บันเทิง

'กุ้ง สุธิราช'ฉีกแนวฉากลิเกใช้จอแอลอีดียักษ์

'กุ้ง สุธิราช'ฉีกแนวฉากลิเกใช้จอแอลอีดียักษ์

21 พ.ย. 2555

'กุ้ง สุธิราช'ฉีกแนวฉากลิเกทุ่มทุนใช้จอแอลอีดียักษ์

          "กุ้ง-สุธิราช วงศ์เทวัญ" ลงทุนเหยียบล้านใช้จอแอลอีดีขนาดใหญ่แทนฉากผ้าเป็นเจ้าแรกของวงการลิเก เปลี่ยนภาพได้ตามเรื่องที่แสดง พร้อมระบบเสียงเซอราวนด์ เจ้าตัวยันคืนกำไรคนดูไม่ขึ้นราคา
 
          "กุ้ง-สุธิราช วงศ์เทวัญ" เจ้าของรางวัลนักร้องชายยอดเยี่ยม”คมชัดลึกอวอร์ดครั้งที่9 ใหสัมภาษณ์กับทีมข่าวบันเทิง”คมชัดลึก”ถึงการใช้จอแอลอีดีขนาดใหญ่มาเป็นฉากหลังแทนฉากผ้าว่า

          "เวทีลิเกผมปรับใหม่นอกจากจะมีหลังคาจะได้บังฝนได้แล้ว แต่เดิมฉากหลังผมใช้อิงค์เจ็ทเป็นภาพทั่วไป พอผมได้ไปดูคอนเสิร์ตใหญ่ๆ ดูละครเขาใช้จอแอลอีดีแล้วมันออกมาสวย ผมเลยคิดว่าถ้าเอามาใช้เป็นฉากลิเกน่าจะดูดี ผมเลยไปซื้อจอแอลอีดีขนาด 4x5 เมตร มาทำเป็นฉากหลังแทน แผ่นอิงค์เจ็ท และระบบแสงสีก็เปลี่ยนมาใช้แอลอีดีหมดเลยมันออกมาสวยดี"
 
          ผู้สื่อข่าวถามว่าราคาจอแอลอีดีขนาดใหญ่ต้องมีราคาแพงมากจะต้องขึ้นราคาของคณะหรือไม่ลิเกหนุ่มอมยิ้มก่อนบอกว่า
          "ก็ราคาทั้งระบบเป็นล้านเหมือนกันสำหรับจอแอลอีดี แต่ผมอยากคืนกำไรให้กับแฟนๆ ลิเก การดูมันจะมีอรรถรสขึ้นและมีความสมจริงมากขึ้นทั้งฉากที่เป็นป่า ฉากในท้องพระโรง หรือฉากท้องฟ้า ทุ่งนา เมื่อก่อนฉากจะตายอยู่ฉากเดียวพอเปลี่ยนมาเป็นจอแอลอีดีมันสมจริง และประกอบกับระบบเสียงใหม่ด้วย ส่วนเรื่องราคาคณะผมไม่ได้ขึ้นยังคงเท่าเดิม"
 
          เมื่อถามว่ากลายเป็นคณะลิเกที่ไฮเทคที่สุดตอนนี้ใช่หรือไม่กุ้ง สุธิราชกล่าวแบบถ่อมตัวว่า
          "น่าจะเป็นคณะแรกที่นำจอแอลอีดีมาแสดงแบบการแจ้ง คือถ้าเขาแสดงในห้องประชุมหรือโรงละครเขาก็อาจมีใช้กันบ้างแล้ว ผมน่าจะเป็นวงแรกที่ใช้จอแอลอีดีมาเป็นฉาก ซึ่งเวลาประกอบมันจะยากหน่อยเพราะต้องวัดระดับให้เท่ากันไม่งันมันจะเอียงไม่สวย ผมจะพัฒนาไปเรื่อยๆ"
 
          นอกจากเครื่องไม้เครื่องมือที่พัฒนาให้ทันสมัยขึ้นแล้วเมื่อถามถึงรูปแบบการแสดงด้านหน้าเวทีนั้นกุ้งบอกว่า
          "เวลาแสดงลิเกของผมในช่วง 2 ทุ่มถึงประมาณ 4 ทุ่มจะเป็นคอนเสิร์ต ลิเกจะแสดงตอน 4 ทุ่มเป็นต้นไป คราวนี้ก็พอเราเปลี่ยนมาใช้จอแอลอีดี การแสดงหน้าเวทีมันสนุกมากขึ้นมูฟเมนท์ (การเคลื่อนไหว) ต่างๆ มันน่าดูสวยงาม คนอยู่ไกลๆ ก็เห็นเราชัดขึ้นมากครับก็ลองติดตามผลงานของผมและชาวคณะได้ครับ"
.......................................
 
          ฉากลิเกแต่เริ่มแรกเป็นเพียงผ้าม่านเรียบๆ ขึงกับเวทีเป็นหน้าโรงและในโรง มีประตูเข้า-ออก ที่ด้านข้าง ต่อมาภายหลังจึงสร้างฉากที่เขียนเป็นภาพ ประกอบการแสดงให้ดูสมจริง สันนิษฐานว่าน่าจะได้อิทธิพลมาจากฉากงิ้วตามโรงบ่อนที่ลิเกแสดงสลับอยู่นั้นมาเป็นแบบอย่าง
 
          ปัจจุบันเวทีการแสดงได้พัฒนาส่วนประกอบด้านแสง สี และเสียงให้ดูตระการตาด้วยเทคโนโลยีสมัยใหม่ มีการเล่นแสงอุลตราไวโอเลตหรือแสงสีม่วง ทำให้ฉากลิเกต้องใช้สีสะท้อนแสงฉูดฉาดวาดบนผ้าใบ เพื่อให้สีเรืองแสง ต่อมาเมื่อเทคโลโยการพิมพ์ภาพขนาดใหญ่หรือที่เรียกว่า อิงค์เจ็ต เข้ามา ลิเกก็นำมาใช้กันแทนภาพวาดผ้าใบ และพัฒนามาเป็นจอแอลอีดีดังกล่าว