให้แก่ John Carter เมื่อต้นปี (ซึ่งไม่น่าจะมีใครภูมิใจกับเจ้าของสถิติแบบนี้เป็นแน่!) หนังเรื่องที่ว่าก็คือ “Cutthroat Island” ออกฉายครั้งแรกเมื่อปี ค.ศ. 1995

               มองด้วยสายตาคนดู “Cutthroat Island” ไม่ได้เลวร้ายอะไรนักหนา และถ้าสวมแว่นมองด้วยสายตาแห่งความเป็นจริงของยุคสมัยก็จะพบว่า หนังโจรสลัดเรื่องนี้ ก้าวล้ำไปกว่าหนังที่ออกฉายในช่วงเวลาเดียวกันด้วยซ้ำ และหากเทียบเคียงกับหนังโจรสลัดร่วมสมัยที่กวาดรายได้ถล่มทลายมาแล้ว 4 ภาคติดๆ กันอย่าง “Pirates of the Caribbean” ก็จะเห็นว่า ความสนุกของหนังทั้งสองเรื่องไม่ได้ด้อยไปกว่ากันสักเท่าไหร่เลยไม่ว่าจะเป็น พล็อตเรื่อง คิวบู๊ การออกแบบฉากแอ็กชั่นทำลายล้าง หรือกระทั่งจังหวะจะโคน มุกตลก การวางลูกล่อลูกชนในหนังล้วนเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ต่างก็แค่ตัวละครนำ สลับเพศจากหญิงเป็นชายเท่านั้น เพราะถึงที่สุดแล้ว กัปตัน แจ็ค สแปร์โรว์ จอมยียวนโจรสลัดแห่งเรือ ‘Black Pearl’ และมอแกน อดัมส์กัปตันสาวห้าวแห่งเรือ ‘Morning Star’ ต่างก็เป็นตัวละครเปี่ยมเสน่ห์ สร้างสีสันให้แก่หนังได้ไม่ต่างกัน (ทั้งๆ ที่ “Cutthroat Island” ออกฉายก่อนนานร่วม 10 ปี)

               พล็อตหนังยังคงเป็นเรื่องมหานิยมอันว่าด้วยการตามล่าหาขุมทรัพย์ที่ปรากฏบนลายแทงซึ่งได้มาโดยบังเอิญ (และที่บังเอิญยิ่งไปกว่าคือทั้ง “Pirates of the Caribbean” และ “Cutthroat Island” ต่างมีตัวละครจำพวกญาติโกโหติกา เข้ามาข้องเกี่ยววุ่นวายกับการตามล่าหาสมบัติเหมือนๆ กันอีกด้วย) หนำซ้ำความอลังการของหนังก็ทัดเทียมสูสีกัน ทั้งฉากทำลายล้าง วินาศสันตะโรยิ่งใหญ่ไม่แพ้กัน เพราะต่างก็มีทุนสร้างพอฟัดพอเหวี่ยงกันในหลักร้อยล้านดอลลาร์ (แม้ ‘Pirates of the Caribbean’ ภาคแรก ที่ใช้เงินต่ำสุดในทั้ง 4 ภาคราว 140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และ ‘Cutthroat Island’ ใช้ทุนสร้างไป 98 ล้านดอลลาร์สหรัฐ แต่ถ้าเทียบค่าเงินในยุคสมัยเดียวกัน ทุนสร้างของทั้งสองเรื่องก็ไม่ได้ต่างกันมากนัก)

               แม้การถอดความนัยของคาแร็กเตอร์จนสามารถตีบทแตกกระจุยกระจายและเกาะกุมมันไว้อย่างเหนียวแน่นตั้งแต่ต้นจนจบ จอห์นนี่ เดปป์ จะทำได้ดีกว่า จนส่งผลให้กัปตัน ‘แจ็ค สแปโรว์’ กลายเป็นตัวละครสำคัญของหนังชุด ‘Pirates of the Caribbean’ ที่จะขาดเสียมิได้ และยังเป็นอีกหนึ่งตัวละครที่สร้างสีสันมากที่สุดในโลกภาพยนตร์ (ถึงขั้นที่ จอห์นนี่ เดปป์ ได้รับการเสนอชื่อเข้าชิงรางวัลออสการ์สาขานักแสดงนำชายจากบทบาทนี้มาแล้ว) แต่การแสดงของ จีน่า เดวิส ก็ไม่ได้เลวร้าย ย่ำแย่ เธอก็สามารถมีเสน่ห์ในแบบของเธอ แม้ตัวละคร มอแกน อดัมส์ จะไม่เป็นที่หลงรักและจดจำเท่า แต่ “Cutthroat Island” ก็วางพล็อต ออกแบบฉากแอ็กชั่นและจัดวางจังหวะได้อย่างเหมาะสมในความเป็นหนังบู๊-ตลก ที่ทั้งทำให้ลุ้นเอาใจช่วยตัวละคร และขบขันกับอาการพลาดท่าเสียทีของเหล่าวายร้าย ซึ่งต่างก็คือขุนน้ำขุนนางแห่งจักรวรรดินิยมเหมือนกับ ‘Pirates of the Caribbean’ นั่นเอง

               เมื่อ 17 ปีก่อน ถือเป็นยุคทองของผู้กำกับเชื้อสายฟินแลนด์-อเมริกัน เรนนี่ ฮาร์ลิน เพราะเขากำลังมือขึ้นจากการมีหนังทำเงินติดๆ กันหลายเรื่อง ตั้งแต่ A Nightmare on Elm Street 4: The Dream Master, Die Hard 2 และ Cliffhanger ทั้งยังได้ดาราระดับบิ๊กเนมในช่วงเวลานั้นมาร่วมงานด้วย ไม่ว่าจะเป็น บรู๊ซ วิลลิส, ซิลเวสเตอร์ สตอลโลน แถมยังได้รับการทาบทามให้มากำกับ “Alien 3” ก่อนจะถอนตัวออกไปเพราะความเห็นไม่ลงรอยกันกับผู้สร้าง แต่หลังจาก “Cutthroat Island” กราฟความสำเร็จในอาชีพผู้กำกับของเขาก็ดิ่งลงเหว ไม่เพียงหนังโจรสลัดที่สู้อุตส่าห์ปั้นศรีภรรยาเป็นดารานำจะล้มคว่ำไม่เป็นท่าแล้ว “The Long Kiss Goodnight” หนังเรื่องถัดมาที่ยังมี จีน่า เดวิส รับบทนำ ถึงแม้จะได้รับเสียงชื่นชมจากนักวิจารณ์แต่หนังก็ยังเจ๊งอย่างต่อเนื่อง กว่าจะกู้ชื่อผู้กำกับหนังทำเงินคืนกลับมาได้ก็ผ่านไปถึง 3 ปี ด้วยเรื่อง “Deep Blue Sea” และ “Exorcist: The Beginning” ปี 1998 ฮาร์ลิน เลิกรากับจีน่า เดวิส หลัง The Long Kiss Goodnight ออกฉายได้สองปี และเมื่อประมาณ 3-4 ปีก่อนหน้านี้ก็มีข่าวว่าเขาคบหากับดาราสาวไทยที่ชื่อ ซาร่า มาลากุล เลน แต่ฝ่ายหญิงออกมาให้ข่าวว่าเลิกรากันไปแล้วในเวลาต่อมา...เกือบลืมบอกไปว่า “Cutthroat Island” เดินทางมาถ่ายทำในบ้านเราด้วยที่อ่าวมาหยา จ.กระบี่

               ...............................
(Cutthroat Island หนังเจ๊งที่แสนสนุก : คอลัมน์เอกเขนกดูหนัง : โดย...ณัฐพงษ์ โอฆะพนม (เอก))